[RANKING] ของดีราคางาม ! 5 แข้งสัญญายืมตัว ที่โชว์ฟอร์มเทพในฤดูกาลนี้

เมื่อพูดถึงการย้ายทีมของเหล่านักฟุตบอลแล้ว ส่วนใหญ่เรามักจะให้ความสำคัญกับดีลที่มีการซื้อ-ขายกันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะกับคนที่มีค่าตัวสูง ๆ เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาคือระดับท็อปที่ได้รับการพิสูจน์ว่า "เจ๋งจริง"

ส่วนใครที่ย้ายทีมด้วยการยืมตัว ก็จะไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ดาวรุ่งที่พยายามหาโอกาสลงสนามกับทีมที่เล็กกว่าต้นสังเดิม มักเป็นพวกแข้งส่วนเกินที่เหล่ากุนซือไม่อยากเก็บไว้ใช้งาน

อย่างไรก็ตาม การเป็นแข้งสัญญายืม ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไร้ความสามารถไปซะทุกคน เพราะหลาย ๆ ครั้งก็มีตัวท็อปหลุดมาอยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน

วันนี้เรามาดูว่ามีใครบ้างที่อยู่ในฐานะ "แข้งตัวยืม" แต่กลับระเบิดฟอร์มเทพให้กับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างน่าทึ่งในฤดูกาลปัจจุบัน

1. คริส สมอลลิง

"พี่ไมค์" ถือเป็นหนึ่งในปราการหลังคู่บุญของทีมดังอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะอยู่ค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด มาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แถมยังได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องทุกนักแม้จะค้านสายตาแฟนบอลแค่ไหนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของ สมอลลิง ถูกลดลงไปจากเดิมมากในช่วง 1-2 ปีหลังสุด จนทำให้ต้องยอมย้ายออกจากทีมรักไปอยู่กับ โรมา แบบยืมตัวเพราะกลัวโดนดองยาวอยู่ข้างสนาม ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกสุด ๆ เพราะมันเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นมหาศาลในระดับที่เขาเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน

ภายใต้ชุดแข่งสีแดงเข้มของทัพหมาป่าแห่งกรุงโรม สมอลลิง ระเบิดฟอร์มเทพติดต่อกันทุกนัด ไม่มีลูกเหวอ ไม่มีช็อตเฟอะฟะเหมือนกับสมัยอยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว สถิติต่าง ๆ ในแต่ละเกมก็สูงลิบลิ่วจนเพื่อนร่วมทีม โรมา เทียบไม่ติดด้วยซ้ำ

ล่าสุดเขาให้สัมภาษณ์เป็นนัยว่าอยากย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่ โรม ให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะมีความสุขสุด ๆ ทั้งการเล่นฟุตบอลและใช้ชีวิตเลยทีเดียว

2. เมาโร อิคาร์ดี

ก่อนอื่นต้องบอกว่าการย้ายมาอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยสัญญายืมของ อิคาร์ดี สร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลอย่างมาก เพราะเขาคือกองหน้าตัวท็อปที่ อินเตอร์ มิลาน ขาดไม่ได้มานานหลายปี แถมมีหลายทีมใหญ่ ๆ พยายามติดต่อขอซื้ออยู่ตลอดทุกปี แต่ไม่มีใครสามารถปิดดีลได้จริงเลยแม้แต่รายเดียว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามองข้ามเรื่องระหว่าง อิคาร์ดี กับ อินเตอร์ ไปแล้วมองแค่ผลงานส่วนตัวอย่างเดียว ก็จะพบว่าเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จกับทีมใหม่อย่างมากเลย เพราะสามารถเบียดแย่งตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าจาก เอดินสัน คาวานี ได้ทันที แถมยังเล่นร่วมกับซูเปอร์สตาร์อย่าง เนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป ได้อย่างเข้าขารู้ใจอีกต่างหาก

ตลอดทั้งฤดูกาล อิคาร์ดี ยิงได้ทั้งหมด 20 ลูกซึ่งถือเป็นผลงานสำคัญที่ช่วยให้ PSG คว้าแชมป์ลีกมาครอง และหากไม่โดนตัดจบไปเสียก่อนน่าจะกดเพิ่มได้อีกเยอะแน่ ๆ

ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซแบบนี้ จึงไม่แปลกเลยที่ทาง PSG จะยอมทุ่มเงินซื้อมาอยู่ด้วยแบบถาวรในซีซั่นหน้า ซึ่งทาง อิคาร์ดี ก็แฮปปี้กับดีลนี้สุด ๆ ด้วยเช่นกัน

3. ดีน เฮนเดอร์สัน

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งปีก่อน เจ้าหนูเฮนเดอร์สัน ยังเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งโนเนมที่แม้แต่เด็กผีส่วนใหญ่ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แถมยังถูกส่งไปให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมใช้งานสู้สึกในลีกแชมเปียนชิพแบบเงียบ ๆ อีกต่างหาก

แต่หลังจากที่ทัพดาบคู่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จโดยมี นายทวารสัญญายืมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด คนนี้เป็นกุญแจสำคัญ ก็ทำให้แสงสปอร์ตไลท์เริ่มส่องมาที่เขามากขึ้น

และที่น่าทึ่งกว่านั้นก็คือ ฟอร์มการเล่นของ เฮนเดอร์สัน ที่ได้ตลอดทั้งฤดูกาล 2019-20 ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่คอบอลทั้งโลกต้องยกนิ้วให้ ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลยูโรกลางปีหน้าในฐานะตัวจริงเลยด้วยซ้ำ

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะมันช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ เฮนเดอร์สัน แบบสุด ๆ จนกล้าท้าแย่งตำแหน่งตัวจริงของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับระดับโลกอย่าง ดาบิด เด เคอา ในอนาคตอันใกล้ด้วยเช่นกัน

4. มาร์ติน โอเดการ์ด

หากใครยังจำกันได้ สมัยที่ โอเดการ์ด ยังเป็นแข้งเยาวชนอายุ 16 ปี เขาถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งที่เก่งสุดในโลกมาแล้ว และมีชื่อเสียงโด่งดังสุด ๆ จนหลายทีมใหญ่ทั่วยุโรปแย่งจีบกันอีรุงตุงนัง ก่อนเจ้าตัวจะเลือกเซ็นซบ เรอัล มาดริด ภายหลัง

แต่หลังจากนั้นเขาได้เรียนรู้ว่าพรสวรรค์ของตัวเองนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลย เมื่อมาอยู่กับสโมสรระดับท็อปที่เต็มไปด้วยแข้งเวิร์ลคลาสอย่าง มาดริด จนแทบจะล้มเหลวไปแล้วด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม โอเดการ์ด ไม่ได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและตัดสินใจพาตัวเองย้ายไปอยู่กับ เรอัล โซเซียดาด ด้วยสัญญายืมในฤดูกาลปัจจุบัน ซึ่งทำให้เขาได้มีโอกาสลงเล่นเกมลาลีกาต่อเนื่องจนเค้นเอาพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ออกมาได้อีกครั้ง

5. อาชาร์ฟ ฮาคิมี

แข้งดาวรุ่งวัย 21 ปีคนนี้ เป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามที่ เรอัล มาดริด คาดหวังถึงอนาคตอันสวยหรูไว้ แต่ด้วยความที่ในทีมชุดใหญ่มีแต่แข้งระดับโลกอัดแน่นอยู่เต็มไปหมดทำให้หมดสิทธิ์เบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงแทบจะโดยสิ้นเชิง

ด้วยความที่ ฮาคิมี มีคาแรคเตอร์ของผู้ชนะอยู่ในตัว เขาไม่ยอมนั่งรอโอกาสอยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไร จึงตัดสินใจขอย้ายทีมเพื่อหา
โอกาสลงสนามอย่างจริงจัง เพราะรู้ว่านี่คือทางเดียวที่จะช่วยให้พัฒนาฝีเท้าได้แบบเห็นผล ซึ่งทาง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็มีวิสัยทัศน์มากจึงยืมตัวไปดูแลให้พร้อมสัญญา 2 ปี

แค่ปีแรกในถิ่น ซิกนัลอิดูนา แบ็คขวาชาวโมร็อคโก ก็ทำผลงานโดดเด่นจนยึดตำแหน่งตัวจริงมาได้สำเร็จ แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะฤดูกาลปัจจุบัน ฮาคิมี แสดงให้คอลูกหนังทั้งโลกเห็นแล้วว่าเขาคือ 1 ในว่าที่ฟูลแบ็คที่เก่งสุดของโลกอย่างแท้จริง

และการที่ทัพเสือเหลืองมีลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาได้จนถึงปัจจุบัน ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ามาจากผลงานอันยอดเยี่ยมของ ฮาคิมี คนนี้นี่แหละ มาเอาใจช่วยกันว่าสุดท้ายแล้วเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในวงการฟุตบอล

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!

*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด