แมนยู นำก่อนโดน เฟอร์มิโน เบิ้ลแซงพลิกพ่ายเกมแดงเดือดคาบ้าน 2-4 - Match Report
การแข่งขัน :ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2021
เวลาแข่งขัน : 02.15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-4 ลิเวอร์พูล
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ลิเวอร์พูล ยังคงได้ลุ้นอีกเฮือกกับโอกาสในการได้ไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าหลังบุกมาเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่น
แม้จะทุลักทุเลเล็กน้อยก่อนเริ่มเกมจากการประท้วงของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด แต่การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้นตรงเวลาโดยไม่มีอุปสรรคใดๆเข้ามาขวางเอาไว้ได้
โอกาสยิงครั้งแรกมาจาก เฟอร์มิโน ของ ลิเวอร์พูล แต่โดน ไบญี บล็อคเอาไว้ได้
เจ้าบ้านไม่น้อยหน้า คาวานี อ่านจังหวะการผ่านบอลของ เบ็คเกอร์ แล้วไปตัดบอลมาได้แต่ยิงได้ไม่ถนัดหลุดกรอบออกไปอย่างหน้าเสียดาย เอาซะเจ้าตัวถึงกับหน้าเสียเลย
นาทีที่ 9 ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อนจาก แฟร์นันดส์ ที่รับบอลมาจาก วาน-บิซซาก้า ในกรอบเขตโทษแล้วยิงไปชิ่ง ฟิลลิปส์ เข้าประตู
หลังเสียประตู ลิเวอร์พูล กลับมาครองเกมได้อย่างเกือบเบ็ดเสร็จแต่ก็ยังหาโอกาสยิงไม่ได้
นาทีที่ 22 โชต้า มีโอกาสได้ยิงเข้ากรอบจากบอลของ เทรนต์ ที่ตักข้ามมาถึงกรอบเขตโทษ แต่ เฮนเดอร์สัน ยังออกมาบล็อคเอาไว้ได้
ลิเวอร์พูล เกือบได้จุดโทษในนาทีที่ 26 จากการเตะสกัดบอล ไบญี ที่แม้จะตั้งใจเล่นบอลแต่ก็กลายเป็นไปย่ำเข้าไปที่เท้าของ ฟิลลิปส์ เต็มๆ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะต้องไปดู VAR และเป่าให้เล่นกันต่อไป
โชต้า ได้โอกาสยิงเข้ากรอบอีกครั้งเน้นๆแต่ เฮนเดอร์สัน ยังซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกไปได้
นาทีที่ 33 จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม บอลไปถึง ฟิลลิปส์ หมุนตัวเตะไปถึง โชต้า กระโดดไขว้บอลเปลี่ยนทางเข้าไป 1-1
ช่วงท้ายครึ่งแรก ยูไนเต็ด กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมบ้างแต่ก็ยังไม่สามารถบวกประตูเพิ่มได้
นาทีที่ 45+2 เฟอร์มิโน โขกให้ ลิเวอร์พูล ออกนำจากลูกเปิดฟรีคิกจากครึ่งสนาม
ผู้ตัดสินปล่อยให้เจ้าบ้านเขี่ยบอลเล่นอีกาักพักก่อนที่จะเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันใน 45 นาทีแรก
เริ่มครึ่งหลังมาได้ครู่เดียว เฟอร์มิโน ก็ยิงประตูที่ 2 ของตัวเองในเกมนี้ได้จากการเข้าไปซ้ำบอลที่ เฮนเดอร์สัน ปัดทิ้งออกมา
โชต้า เกือบบวกประตูอีกลูกหลังหลุดไปยิงไปชนเสาอย่างจัง
ผ่านมาถึงนาทีที่ 60 ยูไนเต็ด ยังแทบโงหัวไม่ขึ้นและโดนการเพรสซิ่งของ ลิเวอร์พูล เล่นงานจนไปไม่เป็นเลย
นาทีที่ 61 เทรนต์ มีโอกาสหลุดมายิงแต่ เฮนเดอร์สัน ยังเซฟไว้ได้อีก
แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ส่ง กรีนวู้ด ลงมาดูเล่นกันได้อย่างมั่นใจขึ้นและเกมก็เริ่มโอนเองมาทางพวกเขามากขึ้น
นาทีที่ 67 คาวานี ที่เงียบไปพักใหญ่ดึงจังหวะเก็บบอลไว้กับตัวก่อนจะปล่อยให้ แรชฟอร์ด หลุดไปยิงไล่ตามมา 2-3
ยูไนเต็ด มีโอกาสอีกหนจากการพาบอลควบขึ้นไปของ ชอว์ แต่ก็ยังไม่ได้ประตูตีเสมอ
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเกม ทั้ง 2 ทีมเริ่มเล่นกันหนักขึ้นเรื่อยๆ
แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดันกันขึ้นมาทั้งแผงพยายามถ่ายบอลกันไปมาเพื่อหาช่องแต่ก็ยังเจาะแนวรับของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้
ซาลาห์ ได้โอกาสหลุดเดี่ยวไปยิงให้ทีมนำห่างไป 2-4 ในนาทีที่ 90
หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ยูไนเต็ด ถูก ลิเวอร์พูล บุกมาขย้ำถึงถิ่นและโอกาสในการไปเล่นฟุตบอล ยุโรป ของพวกเขาก็ดูจะเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ