สเปอร์ส 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ชำแหละ 5 ประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก

การแข่งขัน : ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 1-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม

1. ความเป็นไปของเกม

โมเมนตัมของการแข่งขันที่ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ออกสตาร์ทอย่างคู่คี่สูสีโดยเป็นการดวลกันที่แดนกลางอย่างถึงพริกถึงขิงโดยเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฉวยโอกาสส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ก่อนจากการจบสกอร์ของ เอดินสัน คาวานี ทว่าการพิจารณาจาก วีเออาร์ ริบประตูคืนในภายหลังเมื่อเป็นการทำฝ่ายไปก่อนของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์

ให้หลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ สเปอร์ส ฉวยโอกาสเข้าทำเร็วโดยไหวพริบในการออกบอลจังหวะแรกของ แฮร์รี เคน ทำให้ ลูคัส มูรา ได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปถวายพานสู่ ซน ฮึง-มิน แท็ปอินในระยะเผาขนเป็นประตขึ้นนำของเจ้าถิ่นก่อนจบครึ่งแรก

ปีศาจแดง ยังคงเล่นไปตามเกมของตนเองในครึ่งหลังก่อนจะได้ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 57 จากการขึ้นเกมต่อบอลสั้นบริเวณหัวกะโหลกหลุดไปถึง คาวานี ได้ยิงติดเซฟ อูโก้ ยอริส เข้าทางปืน เฟร็ด ที่ตามซ้ำจ่อๆ

สเปอร์ส พยายามเร่งเครื่องในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเพื่อการขึ้นนำอีกครั้งแต่ไม่อาจเจาะผ่านแนวรับของทีมเยือนได้ กระทั่งถูกทีเด็ดของ เมสัน กรีนวูด ตัวสำรองลงมาครอสให้ คาวานี พุ่งโห่งเป็นประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 79 ตามด้วยการตะบันเต็มแรงในกรอบเขตโทษของ กรีนวูด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บตอกฝาโลงเป็น 3-1

2. แนวรุก สเปอร์ส นอกจาก 3 ประสานไม่ดีพอ

เป็นอีกเกมที่การประสานงานระหว่าง แฮร์รี เคน กับ ซน ฮึง-มิน รวมไปถึง ลูคัส มูรา แผลงฤทธิ์จนเป็นที่มาของการได้ประตูสำหรับ สเปอร์ส แต่พวกเขาไม่อาจรักษาโมเมนตัมดังกล่าวให้ตลอดรอดฝั่งได้ขณะที่ จิโอวานี โล เซลโซ ในบทบาทเพลย์เมคเกอร์ถูกตัดออกจากเกม

โชเซ มูรินโญ พยายามปรับเปลี่ยนการยืนตำแหน่งไล่ตั้งแต่ขยับเอา ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล ขึ้นมายืนแทนที่ โล เซลโซ ตั้งแต่เสียประตูตีเสมอ, เอริค ลาเมลา ถูกส่งลงสนามแทน เอ็นดอมเบล 20 นาทีให้หลัง กระทั่งการส่ง แกเร็ธ เบล แทนที่ ลูคัส ในช่วงท้ายเกมแต่ตัวสำรองทั้ง 3 รายของ ไก่เดือยทอง ก็ไม่อาจเปลี่ยนเกมได้ตรงข้ามกับ เมสัน กรีนวูด ตัวสำรองของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างสิ้นเชิง

3. คลาสของ คาวานี

โอกาสยิงทั้ง 2 ครั้งของ เอดินสัน คาวานี ในเกมนี้ถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็น 2 ประตูจากการตามซ้ำของ เฟร็ด และการโหม่งพังประตูด้วยตัวเขาเองในช่วงท้าย โดยที่เจ้าตัวน่าจะมีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกครั้งด้วยซ้ำหาก สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ไม่ถูก วีเออาร์ จับฟาวล์ไปเสียก่อนในครึ่งแรก

นอกจากความฉมังในแดนหน้าของดาวยิงวัย 34 ปี คาวานี ยังแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นทั้งการเคลื่อนที่หาพื้นที่อันตรายเพื่อเป็นทางเลือกในการผ่านบอลของเพื่อนร่วมทีม รวมไปถึงการตามไล่บีบพื้นที่แข้ง สเปอร์ส อย่างต่อเนื่อง นับเป็นส่วนที่แตกต่างจาก อองโตนี มาร์กซิยาล ซึ่งเคยรับหน้าที่เป็นหัวหอกตัวเป้าให้กับทีมอย่างชัดเจน

เชื่อเหลือเกินว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา จะไม่ลังเลในการไว้วางใจให้ คาวานี ปักหลักในลงสนามในแดนหน้าอย่างต่อเนื่องแม้ว่า มาร์กซิยาล จะหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา นอกจากดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย จะมีปัญหาเดี้ยงหรือติดโทษแบนเท่านั้น

4. ป็อกบา เข้าฝักยกระดับความหลากหลายเกมรุกของ ปีศาจแดง

โซลชา จับเอา ปอล ป็อกบา ออกสตาร์ทด้วยการยืนที่กราบซ้ายปั้นเกมรุกที่ริมเส้น สลับกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ฝั่งขวา

ไหวพริบในการแก้ไขจังหวะเฉพาะหน้าของเจ้าตัวเป็นที่มาของการส่งบอลสู่ก้นตาข่ายโดย คาวานี ในครึ่งแรกก่อนที่เขาจะได้แอสซิสต์ให้กับ เมสัน กรีนวูด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังจากทั้งหมด 2 คีย์พาสที่เจ้าตัวทำได้ในเกมนี้

นอกจากการปั้นเกมที่ริมเส้นทั้ง 2 ฝั่งเรายังได้เห็น ป็อกบา สลับปั้นเกมกับ บรูโน ที่แดนกลางในครึ่งหลัง สร้างความปั่นป่วนให้กับตัวประกบของ สเปอร์ส

ทั้งนี้ มิดฟิลด์ทีมชาติ ฝรั่งเศส จบเกมด้วยสถิติเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้มากที่สุดในสนาม 6 ครั้ง รวมไปถึงยังเป็นแข้งที่เอาชนะลูกกลางอากาศได้มากที่สุดในสนามที่ 4 ครั้งอีกด้วย

5. สเปอร์ส หลังพิงฝา-แมนฯ ยูไนเต็ด ได้พักหายใจเฮือกใหญ่

ผลจากชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ทำให้พวกเขารั้งอันดับที่ 2 บนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก อย่างเหนียวแน่น ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 11 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด รวมทั้งหนีห่าง เชลซี ในอันดับที่ 5 อยู่ 9 แต้ม

ขณะที่ สเปอร์ส รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง อยู่ห่างจากอันดับ 4 อย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพื่อโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 6 แต้มเข้าไปแล้ว

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด