15 แข้งขาออกสุดปังฟันกำไรยับของ ลิเวอร์พูล ในยุค ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด - FEATURE
แม้ว่า ลิเวอร์พูล จะเสริมทัพได้อย่างน่าประทับใจและชาญฉลาดเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความสามารถของพวกเขาในการทำกำไรจากขายนักเตะนั้นก็น่าประทับใจไม่แพ้กันเลย
จริงอยู่ที่การเข้ามาของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ช่วยกู้สถานการณ์ของสโมสรได้มาก แต่หากไม่พูดถึง ไมเคิล เอ็ดเวิร์ด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเจรจาธุรกิจทั้งหลายแหล่ของสโมสรก็คงเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์
นี่คือผู้เล่น 15 คนที่ทำกำไรให้กับ หงส์แดง นับตั้งแต่ที่ เอ็ดเวิร์ด ย้ายเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการกีฬาในเดือนพฤศจิกายน 2016
ไตโว อโวนิยี
แม้จะย้ายมาด้วยค่าตัวราว 400,000 ปอนด์ ตั้งแต่ปี 2015 แต่ อโวนิยี ไม่เคยลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เลย เนื่องจากไม่สามารถขอใบอนุญาตทำงานในสหราชอาณาจักรได้
กองหน้ารายนี้ใช้ระหว่างนั้นไปกับการยืมตัว โดยล่าสุดคือกับ อูนิโอน เบอร์ลิน ทีมใน บุนเดสลีกา
และหลังจากช่วยให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่น ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก ได้ เขาก็ได้รับโอกาสย้ายทีมอย่างถาวรด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์
มาร์โก กรูยิช
นักเตะรายแรกของ คล็อปป์ ในฐานะผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ที่ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัว 5.1 ล้านจาก เร้ดสตาร์ เบลเกรด
แต่มิดฟิลด์รายนี้ลงเล่นให้สโมสรเพียง 508 นาทีในทุกรายการ และใช้เวลาไปกับการยืมตัวที่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้, แฮร์ธา เบอร์ลิน และ ปอร์โต้
ผลงานของเขาใน โปรตุเกส ดูจะน่าประทับใจไม่เบา เพราะล่าสุด ปอร์โต้ตกลงที่จะจ่ายเงิน 10.5 ล้านปอนด์เพื่อนำตัวเขาไปร่วมทีมแบบถาวรแล้ว
คามิล กราบารา
มือกาวที่ย้ายมาจากทีมในลีก โปแลนด์ ด้วยค่าตัวประมาณ 250,000 ปอนด์ เมื่อปี 2016 โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเป็นอย่างมากกับทีมสำรองของสโมสรจนถูก โคเปนเฮเกน ทุ่มเงินถึง 3 ล้านมาคว้าตัวไปเฝ้าเสาเสียเลย
เฮอร์บี้ เคน
เคน ย้ายเข้าร่วมทีมอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล เมื่ออายุ 15 ปีในปี 2013 แต่หลังจากที่ได้รับโอกาสลงเล่นใน ลีกคัพ ไปเพียง 2 เกม เขาจึงจำใจต้องย้ายไป บาร์นสลีย์ ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 1.25 ล้านปอนด์
ริอาน บริวสเตอร์
บริวสเตอร์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในอะคาเดมีของ เชลซี ก่อนย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เมื่ออายุ 14 ปี ฟอร์มการเล่นในระดับเยาวชนของเขาทำให้สื่อถึงกับยกให้เจ้าหนูคนนี้เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ฝีเท้าดีที่สุดของ อังกฤษ
หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่ขาอย่างรุนแรง กองหน้ารายนี้ทำไป 11 ประตูจากการลงเล่น 22 นัด ขณะที่ถูกยืมตัวไปเล่นให้ สวอนซี ซิตี้ ในปี 2019-20
แม้จะได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ หงส์แดง ไปเพียง 4 เกม แต่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ดูจะยินดีที่จะตกลงจ่ายเงิน 23.5 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวเขามาช่วยผลิตสกอร์หลังรอดตกชั้นมาได้สำเร็จ
ลิเวอร์พูล ได้ใส่เงื่อนไขซื้อตัว ริอาน กลับคืนมาด้วย แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากเขายังไม่สามารถทำประตูได้เลย จากการลงสนามไปรวม 30 เกมให้กับ เดอะ เบลดส์
คี-จานา ฮูเวอร์
แบ็คขวารายนี้ย้ายมาจากทีมเยาวชนของ อาแจ็กซ์ ด้วยค่าตัวเพียง 90,000 ปอนด์ในปี 2018 และเขาได้ประเดิมสนามในเกม เอฟเอคัพ รอบสามที่พ่ายแพ้ต่อ วูล์ฟส์ ในเดือนมกราคม 2019
กองหลังชาว ดัตช์ ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่อีก 3 เกมในฤดูกาล 2019-20 โดยทำประตูแรกให้กับ ลิเวอร์พูล ได้ในชัยชนเหนือ เอ็มเค ดอนส์
และถึงแม้จะไม่เคยเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้กับต้นสังกัดจริงๆ แต่ วูล์ฟส์ ก็ยังกล้าพอที่จะใช้เงิน 13.5 ล้านปอนด์ไปกับแข้งวัย 19 ปีรายนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
โอวี เอจาเรีย
เอจาเรีย เข้าร่วมอะคาเดมีของ ลิเวอร์พูล จาก อาร์เซนอล ในปี 2014 และได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไป 8 นัดในปี 2016-17
หลังจากผ่านการยืมตัวที่ ซันเดอร์แลนด์, เรนเจอร์ส และ เรดดิ้ง นักเตะวัย 23 ปีก็ตีดสินใจตอบรับข้อเสนอจากทีมหลังสุด พร้อมกับเรียกค่าตัวให้ ลิเวอร์พูล ไปถึง 3 ล้านปอนด์ในปี 2020
แดนนี อิงส์
อิงส์ ถูก ลิเวอร์พูล ดึงตัวไปร่วมทีมหลังหมดสัญญากับ เบิร์นลีย์ เมื่อปี 2015 แต่หลังจากนั้นก็ถูกศาลสั่งให้ต้องจ่ายค่าชดเชยไปถึง 8 ล้านปอนด์
กองหน้ารายนี้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่ตลอดระหว่างการค้าแข้งที่ แอนฟิลด์ โดยลงเล่นให้สโมสรเพียงไปเพียง 25 นัดในทุกรายการ
หลังจากประสบความสำเร็จในการยืมตัวที่ เซาแธมป์ตัน ในปี 2018-19 เขาจึงถูกดึงตัวไปร่วมทีมแบบถาวรด้วยค่าตัวที่สูงถึง 20 ล้าน แต่จวบจนถึงตอนนี้เขาทำไปแล้ว 34 ประตูจากการลงเล่น 67 นัดใน พรีเมียร์ลีก ตลอดสองฤดูกาลหลัง
ไรอัน เคนท์
อีกหนึ่งดาวรุ่งจากอะแคเดมีของสโมสร เคนท์ประเดิมสนามในเกมกับ เอ็กซิเตอร์ ใน เอฟเอ คัพ ปี 2016 และนั่นก็เป็นเพียงเกมเดียวของเขาสำหรับทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ดี เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เรนเจอร์ส ในปี 2018-19 ก่อนที่จะถูกคว้าตัวไปร่วมทีมแบบถาวรด้วยเงิน 7.5 ล้านปอนด์
เขาและ สตีเวน เจอร์ราร์ด คว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2020-21 และกำลังมีข่าวว่า ลีดส์ ต้องการให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งใน พรีเมียร์ลีก
โดมินิค โซลันกี
ลิเวอร์พูล จ่ายค่าชดเชย 3 ล้านปอนด์ให้ เชลซี เพื่อดึงตัวกองหน้าดาวรุ่งรายนี้มาร่วมทีมเมื่อ 4 ปีก่อน
แม้จะยิงได้เพียงประตูเดียวจากการลงเล่น 27 นัดให้กับ หงส์แดง แต่ บอร์นมัธ ก็ยังเต็มใจที่จะจ่ายเงิน 19 ล้านปอนด์เพื่อนำตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2019
โซลันกี ล้มเหลวอีกเช่นกันกับ เดอะ เชอร์รีส์ ก่อนที่จะเริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอบในฤดูกาลล่าสุดหลังยิงไป 18 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์
แดนนี วอร์ด
ย้ายมาจาก เร็กซ์แฮม ด้วยค่าตัวราว 100,000 ปอนด์ในเดือนมกราคม 2012 แต่ผู้รักษาประตูรายนี้ลงเล่นเพียง 3 เกมตลอด 5 ปีครึ่งที่ แอนฟิลด์
กระนั้น เลสเตอร์ ก็ยอมทุ่มเงินถึง 12.5 ล้านปอนด์มาคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2018
เขาเป็นเพียงแบ็คอัพของ แคสเปอร์ ชไมเคิล และยังไม่ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก เลย
ฟิลิปเป คูตินโญ
นักเตะทีมชาติ บราซิล รายนี้พัฒนาฝีเท้าตนเองจนกลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกหลังย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวเพียง 8.5 ล้านปอนด์ในปี 2013
เมื่อ บาร์เซโลนา ติดต่อมา ลิเวอร์พูล ดูจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่ที่ แอนฟิลด์ ต่อ แต่ก็ไม่เป็นผลและยินดีตอบรับข้อเสนอมูลค่า 142 ล้านปอนด์ไปในที่สุด
เขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิงนับตั้งแต่ย้ายออกไป ขณะที่ คล็อปป์ ได้เงินก้อนโตไปเสริมทัพจนคว้าแชมป์ลีกมาครองจนได้
มามาดู ซาโก้
ซาโก้ ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 และโชว์ฟอร์มเยี่ยมในฤดูกาลแรกของเขาใน อังกฤษ
อย่างไรก็ดีเขาไม่สามารถเอาชนะใจ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ และถูกขายให้กับ คริสตัล พาเลซ ด้วยค่าตัว 26 ล้านปอนด์ในปี 2017
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด