เวนเกอร์ เตือน เชลซี ระวังบิ๊กบอส โบห์ลี่ ล้วงลูกกุนซือ

Chelsea FC v Real Madrid: Quarterfinal Second Leg - UEFA Champions League
Chelsea FC v Real Madrid: Quarterfinal Second Leg - UEFA Champions League / Craig Mercer/MB Media/GettyImages
facebooktwitterreddit

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตนายใหญ่ อาร์เซน่อล เผย ไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงกับการที่ ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของสโมสร เชลซี บุกเข้าไปเฉ่งนักเตะและกุนซือในห้องแต่งตัว พลางออกปากเตือน ระวัง โบห์ลี่ จะใช้อำนาจเกินขอบเขต กลายเป็นการรุกล้ำการทำงานของคนเป็นกุนซือเข้าสักวัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจบเกม พรีเมียร์ลีก ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ ซึ่ง เชลซี แพ้ ไบรท์ตัน คาบ้าน 1-2 ด้วยรูปเกมที่สู้ผูมาเยือนไม่ได้เลย ไบรท์ตัน มีโอกาสยิงรวมถึง 26 ครั้ง ตรงกรอบ 10 ซึ่งหมายถึงน่าโดนยิงประตูมากกว่า 2 เม็ด

หลังจบเกม โบห์ลี่ พร้อมกับผู้ช่วยคนสนิท เบกแดด เอ็กห์บาลี ได้เข้าไปยังห้องแต่งตัวของ เชลซี ที่ใต้ถุนสนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อพบกับทั้งนักเตะ เชลซี และสตาฟฟ์โค้ช โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงก่อนจะออกมา

แม้ไม่มีการเผยชัดๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องแต่งตัว แต่ก็เป็นที่คาดการณ์ว่า ทั้งนักเตะและกุนซือชั่วคราวอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด โดนอบรมขนานใหญ่อย่างแน่นอน ภายหลังผลงานไม่เป็นที่พอใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะ โบห์ลี่ ที่ลงทุนไปกว่า 500 ล้านปอนด์เพื่อเสริมทัพในช่วงที่ผ่านมา

ล่าสุด ตำนานผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล เอ่ยถึงเรื่อง โบห์ลี่ ว่าในระยะยาวอาจเป็นเรื่องน่ากังวลของ เชลซี ว่ากุนซือจะกลายเป็นแค่หุ่นเชิดของท่านเจ้าของ อย่างที่เกิดขึ้นในฟุตบอลบางประเทศ

เมื่อถามถึงว่าเจ้าของสโมสร อาร์เซน่อล เคยบุกเข้าห้องแต่งตัวบ้างหรือไม่ เวนเกอร์ ตอบกับ บีอิน สปอร์ตส์ ว่า "ไม่เลย ไม่มีทาง และผมเองไม่มีวันยอมรับสิ่งนี้ ผมใส่ข้อตกลงอะไรแบบนี้ไว้ในสัญญาทำทีมด้วยซ้ำ"

"คำแนะนำที่ผมอยากให้กับโค้ชหนุ่มๆ เมื่อเขาทำสัญญากับสโมสรใด คือคุณต้องยึดมั่นในสิ่งที่สำคัญกับคุณ ทำให้ชัดเจนว่าตัวคุณเองสำคัญสุด สโมสรไม่อาจซื้อนักเตะโดยปราศจากความเห็นชอบของคุณได้ ไม่มีใครสามารถแทรกแซงงานของคุณได้ และคุณคือคนเดียวที่มีหน้าที่จัดการทีม"

"การกระทำของเจ้าของจะช่วยปลุกใจทีม? ผมไม่เชื่อหรอกนะ เพราะถ้าผมถูกจ้างให้มาเป็นคนปลุกเร้าทีม จัดการทีม ผมก็คงไม่ต้องการให้ใครอื่นมาทำงานทับไลน์ของผม"

"มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งเมื่อประธานสโมสรเข้าไปในห้องแต่งตัว แล้วพูดอะไรไม่ค่อยเข้าหู แต่ทีมกลับมาชนะได้นั่นก็เพราะพวกเขาคือทีมที่ดี แม้เขาจะคิดว่ามันเป็นเพราะการพูดของเขาก็ตาม ที่จริงมันอาจไม่เกี่ยวกันเลย เป็นเรื่องของคุณภาพทีมมากกว่า"