5 แข้งประกายแสงจากรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร2020 - FEATURE

Italy v Switzerland - UEFA Euro 2020: Group A
Italy v Switzerland - UEFA Euro 2020: Group A / Mike Hewitt/Getty Images
facebooktwitterreddit

แม้จะค้าแข้งอยู่ในวงการลูกหนังโลกกันมาได้หลายปีแล้ว และไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของแฟนบอลในวงกว้าง แต่ตอนนี้มีนักเตะหลายคนที่สามารถสร้างชื่อจากการรับใช้บ้านเกิดในศึก ยูโร2020 ได้สำเร็จ หลังโชว์ฟอร์มในรอบแบ่งกลุ่มได้แบบเข้าตามากๆ จึงตกเป็นข่าวว่ามีโอกาสได้ย้ายไปโชว์ฝีเท้ากับทีมใหญ่ๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งมีถึง 5 คนที่เปล่งประกายแสงได้ตามรายชื่อดังต่อไปนี้


มานูเอล โลคาเตลลี่

Manuel Locatelli
Italy v Switzerland - UEFA Euro 2020: Group A / Alberto Lingria - Pool/Getty Images

เริ่มต้นกันด้วย มานูเอล โลคาเตลลี่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ซึ่งเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสรจากการเป็นเด็กปั้นของทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลาน ในปี 2016 แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จ จึงตัดสินใจย้ายไปซบ ซาสซูโอโล่ ทีมระดับกลางๆ และกลายเป็นตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ของทีมต้นสังกัดปัจจุบันมาตั้งแต่ปี 2019 แล้วด้วย โดยเคยผ่านการรับใช้ทีมชาติอิตาลีในระดับเยาวชนมาแบบต่อเนื่อง ก่อนจะได้ก้าวเท้าขึ้นไปรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2020 หลังจากนั้นได้ยึดตำแหน่งตัวจริงในช่วงก่อนสู้ศึกยูโร 2020 พร้อมกับสร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มจนเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกจากเกมที่ซัดเบิ้ลเหมาคนเดียว 2 ประตูให้ทีมไล่ต้อน สวิตเซอร์แลนด์ 3-0 และคาดว่าแข้งหนุ่มวัย 23 ปีจะได้ย้ายไปอยู่ทีมใหญ่ๆ ในช่วงหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้อย่างแน่นอน เพราะมีข่าวว่าเป็นหนึ่งในนักเตะเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากหลายๆ สโมสรเลยด้วย


เดนเซล ดรัมฟรีส์

Denzel Dumfries
Netherlands v Austria - UEFA Euro 2020: Group C / Piroshka van de Wouw - Pool/Getty Images

ส่วนรายต่อมาคือ เดนเซล ดรัมฟรีส์ แบ็กขวาทีมชาติฮอลแลนด์ โดยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสรกับ สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัม ในปี 2014 และได้ย้ายไปอยู่กับ ฮีเรนวีน ในปี 2017 ก่อนจะย้ายไปซบ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ซึ่งเป็นทีมต้นสังกัดปัจจุบันมาตั้งแต่ปี 2018 ด้วยสไตล์การเล่นที่เป็นแบ็กจอมลุยเติมเกมรุกได้แบบดุดันดีเหลือเกิน จึงถูกเรียกตัวติดทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมกับยึดตำแหน่งตัวจริงทางฝั่งขวาในช่วงก่อนสู้ศึกยูโร 2020 ได้ด้วย ก่อนจะสร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มจนเป็นที่รู้จักของแฟนบอลทั่วโลกจากการยิง 2 ประตูใน 2 นัดแรก และมีโอกาสย้ายไปซบทีมใหญ่ๆ ในช่วงหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ได้เหมือนกัน เพราะเริ่มมีข่าวแล้วว่านักเตะวัย 25 ปีเริ่มเป็นที่หมายปองของหลายๆ สโมสรด้วยนั่นเอง


พาทริก ชิค

FBL-EURO-2020-2021-MATCH19-CRO-CZE
FBL-EURO-2020-2021-MATCH19-CRO-CZE / PAUL ELLIS/Getty Images

ขณะที่ พาทริก ชิค กองหน้าทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่สร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2020 ได้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าในเกมระดับสโมสรจะพเนจรย้ายไปเล่นให้กับหลายๆ ทีมเลยด้วย โดยเริ่มแจ้งเกิดกับ สปาร์ต้า ปราก ในปี 2014 และได้ย้ายไปค้าแข้งในอิตาลีกับ ซามพ์โดเรีย กับ โรม่า แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียเท่าไรนัก จึงย้ายไปโชว์ฝีเท้าในเยอรมนีกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยสัญญายืมตัวในปี 2019 ก่อนจะทำผลงานได้เข้าตา ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งเป็นทีมต้นสังกัดปัจจุบันที่ได้เซ็นสัญญาเข้ามาแนวรุกตั้งแต่ปี 2020 โดยรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดในระดับเยาวชนมาแล้วทุกระดับ จึงได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2016 โดยสร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2020 จากการซัดเบิ้ลเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ชนะ สก็อตแลนด์ 2-0 และได้สร้างความฮือฮาจากการยิงไกลครึ่งสนามเข้าไปตุงตาข่ายได้แบบสวยงามเหลือเกิน


โรมัน ยาเรมชุค

Roman Yaremchuk
Ukraine v North Macedonia - UEFA Euro 2020: Group C / Vadim Ghirda - Pool/Getty Images

ไปต่อกันด้วย โรมัน ยาเรมชุค กองหน้าทีมชาติยูเครน แม้จะเคยเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระดับสโมสรกับ ดินาโม เคียฟ เมื่อปี 2012 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่หวัง หลังจากนั้นได้ถูกปล่อยให้ โอเล็กซานดริย่า ยืมตัวไปใช้งานในปี 2016 โดยทำผลงานเข้าตา เก็นท์ จึงได้ย้ายไปเล่นในเบลเยี่ยมตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน และเคยรับใช้ทีมชาติบ้านเกิดในระดับเยาวชนมาแบบต่อเนื่องเลย ก่อนจะถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2018 โดยสร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2020 จากการวิ่งทำทางในจังหวะเล่นเกมโต้กลับได้อย่างรวดเร็ว แถมยิงซัดได้ 2 ประตูใน 2 เกมแรกด้วย จึงมีโอกาสได้ย้ายทีมในช่วงหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยเช่นกัน เพราะเริ่มมีข่าวว่าทีมใหญ่ๆ ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเลย


โรบิน โกเซ่นส์

Robin Gosens
Portugal v Germany - UEFA Euro 2020: Group F / Alexander Hassenstein/Getty Images

ปิดท้ายด้วย โรบิน โกเซ่นส์ แบ็กซ้ายทีมชาติเยอรมนี ซึ่งไม่เคยค้าแข้งบนดินแดนบ้านเกิดเสียด้วยซ้ำ เพราะเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ วิเทสส์ ในระดับสโมสรของฮอลแลนด์เมื่อปี 2014 แต่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จ จึงต้องย้ายไปซบ เฮราเคลส์ ทีมเล็กๆ ในปี 2015 แต่ฝีเท้าไปเข้าตา อตาลันต้า และได้ย้ายไปเล่นบนดินแดนอิตาลีในปี 2017 แม้จะสามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติฮอลแลนด์ตามสัญชาติของคุณแม่ได้ด้วย แต่นักเตะวัย 26 ปีได้ตัดสินใจรับใช้ทีมชาติเยอรมนีในปี 2020 และสร้างชื่อในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโร 2020 จากการยิงได้หนึ่งประตู พร้อมกับจัดได้อีก 2 แอสซิสต์ในเกมที่ยิงแซงชนะ โปรตุเกส 4-2 จึงเริ่มมีข่าวว่ากลายเป็นหนึ่งนักเตะเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ๆ อยู่เหมือนกัน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด