"เกริกพล"ย้ำต้องเอาชนะ "เวียดนาม" ในเกมสุดท้ายเท่านั้น
โดย W.PINTHONG
เกริกพล อาบรัมย์ ปีกทีมชาติไทย ยู 19 ที่ทำประตูขึ้นนำ บรูไน 1-0 ก่อนที่ทีมจะชนะ 2-0 ก่อนพาทีมพบ เวียดนาม ที่สนาม มัดย่า เสนายัน ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.00 น. ออกมาบอกว่า "เป็นเกมที่แย่สำหรับพวกเราที่ไม่สามารถเล่นได้ตามแท็คติกที่โค้ชซัลบาดอร์วางไว้ เราเร่งเกมมากเกินไปมันจึงทำให้เสียจังหวะและเกิดข้อผิดพลาด เกมในครึ่งแรกเรายิงได้น้อยและมาได้ประตูช้าเกินไป"
"บวกกับความกดดันในช่วงครึ่งหลังที่สถานการณ์บังคับให้ต้องยิงประตูเยอะ ๆ ทำให้เรารีบเล่นเกินไป แต่พวกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ยังดีที่เก็บชัยชนะได้ ผมเชื่อมั่นในตัวเพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงทีมงานสตาฟฟ์โค้ชว่าเราจะมีผลการแข่งขันที่ดีกับเวียดนามในเกมนัดสุดท้ายเพื่อเข้ารอบต่อไป ตอนนี้ผมและเพื่อนร่วมทีมมีสมาธิกับเกมนัดต่อไปตั้งแต่วันนี้ เพราะเราต้องการแค่ชัยชนะเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น"
โดยเงื่อนไขการเข้ารอบ ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขัน สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน ได้แจ้งว่า จะมีการนับเฮดทูเฮด ในกรณีที่มีสามทีมมีแต้มเท่ากัน โดยเงื่อนไข มีดังนี้ 1 ถ้าชนะ จะเข้ารอบทันทีในฐานะแชมป์ของกลุ่มเอ โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันอีกคู่ระหว่าง อินโดนีเซีย กับ เมียนมา, 2 หาก เสมอ 0-0 แล้วอินโดนีเซีย เสมอหรือแพ้ เมียนมา ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม
ถ้า เสมอ 0-0 แล้ว อินโดนีเซีย ชนะ เมียนมา ทีมชาติไทย จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มและตกรอบทันที กรณีที่ เสมอ แบบมีสกอร์ (วัดจากกฏมินิลีก) ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม โดยเวียดนามจะเป็นแชมป์กลุ่มด้วยการมีประตูได้เสียที่ดีกว่า โดยไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันคู่ของ อินโดนีเซีย กับ เมียนมา แต่ถ้า แพ้ หากอินโดนีเซีย เสมอหรือแพ้ เมียนมา ทีมชาติไทย จะเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือหาก อินโดนีเซีย ชนะ ทีมชาติไทย จะจบอันดับ 3 ของกลุ่มและตกรอบทันที