บาร์ซ่า โดนยับ, แมนยู พลิกแซง, เชลซี บุกพ่าย - สรุปผล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คืนวันพุธ

SL Benfica v FC Barcelona - Group E - UEFA Champions League
SL Benfica v FC Barcelona - Group E - UEFA Champions League / Gualter Fatia/Getty Images
facebooktwitterreddit

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดที่ 2 รอบแบ่งกลุ่มคืนวันพุธมีสองทีมจาก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลงทำการแข่งขัน โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ บียาร์เรอัล ไปได้แบบหืดจับ 2-1 ส่วน เชลซี บุกไปพ่ายต่อ ยูเวนตุส ถึง ตูริน 1-0 โดยผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ มีดังนี้


กลุ่ม อี

บาเยิร์น มิวนิค 5-0 ดินาโม เคียฟ (เลวานดอฟสกี้ 12, 27, กนาบรี้ 68, ซาเน 74, ชูโพ โมเต็ง 87)
เสือใต้ยังคงฟอร์มดุเปิดบ้านถล่ม ดินาโม เคียฟ ไม่เลี้ยงโดยมาได้ 2 ประตูจาก เลวานดอฟสกี้ ตั้งแต่ช่วง 30 นาทีแรก ก่อนที่จะไล่บดอย่างหนัก จนนาทีที่ 68 กนาบรี้ มาซัดประตูที่สามให้ทีมก่อนที่ ลีรอย ซาเน จะมาบวกลูกที่สี่ในนาทีที่ 74 ช่วงท้ายเกมหัวหอกตัวสำรอง เอริค มักซิม ชูโพ-โมเต็ง มายิงปิดกล่องให้ บาเยิร์น คว้าชัยไปอย่างท่วมท้น 5-0

เบนฟิก้า 3-0 บาร์เซโลนา (นูเนซ​ 3, 79, ซิลวา 69)
เริ่มเกมได้เพียง 3 นาทีเจ้าบ้านออกนำเร็วจากจังหวะลากเดี่ยวเข้าเขตโทษของ ดาร์วิน นูเนซ ก่อนจะซัดผ่านมือ สเตเก้น เข้าไป หลังจากนั้นทีมเยือนโหมบุกอย่างหนักสร้างโอกาสได้หลายครั้งแต่ขาดความเฉียบคมจนนาทีที่ 69 ราฟา ซิลวา เก็บตกจังหวะสองในกรอบเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าไป ยังไม่จบแค่นั้นนาทีที่ 79 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลและเป็น นูเนซ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดช่วยให้ เบนฟิก้า พลิกล็อคเอาชนะ บาร์เซโลนา ขาดลอย 3-0

Darwin Nunez, Gilberto
SL Benfica v FC Barcelona - Group E - UEFA Champions League / Gualter Fatia/Getty Images

กลุ่ม เอฟ

อตาลันต้า 1-0 ยัง บอยส์ (เปสซินา 68')
เริ่มเกมเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้ชัดเจนกว่าตามคาด และมีจังหวะส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปได้จากจังหวะทำเข้าประตูตัวเองของ ซานโดร เลาเปอร์ แต่ VAR จับว่ามีการล้ำหน้าไปก่อน จากนั้นแม้จะโหมบุกอย่างหนักแต่ก็ทำได้แค่เกือบทำให้จบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 0-0 ครึ่งหลังเจ้าบ้านพยายามเปิดเกมเข้าใส่อย่างหนักจนในนาทีที่ 68 พวกเขาออกนำได้สำเร็จจากจังหวะที่ ซาปาต้า หลุดถึงเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้ เปสซินา ยิงจ่อ ๆ เข้าไป และนั่นเป็นประตูเดียวที่เกิดขึ้น จบ 90 นาที อตาลันต้า เฉือนชนะ ยัง บอยส์ ไปได้ 1-0

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 บียาร์เรอัล (อัลกาเซร์ 53, เทลเลส 60, โรนัลโด้ 90+5 )
เริ่มเกมมาเจ้าบ้านไม่ได้ดูเหนื่อกว่าทีมเยือนมากนัก แม้จะครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย แต่จังหวะจบสกอร์เป็นทีมเยือนที่ดูจะใกล้เคียงมากกว่า โดยประตูแรกของเกมต้องรอจนครึ่งเวลาหลังในนาทีที่ 53 ดันจูมา หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนตบเข้ากลางให้ อัลกาเซร์ ชาร์จจ่อ ๆ เข้าไป แต่หลังจากนั้นเพียง 5 นาที อเล็กซ์ เทลเลส วอลเล่ด้วยซ้ายนอดกรอบบอลพุ่งเสียบมุมไปอย่างงดงามตีเสมอให้เจ้าถิ่นได้สำเร็จ เกมทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอแต่แล้วช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คริสเตียโน โรนัลโด้ เก็บตกบอลจาก ลินการ์ด ก่อนซัดจ่อ ๆ เข้าไปช่วยให้ ปีศาจแดง พลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด 2-1

Cristiano Ronaldo
Manchester United v Villarreal CF: Group F - UEFA Champions League / Laurence Griffiths/Getty Images

กลุ่ม จี

ซัลซ์บวร์ก 2-1 ลีลล์ ( อเดเยมี 35, 53, ยิลมาซ 62)
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กันจนในนาทีที่ 35 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษและเป็น คาริม อเดเยมี ที่สังหารเข้าไป จากนั้นทีมเยือนพยายามเร่งเกมบุกแต่ก็ยังทำได้แค่หวาดเสียวก่อนที่นาทีที่ 53 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษอีกครั้งและ อเดเยมี คนเดิมก็สังหารเข้าไปไม่พลาด ด้านผูมาเยือนมาตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 62 จาก บูรัค ยิลมาส แต่ก็ไล่ไม่ทัน จบเกม ซัลซ์บวร์ก เปิดบ้านเอาชนะไป 2-1

โวล์ฟบวร์ก 1-1 เซบีญา (สตีฟเฟน 48, ราคิติช 87)
เริ่มครึ่งเวลาแรกทีมเยือนเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้มากกว่า แต่ก็ยังเปลี่ยนโอกาสที่มีให้เป็นประตูไม่ได้ ด้านเจ้าถิ่นพยายามตั้งรับและอาศัยความผิดพลาดในการเล่นเกมสวนกลับ แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ตลอด 45 นาทีแรก แต่แล้วเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 3 นาที เจ้าบ้านออกนำก่อนจาก เรนาโต้ สตีฟเฟน หลังจากนั้นผู้มาเยือนพยายามโหมบุกอย่างหนักจนช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านมาเหลือ 10 คนจากการที่ โจชัว กิลาโวกู สะกัด ลาเมลา ในกรอบเขตโทษโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป จากนั้น อิวาน ราคิติช รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาดช่วยให้ เซบีญา บุกมายันเสมอกับ โวล์ฟบวร์ก ไป 1-1

Ivan Rakitic
VfL Wolfsburg v Sevilla FC: Group G - UEFA Champions League / Martin Rose/Getty Images

กลุ่ม เอช

เซนิต 4-0 มัลโม (เคลาดินโญ 9, คุซยาเอฟ 49, ซูตอร์มิน 80, เวนเดล 90+4)
เริ่มเกมได้เพียง 9 นาทีเจ้าบ้านออกนำเร็วจากจังหวะที่ ซานโตส หลุดมาทางกราบซ้ายก่อนตบเข้ากลางมาให้ เคลาดินโญ ยิงง่าย ๆ เข้าไป จากนั้นต้องรอจนถึงครึ่งเวลาหลัง รากิตสกี้ ลุยเข้าเขตโทษก่อนโยนโดงมาให้ คุซยาเอฟ โขกเล่นทางเข้าไปในนาทีที่ 49 หลังจากนั้น 4 นาทีทีมเยือนมาเหลือผู้เล่น 10 คนจากการที่ อาห์เม็ดโฮดซิช โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ช่วงท้ายเกมเจ้าบ้านมาบวกประตูที่สามจากจังหวะยิงไกลของ ซูตอร์มิน และช่วงทดเจ็บมาได้อีกลูกปิดกล่องจากจังหวะซ้ำจ่อ ๆ ของ เวนเดล ช่วยให้ เซนิต เปิดบ้านเอาชนะ มัลโม ไปได้ขาดลอย 4-0

ยูเวนตุส 1-0 เชลซี (เคียซา 46)
ทีมเยือนเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า แต่แทบหาโอกาสเจาะเข้าพื้นที่อันตรายของเจ้าถิ่นไม่ได้เลย ในขณะที่เข้าบ้านรอตั้งรับอย่างใจเย็นและใช้โอกาสสวนกลับเล่นงานแผงหลังผู้มาเยือนแบบได้น้ำได้เนื้อมากกว่าเล็กน้อย กระทั่งเริ่มครึ่งเวลาหลังได้ไม่กี่วินาที เฟเดริโก้ เคียซา โฉบมายิงเสียบใต้คานให้ ม้าลาย ออกนำก่อน ช่วงเวลาทีเหลือ สิงห์บลู พยายามอย่างหนักที่จะไล่ตีเสมอแต่ก็ไม่เฉียบขาดพอทำให้จบเกม ยูเวนตุส เปิดบ้านเ์อนเอาชนะ เชลซี ไปได้ 1-0

Juventus v Chelsea FC: Group H - UEFA Champions League
Juventus v Chelsea FC: Group H - UEFA Champions League / Chris Ricco/Getty Images

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด