อองโตนี มาร์กซิยาล และอีก 5 แข้งที่ย้ายมาร่วมทัพ แมนยู พร้อมกัน - WHERE ARE THEY NOW?

อองโตนี มาร์กซิยาล, เมมฟิส เดปาย และ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อองโตนี มาร์กซิยาล, เมมฟิส เดปาย และ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด /
facebooktwitterreddit

อองโตนี มาร์กซิยาล กลายเป็นแข้งรายล่าสุดจากมรดกการเซ็นสัญญาของ หลุยส์ ฟาน กัล ในฐานะกุนซือ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ ตลาดซื้อขายนักเตะ ฤดูกาล 2015/16 ที่ย้ายออกจากทีม (ด้วยสัญญายืมตัว) สู่ เซบียา อย่างเป็นทางการ

เราพาผู้อ่านย้อนรอยกลับไปตามรอยอีก 5 การเซ็นสัญญาของ ปีศาจแดง ที่ย้ายมาร่วมทัพพร้อมๆ กับ มาร์กซิยาล และในเวลานี้พวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง


อองโตนี มาร์กซิยาล

Anthony Martial, Juan Mata
Manchester United v Liverpool - Premier League / Shaun Botterill/GettyImages

ย้ายจาก: โมนาโก
มูลค่า: 54 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน: เซบียา (สัญญายืมตัวจาก แมนฯ ยูไนเต็ด)

ให้หลัง 1 ฤดูกาลที่ อองโตนี มาร์กซิยาล เดบิวต์ให้กับ โมนาโก เขาก็กลายเป็นกำลังหลักของทีมในซีซันถัดมา ก่อนจะถูก แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทัพด้วยมูลค่า 36 ล้านปอนด์บวกออปชันโบนัสที่จะทำให้ยอดรวมสูงถึง 58 ล้านปอนด์ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น กลายเป็นแข้งวัยทีนมูลค่าสูงสุดทำลายสถิติเดิมของ ลุค ชอว์ (แมนฯ ยูไนเต็ด - 27 ล้านปอนด์) และ มาร์ควินญอส (เปแอสเช - 27 ล้านปอนด์)

มาร์กซิยาล ตอบแทนความไว้วางใจของ ปีศาจแดง ได้ทันทีตั้งแต่ซีซันแรกในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยการตะบัน 17 ประตูจากทั้งหมด 49 นัดเมื่อรวมทุกรายการ เป็นตัวเลขที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในเส้นทางค้าแข้งจนถึงเวลาดังกล่าว พาทีมซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ และคว้าเกียรติยศ โกลเด้นบอย 2015

ดาวยิงชาว ฝรั่งเศส กลายเป็นคีย์แมนให้กับทีมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุค หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ มูรินโญ และต้นยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ก่อนที่เขาจะถูกจำกัดการลงสนามตั้งแต่เมื่อซีซัน 2020/21 จนถึงเวลานี้กับ ราล์ฟ รังนิค และกลายเป็น เซบียา ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมภายใต้สัญญายืมตัว


มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน

Morgan Schneiderlin
International Champions Cup 2015 - Club America v Manchester United / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ย้ายจาก: เซาแธมป์ตัน
มูลค่า: 31.5 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน: นีซ

มิดฟิลด์ตัวรับชาว ฝรั่งเศส สร้างชื่อระหว่างการลงเล่นในยูนิฟอร์ม เซาแธมป์ตัน ระหว่างปี 2008-2015 เป็นคีย์แมนสำคัญพาทีมตะลุยเลื่อนชั้นจาก ลีกวัน สู่ พรีเมียร์ลีก ติดต่อกัน 3 ฤดูกาล

ชไนเดอร์ลิน เริ่มต้นด้วยการถูกโรเตชันในทีมของ ฟาน กัล ก่อนจะได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอหลังผ่านราวครึ่งฤดูกาล ทว่าเจ้าตัวโดนดองยาวเมื่อขึ้นซีซันใหม่และถูกปล่อยตัวให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในที่สุดช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2017 ด้วยมูลค่าราว 20.7 ล้านปอนด์

หลังจากนั้นเมื่อปี 2020 เจ้าตัวได้เปิดอกกับ ดิแอธเลติก ให้สัมภาษณ์ว่าไม่สบอารมณ์นักกับวิธีการจัดการทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อครั้งเล่นให้กับ ปีศาจแดง เจ้าตัวกล่าวโดยสรุปว่านายใหญ่ชาวดัตช์บงการวิธีการเล่นในสนามของเขามากเกินไปจนทำให้เสียความมั่นใจและส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของตนเองในสนาม


เมมฟิส เดปาย

FBL-ENG-PR-NED-MANUTD-PSVEINDHOVEN
FBL-ENG-PR-NED-MANUTD-PSVEINDHOVEN / OLI SCARFF/GettyImages

ย้ายจาก: พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน
มูลค่า: 30.6 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน: บาร์เซโลนา

ให้หลังจากการส่ง พีเอสวี เถลิงบัลลังก์แชมป์ เอเรดิวิซี และคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดลีกดัตช์ กระทั่งส่งผลให้เขามีชื่อกลายเป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมปี 2015 โดย ฟรองซ์ ฟุตบอล เหนือแข้งอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง (อันดับที่ 3) และ มาร์ควินญอส (อันดับที่ 2) เมมฟิส เดปาย ก็กลายเป็นการเซ็นสัญญาแบบตัวความหวังของเหล่า เร้ดเดวิลส์ ตามรอยกองหน้ารุ่นพี่ระดับพระกาฬอย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย

เดปาย ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอสลับกับการเป็นตัวสำรองในซีซันแรกกับบทบาทตัวรุกริมเส้นฝั่งซ้ายทว่าไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้ เขามีสถิติยิงประตูในลีกเพียง 2 ลูกกับ 1 แอสซิสต์เท่านั้นจากการลงสนาม 29 นัด

หนึ่งในปมปัญหาที่ผุดขึ้นมาช่วงเวลาดังกล่าวคือการที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ระบุว่าฟุตบอลในอังกฤษ แข่งขันกันถี่เกินไปทำให้ร่างกายของเขาต้องใช้เวลาเพื่อปรับตัวสร้างความเคยชิน ทว่า ไรอัน กิ๊กส์ ในฐานะผู้ช่วยของ ฟาน กัล ในเวลานั้นโต้ว่าเป็นเพราะไลฟ์สไตล์ที่เจ้าตัวชื่นชอบในแสงสี ชีวิตกลางคืนจึงส่งผลกระทบต่อปอร์มการเล่น

เดปาย โดนดองในฤดูกาลที่ 2 กับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด กับสถิติลงสนามเพียง 4 นัดเป็นตัวสำรองทั้งหมดใน พรีเมียร์ลีก ใช้เวลารวมเพียง 20 นาทีและออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 1 เกมในศึก ลีกคัพ ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวให้กับ ลียง ด้วยมูลค่าราว 14.4 ล้านปอนด์ในตลาดหน้าหนาว


มัตเตโอ ดาร์เมียน

Matteo Darmian
International Champions Cup 2015 - Club America v Manchester United / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ย้ายจาก: โตริโน
มูลค่า: 16.2 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน: อินเตอร์

ฟูลแบ็คดีกรีมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของศึก กัลโช เซเรีย อา 2 สมัยติดต่อกัน (2013/14-2014/15) เข้ามาเติมเต็มตำแหน่งแบ็คขวาของ แอชลีย์ ยัง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่มีอายุขึ้นหลักเลข 3 ทั้งคู่ในเวลาดังกล่าว ไปจนถึงความหลากหลายที่สามารถประจำการในตำแหน่งแบ็คซ้ายได้อีกด้วย

ความสม่ำเสมอของ ดาร์เมียน ทำให้เขาทะยานกลายเป็นตัวเลือกแรกในบทบาทแบ็คขวาทันทีโดยเฉพาะเมื่อ แอชลีย์ ยัง และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บระยะยาว ก่อนที่เขาจะกลายเป็นตัวเลือกรองในยุคของ โชเซ มูรินโญ และถูกปล่อยตัวออกจากทีมในที่สุดยุคของ โอเล กุนนาร์​ โซลชา เมื่อทีมคว้าตัว อารอน วาน-บิสซาก้า มาจาก คริสตัล พาเลซ

เขาถูกขายให้กับ ปาร์มา ในซัมเมอร์ 2019 ด้วยมูลค่าราว 2 ล้านปอนด์เท่านั้นก่อนที่จะถูก อินเตอร์ มิลาน ยืมตัวพ่วงออปชันซื้อขาดในฤดูกาลถัดมา เป็นส่วนหนึ่งของทีมในการคว้าแชมป์ กัลโช เซเรีย อา และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา และกลายเป็นแข้งถาวรของทัพ งูใหญ่ ในเวลานี้


บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์

International Champions Cup 2015 - Club America v Manchester United
International Champions Cup 2015 - Club America v Manchester United / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ย้ายจาก: บาเยิร์น มิวนิค
มูลค่า: 8.1 ล้านปอนด์
ปัจจุบัน: แขวนสตั๊ด

อดีตลูกหม้อของทัพ เสือใต้ ย้ายสู่รัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงท้ายของเส้นทางค้าแข้งกับวัย 31 ปีในเวลานั้น นับเป็นการหวนคืนการทำงานกับอดีตนายใหญ่ของ บาเยิร์น อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล อีกคำรบ

ชไวน์สไตเกอร์ ได้รับโอกาสลงสนามอย่างสม่ำเสมอในช่วงต้น ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะทำให้เขาปิดเทอมยาวนับตั้งแต่ช่วงมกราคม 2016 ขณะที่การเปลี่ยนผ่านจาก ฟาน กัล สู่ โชเซ มูรินโญ ก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอนาคตเจ้าตัว

การร้างสนามไปอย่างยาวนานของเจ้าตัวทำให้ จ่ามู สั่งให้เขาลงไปซ้อมร่วมกับทีมชุด ยู-23 ของปีศาจแดง และกลายเป็นหนึ่งในปมแตกหักระหว่างแข้งซีเนียร์ในทีมกับ มูรินโญ ในเวลาต่อมาโดย ชไวน์ไสตเกอร์ ลงสนามให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปเพียง 4 นัดเท่านั้นเมื่อรวมทุกรายการในซีซัน 2016/17 และถูกปล่อยตัวให้กับ ชิคาโก้ ไฟเออร์ ในศึก เมเจอร์ลีก ซ็อคเกอร์ สหรัฐอเมริกา

เจ้าตัวแขวนสตั๊ดเมื่อปี 2019 ในขณะที่มีอายุได้ 35 ปีกับทัพ ชิคาโก้ โดยล่าสุดเจ้าตัวประกาศรับบทบาทเป็นกูรูให้ทัศนะทางโทรทัศน์สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ เป็นเจ้าภาพ


เซร์คิโอ โรเมโร

Sergio Romero
Aston Villa v Manchester United - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

ย้ายจาก: ซามพ์โดเรีย
มูลค่า: ฟรี
ปัจจุบัน: เวเนเซีย

แม้จะมีสถานะเป็นนายด่านมือ 2 ตลอดกาลตัวสำรองของ ดาบิด เด เคอา ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า เซร์คิโอ โรเมโร มีสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่ลงเล่นให้กับทีมชาติ อาร์เจนตินา มากที่สุด 96 นัด โดยหากนับผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ทั้งหมดของทัพ ฟ้าขาว เจ้าตัวรั้งอันดับที่ 9 ตามหลังแข้งอย่าง ลิโอเนล เมสซี, ฮาเวียร์ มาสเคราโน, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, อังเคล ดิ มาเรีย, ดิเอโก้ ซิเมโอเน, เซร์คิโอ อเกวโร และ ออสการ์ รุจเจรี

กระทั่ง ดิเอโก้ มาราโดนา (96 นัด) ยังลงเล่นให้กับ อาร์เจนตินา น้อยกว่าเจ้าตัว

โรเมโร มักได้รับโอกาสลงเล่นในฟุตบอลถ้วยและ ยูโรปาลีก ตลอด 6 ฤดูกาลกับทีม หนึ่งในช่วงเวลาที่น่าประทับใจคือการออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปาลีก 2016/17 รักษาคลีนชีทพาทีมเอาชนะ อาแจ็กซ์ 2-0 คว้าแชมป์สำเร็จ