นายกสมาคมฯ เคารพมติสโมสรไม่เลื่อนลีก พร้อมประกาศเชิญทุกภาคส่วนที่สนใจ ร่วมกันพัฒนาทีมชาติเยาวชน

พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง / FA Thailand
facebooktwitterreddit

สืบเนื่องสมาคมฯ ได้รับทราบเรื่องปฏิทินฟุตบอลลีกเลก 2 จากบริษัทไทยลีก แจ้งผลการลงมติจากสโมสรสมาชิกไทยลีก 1 และ 2 โดยเห็นควรให้ใช้ปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลลีก​ ตามเดิมที่การแข่งขันจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือน พฤษภาคม 2566 ล่าสุด พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม​กีฬา​ฟุตบอล​แห่ง​ประเทศไทย ออกมาเปิดใจว่า

“ทางสมาคมฯ รับทราบผลมติดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ต้องขอขอบคุณสโมสรที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจครั้งนี้ด้วยกัน​ โดยสมาคมฯ เคารพผลการตัดสินใจของทุกสโมสร และจะดำเนินการแจ้งไทยลีกให้จัดการส่งยืนยันปฏิทิน​เลกสอง ให้กับสโมสรสมาชิกต่อไป ในฝั่งของทีมชาติไทย ผมได้แจ้งให้ฝ่ายทีมชาติ เตรียมทีมในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคม และมิถุนายน ให้กับทั้งชุด U23 และชุดใหญ่ตามแผนเดิมทันที”

ขณะเดียวกันยังได้ขอเชิญทุกภาคส่วนร่วมกันทำงาน จับมือสร้างทีมชาติไทยด้วยกัน ซึ่งระบุว่า “ด้วยสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ทุกๆ​ ฝ่ายซึ่งคงเห็นแล้วว่าฟุตบอลลีกอาชีพในปัจจุบัน เรามีสโมสรเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักที่สำคัญ คอยสร้าง และพัฒนาผู้เล่นให้กับวงการฟุตบอลไทยอย่างต่อเนื่อง​ จากรุ่นสู่รุ่นต่อยอดเข้าสู่การเป็นทีมชาติไทย ดังนั้น จากนี้ต่อไปข้างหน้า การที่จะบริหารจัดการทีมชาติเพื่อให้ประสบความสำเร็จนั้น ลำพังเพียงแค่​สมาคมฯ คงจะยากและมีขีดจำกัด หากไร้การสนับสนุนจากทุกภาคส่วน​ โดยเฉพาะสโมสรสมาชิก​ ภาครัฐ​ และเอกชน​“

“วันนี้ผมขออนุญาตพูดถึงทีมชาติไทยชุดเยาวชน รุ่นอายุต่างๆ พวกเขาคืออนาคตทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับนักฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสโมสรต่างๆ ดังนั้นสมาคมฯ​ จึงขอเปิดโอกาส​ และเรียนเชิญ สโมสรสมาชิก รวมไปถึงองค์กรอื่นๆ ​ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทีมชาติไทย มีแบบแผน​ มีแนวทางการพัฒนาผู้เล่นเยาวชนทั้งชายและหญิง เข้ามานำเสนอแผนงานกับสมาคมฯ ผ่านทางฝ่ายเทคนิคทีมชาติ”

“ในครั้งนี้เราจะนั่งคุยกันอย่างจริงจัง เปิดกว้าง ช่วยกันคิดให้นอกกรอบ เพราะเรายังต้องการค้นหา และพัฒนาผู้เล่นเยาวชนอีกจำนวนมาก ที่จะเป็นตัวเลือกเพื่อคัดเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยต่อไป ซึ่งหากสมาคมเป็นผู้ดำเนินการเองผู้เดียว ก็คงจะไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างแน่นอน แต่หากทุกภาคส่วนช่วยกัน เพิ่มโอกาสให้เด็กได้เข้าทดสอบความสามารถ เพิ่มสถานที่ฝึกซ้อม เพิ่มบุคลากรที่จะมาช่วยกันคัด เฟ้นหานักฟุตบอล เพื่อพาทีมชาติไทยของเราทุกคน ออกไปต่อสู้ แข่งขันกับทุกทัวนาเมนต์ข้างหน้าต่อไปด้วยกัน”

“หากมีผู้สนใจ หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ทันที สมาคมฯ​ จะรีบดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพราะฟุตบอลไทย​ เป็นของคนไทยทุกคน​ สมาคมฯ​ พร้อมรับฟังทุกคำเสนอแนะ​ และจะพิจารณาสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด​ เพื่อให้ฟุตบอลทีมชาติไทยได้รับสิ่งที่ดีที่สุดต่อไป”