10 ช่วงเวลาแสนประทับใจของ ธีราทร บุญมาทัน กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส - LIST
โดย W.PINTHONG
ข่าวที่ฮือฮาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก็คือ ธีราทร บุญมาทัน แบ็คซ้าย ทีมชาติไทย กลับสู่อ้อมอกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หลังจากออกมาตั้งแต่กลางปี 2016 ในการย้ายไปอยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนที่จะไปเล่นให้ วิสเซล โกเบ เมื่อฤดูกาล 2018 ตามด้วยว้าแชมป์ เจ ลีก 2019 กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส
ตลอด 3 ปี เขาเองมีความสุขอย่างมาก ที่ได้ลงสนามเล่นให้กับแฟนบอลในนิสสัน สเตเดี้ยม ได้เชยชม ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวม 10 ช่วงเวลาแสนประทับใจของ "บุญจัง" โดยมีสถิติลงสนามทุกรายการรวม 129 นัด ทำ 4 ประตู และอีก 15 แอสซิสต์ จนแฟนบอลต่างยกให้เป็นหนึ่งในขวัญใจไปตลอดกาล
1. การตัดสินใจใน 1 วัน
ย้อนกลับไปในวันที่ 15 ม.ค.2019 เวลานั้น ธีราทร บุญมาทัน ยังรับใช้ทีมชาติไทย ที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเชียน คัพ 2019 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์รอบ 47 ปี ของวงการลูกหนังสยาม แต่ว่ามีข้อเสนอจาก โยโกฮามา เอฟ มารินอส เข้ามา ซึ่งเขาเองมีเวลาตัดสินใจแค่ 1 วัน เพราะ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสร เมืองทองฯ ได้เดินทางไปเจรจารายละเอียด พร้อมทำข้อตกลงกับ เรียวจิ คุโรซาวะ ประธานสโมสร โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส แล้ว
โดย ธีราทร บุญมาทัน ได้ตอบตกลงทันที ก่อนที่เขาเองจะออกมาเปิดใจข้ามประเทศแบบสั้นๆว่า “ผมต้องขอขอบคุณทั้ง 2 สโมสร ที่ทำให้ดีลนี้สำเร็จขึ้นมา ซึ่งปี 2019 ผมพร้อมที่จะไปเป็นนักเตะใหม่ของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาลแล้วครับ แวบแรกที่ผมได้ยินข่าวว่า โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ให้ความสนใจนั้นรวดเร็วมากครับ ผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่นาน"
"แต่สุดท้ายครอบครัวของผมทั้งภรรยาและลูกชายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พร้อมที่จะซัพพอร์ตผมเสมอไม่ว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมอยากจะกลับไปเล่น เจ ลีก อีกครั้งหนึ่ง อีกเรื่องก็คือ ผมอยากจะทำให้น้องลิสบอน ลูกชายของผมได้ภาคภูมิใจในพ่อคนนี้ตลอดไป หลังมีโอกาสได้ไปค้าแข้งยังประเทศญี่ปุ่นกับสองสโมสร ทั้ง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และ วิสเซล โกเบ”
2. "บอสอังเก้" สนใจจริง
ในปี 2019 ยอดทีมจาก นิสสัน สเตเดี้ยม เพิ่งจะเสีย เรียวสุเกะ ยามานากะ แบ็กซ้ายทีมชาติญี่ปุ่นวัย 25 ปี ไปให้กับ อุราวะ เรด ไดม่อนส์ เจ้าของแชมป์ เอ็ม เพอเรอร์ส คัพ 201 ซึ่งฝากผลงานอย่างยอดเยี่ยมในซีซั่นก่อน ด้วยการลงสนาม 32 นัด ทำได้ 4 ประตู 8 แอสซิสต์ แต่สื่อแดนปลาดิบมองว่า การเช้ามาเติมเต็มของ "โก๋อุ้ม" จะช่วยทีมได้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะประสบการณ์ที่เขาได้เล่นให้กับ วิสเซล โกเบ มาแล้วในปี 2018 พร้อมกับจัดไป 4 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ซึ่งจะเป็นกุญแจกดอกสำคัญ ที่ทำให้เขาจะปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลของญี่ปุ่นได้ไม่ยาก แถม อันเก้ ปอสเตโคกลู เป็นเป็นแม่ทัพที่มีการวางแท็คติคอันยอดเยี่ยมอีกด้วย จะทำให้แข้งวัยย่าง 29 ปี พัฒนาตัวเองได้ดีกว่าเดิม
สำหรับ อันเก้ โพสเตโคลู ประสบความสำเร็จอย่างมากในออสเตรเลีย ด้วยการพาบริสเบน โรร์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 2 สมัยและพาทัพ "จิงโจ้"คว้าแชมป์เอเชียนคัพ 2015 แถมยังพาทีมเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ทว่าเจ้าตัวประกาศลาออกจากตำแหน่ง จนมากุมบังเหียน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2017 ซึ่งพาทีมจบอันดับ 12 ในเจ ลีก ซีซั่น 2018
3. เจ็บแต่กัดฟันสู้
ช่วงเริ่มต้นช่างยากเย็นกับ ธีราทร บุญมาทัน อีกครั้ง หลังจากตามเพื่อนร่วมทีมไปเก็บตัว ทว่า โยโกฮามา เอฟ มารินอส ได้แถลงผ่านทางเว็บไซต์หลักของพวกเขา เกี่ยวกับอาการกล้ามเนื้อ ซึ่งถูกส่งตัวไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลใน จ.มิยาซากิ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทีมใช้เก็บตัว ก่อนที่จะระบุว่า จะต้องพักอย่างน้อย 3 สัปดาห์
ก่อนที่เจ้าตัวจะออกมาเปิดใจผ่านบุ๊คของตัวเอง ว่า “3 อาทิตย์คือเบื้องต้น..ทำไมรู้สึกพูดอะไรไม่ออกยังไงไม่รู้ มันนานเกินไปสำหรับผม มันเป็นครั้งแรกที่ผมกล้ามเนื้อฉีก ทำไม ทำไม ทำไมว่ะ” ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้ในเกมเปิดหัว เจ ลีก 2019 ที่จะบุกไปเยือน กัมบะ โอซาก้า วันเสาร์ที่ 23 ก.พ.2019 ได้
อย่างไรก็ตามเขาเองได้กัดฟันสู้ และทำทุกโปรแกรมภายใต้การดูแลของ ฮิงึเระซัง โค้ชฟิตเนสของทีม ซึ่งเขาเองก็กลับมาแข็งแกร่ง และนั่งรอโอกาสจาก อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือใหญ่ของทีม ว่าจะให้เขาได้ลงเล่นเกมใด
4. เกมแรกที่ยังทำได้ไม่ดี
ในที่สุดโอกาสของเขาก็มาถึง เมื่อบู๊ตัวจริงครั้งแรกให้กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส กับการลง 90 นาทีเต็ม ทว่าทีมไล่ตีสเสมอ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไป 1-1 ในศึก ลูวาน คัพ 2019 นัดแรก กลุ่ม เอ ที่สนาม มิซึซุวะ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2019 ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจเวลานั้นว่า
"ตั้งแต่ที่ผมกลับมาจาก เอเชียน คัพ พร้อมกับเข้ามาร่วมฝึกซ้อมกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ที่แคมป์เก็บตัว จ.มิยาซากิ นี่คือเกมแรกของผมอย่างเป็นทางการ ผมรู้สึกประหม่านิดหน่อยแต่ผมเล่นเต็มที่ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งผมเองดีใจมากที่ได้ลงเล่นเต็ม 90 นาที สำหรับผมอาจจะมีบางจังหวะที่ผิดพลาดไปบ้าง ต้องขอโทษด้วยครับ อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณแฟนบอลทุกคน ที่เข้ามาให้กำลังใจพวกเราในเกมนี้"
"ภาพรวมแล้วสำหรับตัวผมก็ถือว่าโอเคครับ ระดับความฟิตนั้นก็อยู่ในขั้นที่ดีครับ แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมคิดว่าต้องปรับให้เช้ากับทีม แม้จะเป็นเกมแรกของผมกับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ทว่าผมก็จะเก็บบทเรียนหลายๆอย่างจากแมตช์ดังกล่าว ไปปรับใช้เพื่อการพัฒนาตัวเองต่อไป"
5. เริ่มปรับตัวสู่แข้งหลัก
ฟุตบอลของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส มีความยากอย่างสูง ซึ่งเป็นศาสตร์ที่เขาเองเพิ่งจะเคยเจอ ทำให้บางครั้งหลุดแบบไม่มีชื่อ จนต้องไปนั่งดูเพื่อนเล่นบนอัฒจันทร์ก็มีอยู่บ่อยครั้ง และนั่นเองที่ทำให้เขาเห็นมิติหรือมุมมองแท็คติคของ อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือใหญ่ของทีมมากกว่าเดิม จึงเริ่มมีการปรับตัวได้
ซึ่งการซ้อมของเขาเองก็ปรับใหทันเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะการที่ "บอสอังเก้" ให้พักจิบน้ำไม่เกิน 1 นาที เพราะอยากให้ตื่นตัวอยู่เสมอ และเคยชินเหมือนกับว่าอยู่ในสนามแข่งขัน ก่อนที่เขาจะชนใจได้ยึด 11 คนแรกต่อเนื่อง จนกระทั่งกลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดแบ็คซ้ายอย่างเขาไปไม่ได้อีกต่อไป
6. แบ็คฟุตบอลสมัยใหม่หุบเข้ากลางทำเกม
3 ปีที่ผ่านมา เขาปรับตัวเองกลายเป็นแบ็คซ้ายเอเชียได้อย่างน่ามหัสจรรย์ โดยเฉพาะการหุบเข้ามายืนตำแหน่งที่แดนกลาง เพื่อเพิ่มทางเลือกในการจ่ายบอลให้กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเขาเองก็ทำได้จริงๆ ซึ่งการเล่นแบบนี้ใช้พลังงานที่เยอะมากๆ เนื่องจากต้องวิ่งขึ้นลงทางริมเส้น แถมยังต้องไล่เพรสซิ่งคู่แข่ง
โชคดีที่เขามีกองหลังเพื่อนซี้ทั้ง ติอาโก้ มาร์ตินส์ และ ทาคาฮาระ คอยช่วยสอดซ้อนเขาเวลาขึ้นไปเติมเกมหรือหุบเข้ากลาง ซึ่งเวลานี้ในเมืองไทยมีแค่เขากับ ชัยวัฒน์ บุราญ แบ็คซ้ายของ สมุทรปราการซิตี้ เท่านั้น ที่ทำแบบนี้
7. ยิง 2 ประตู 2 นัดติด
ขวบปี 2019 มีอะไรที่น่าจดจำสำหรับ "บุญจัง" มากทีเดียว ซึ่งเกมที่ 25 เขาลงเล่นให้กับ โยโกฮามา เอฟ มารินอส เปิดบ้านไล่ถล่ม กัมบะ โอซาก้า 3-1 ที่สนามเอ็นเอชเค สปริง มิตสึซาว่า สเตเดี้ยม โดยเขาสามารถปลดล็อคทำประตูแรกในลีกสูงสุดแดนปลาดิบได้สำเร็จอีกด้วย ด้วยการยิงไกลจากหน้าเขตโทษเข้าไปอย่างสุดสวย
ต่อเนื่องไปถึงเกมที่ 26 เขาเองก็มาทำประตูที่ 2 บนดินแดนซากุระ ซึ่งมันเกิดขึ้นในการเจอกับ ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิมา โดยช่วงนั้นอยู่ในระหว่าง 10 นาทีสุดท้าย "บุญจัง" ได้โอกาสยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบผู้เล่นของซานเฟรชเซ่เบียดเสาแรกเข้าประตูไป เป็นประตูที่ 2 ของธีราทรในเจลีก และเป็นการยิงประตูติดต่อกัน 2 นัดของ ธีราทร บุญมาทัน
8. แมน ออฟ เดอะ แมตช์
ย้อนกลับไปในวันเสาร์ที่ 13 ก.ค.2019 ธีราทร บุญมาทัน ลงสนามเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับช่วย โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เปิดบ้านไล่ถล่ม อุราวะ เรด ไดมอนด์ 3-1 ซึ่งเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ วิ่งขึ้นลงระยะทางรวมกว่า 10 กิโลเมตร แถมยังทำแอสซิสต์ได้ด้วยการผ่านบอลให้ เคอิตะ เอนโดะ กดประตูให้ทีมออกนำเป็นจุดเริ่มต้นในชัยชนะเกมนี้
และธรรมเนียมปฏิบัติของสโมสรในหลังเกม เจ้าตัวได้รับการคัดเลือกว่ามีผลงานเด่นที่สุดในสนามในเกมนี้ ก่อนคว้ารางวัล "แมน ออฟ เดอะแมตช์" ไปครองชนิดเจ้าตัวเองก็ยังไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะทำได้สำเร็จ และนั่นเองคือรางวัลแรกส่วนบุคคลที่เขาดีใจต่อหน้าแฟนบอล โยโกฮามา เอฟ มารินอส ในสนามนิสสัน สเตเดี้ยม เหลือเกิน
9. ยิงประตูต่อหน้าแฟนบอลนัดสุดท้าย
7 ธ.ค.2019 เป็นวันที่ชาวไทยทั้งประเทศต่างเฝ้ารอคอยเกมนี้ ซึ่ง อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือใหญ่ชาวออสเตรเลียของโยโกฮาม่าใส่ชื่อ "อุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ลงเล่นตัวจริงต่อเนื่องโดยเล่นเกมรับร่วมกับ ชินโนะซูเกะ ฮาทานะกะ เซนเตอร์ฮาล์ฟดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น, ติอาโก้ มาร์ตินส์, และ เคน มัตซูบาระ ตามเดิม ส่วนเกมรุกวาง มาร์กอส จูเนียร์ ปั้นเกมให้ เทรุฮิโตะ นาคากาวะ ที่ฟอร์มฮอตจนติดทีมชาติญี่ปุ่นไปแล้ว, เอริค และ มาเทอุส ล่าตาข่าย
ฝั่งเคนตะ ฮาเซกาวะ กุนซือทีมเยือนขาดดาวยิงคนสำคัญดิเอโก้ โอลิเวียร่า หัวหอกบราซิเลียนที่เป็นรองดาวซัลโว เจ ลีก ซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 14 ประตูเจ็บหัวเข่าจากเกมที่แล้วโดยส่งนา ซังโฮ หัวหอกเกาหลีใต้ลงสนามมาจับคู่เคนซูเกะ นากาอิ หัวหอกดีกรีทีมชาติญี่ปุ่น ชุดใหญ่ ที่ผ่านความฟิตจากอาการบาดเจ็บหัวไหล่ขวาจากเกมเดียวกัน พร้อมวาง เคอิโกะ ฮิกาชิ กองกลางกัปตันทีมและ เคนโตะ ฮาชิโมโตะ คุมเกมกลางสนาม
และครึ่งแรก น.24 เทรุฮิโตะ นาคางาวะ ซัดจากนอกเขตโทษ บอลพุ่งเฉียดเสาแรกออกหลัง น.25 ธีราทร บุญมาทัน ซัดจากนอกเขตโทษส่งบอลแฉลบแนวรับทีมเยือน บอลย้อยเข้าไป ทำให้ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ขึ้นนำ เอฟซี โตเกียว 1-0 เป็นประตูที่ 3 ของเขาใน เจ ลีก 2019 อีกด้วย เรียกเสียงเฮจากแฟนบอล 7 หมื่นคนในสนาม นิสสัน สเตเดี้ยม ได้ดีเหลือเกิน
10. แชมป์ เจ ลีก 2019
สิ้นเสียงนกหวีดยาวจบเกมในวันนั้น โยโกฮามา เอฟ มารินอส ชนะ 3-0 เป็นแชมป์ เจ ลีก 2019 สมัยที่ 4 อย่างยิ่งใหญ่ และทำให้ชื่อของ ธีราทร บุญมาทัน กลายเป็นคนประวัติศาสตร์ของสโมสรในรอบ 47 ปี และคนแรกในรอบ 27 ปีของ เจ ลีก นับตั้งแต่การก่อตั้ง ที่เป็นชาวอาเซียนและคนไทยในการเถลิงบัลลังก์ดังกล่าว
การคว้าแชมป์ เจ ลีก ได้ ธีราทร บุญมาทัน ถูกจารึกว่าเป็นคนไทยรายที่สองที่ออกไปคว้าแชมป์ลีกในทวีปเอเชีย ที่ไม่ใช่แค่อาเซียน ต่อจากอดีตกองหน้าทีมชาติไทยอย่าง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ในรอบ 34 ปี หลัง "เดอะตุ๊ก"เคยย้ายไปค้าแข้งกับ ลัคกี้ โกลด์สตาร์ (เอฟซี โซลในปัจจุบัน) ระหว่าง ฤดูกาล 1984-1986
โดยเจ้าตัวได้เปิดใจกับสื่อมวลชนแดนปลาดิบ ในฐานะแข้งประวัติศาสตร์ไทยว่า "กว่าจะมีวันนี้ได้ ผมต้องฝ่าฝันอุปสรรคมามากทีเดียว มันไม่ง่ายเลย ช่วงมาที่นี่ใหม่ๆ ยอมรับว่า ท้อเหมือนกัน แต่เราก็ต้องอดทน พอใช้เวลาปรับตัวได้ ทุกอย่างก็เข้าที่เข้าทางครับ ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ผม และขอให้เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะครับ"