[OPINION] 4 ทีมน้องใหม่ที่โดน “เซคคันซีซันซินโดรม” เล่นงาน
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ว่าด้วยเรื่องของทีมน้องใหม่ในศึก พรีเมียร์ลีก ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะถูกปรามาสว่ามีสิทธิ์ที่จะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน เดอะแชมเปี้ยนชิพ ตั้งแต่ปีแรกที่ได้ก้าวขึ้นมาผงาดในลีกสูงสุด
อย่างไรก็ตามมีน้องใหม่บางทีมที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับท่านผู้ชมอย่างเรา ๆ ให้ต้องลุกขึ้นยืนปรบมือในความยอดเยี่ยมของพวกเขา ด้วยการรอดตกชั้นอย่างสบาย ๆ แถมบางทีมยังสามารถทำอันดับมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปอีกต่างหาก
แต่เมื่อมาถึงซีซันที่สองเหมือนของจะย้อนเข้าตัว ผลงานที่เคยยอดเยี่ยมกลับกลายเป็นความยอดแย่ และท้ายที่สุดบางทีมถึงกับต้องบอกลา พรีเมียร์ลีก กลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่ เดอะแชมเปี้ยนชิพ แต่ก็มีบางทีมที่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ผลงานก็ไม่ได้สวยหรูเหมือนในซีซันแรก ซึ่งตอนนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กำลังหาทางออกจากวงวนนั้นอยู่พอดี
ว่าแล้วเราก็มาดูกันว่ามีทีมใดบ้างในที่เคยโดนโรค “เซคคันซีซันซินโดรม” เล่นงาน
1. อิปสวิช ทาวน์ - ซีซันแรก อันดับ 5 - ซีซันที่ 2 อันดับ 18 (ตกชั้น)
ถือกรณีศึกษาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดกับการโดนโรค “เซคคันซีซันซินโดรม” เล่นงานคือทีม เจ้าม้าขาว อิปสวิช ทาวน์ ทีมที่เคยฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีซในประวัตจิศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษมาแล้ว และเมื่อเลื่อนชั้นขึ้นมาก็ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเดินตามรอยตความยิ่งใหญ่ในอดีต
อิปสวิช สามารถเลื่อนชั้นขึ้นมาจาก เดอะแชมเปี้ยนชิพ ได้จากการเป็นแชมป์ในรอบเพลย์ออฟและแน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อน้ำยากพวกเขา นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมจากลีกรองทีมนี้กลายเป็นเต็งหนึ่งที่จะตกชั้นก่อนที่ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซีซัน 2000-2001 จะเริ่มต้นขึ้นด้วยซ้ำ
ด้วยการเป็นม้านอกสายตา จอร์จ เบอร์ลีย์ กุนซือในเวลานั้นกลับพาทีมสร้างเซอร์ไพรส์ในซีซันแรกกับลีกสูงสุด ด้วยการพุ่งทะยานขึ้นไปเกาะท็อปทรีในช่วงปลายเดือนเมษายนได้อย่างหน้าตาเฉย พร้อมกับการระเบิดฟอร์มของกองหน้าอย่าง มาร์คัส สจ๊วต ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วหลังจบฤดูกาลพวกเขาสามารถจบอันดับ 5 ของตารางคว้าโควต้าไปเล่นในฟุตบอล ยูฟาคัพ ได้สำเร็จ พร้อมกับที่กุนซือของพวกเขาคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาเมื่อเข้าสู่ซีซันที่สองพวกเขากลับกลายเป็นคนละทีม เมื่อเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวจาก การลงเล่น 18 นัดทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่พร้อมจะตกชั้นโดยทันที ก่อนที่จะเริ่มกลับมาหาชัยชนะเจอในช่วงกลางซีซัน รวมทั้งการคว้า 3 แต้มใน 7 จาก 8 นัดซึ่งทำให้ความหวังเริ่มสดใสขึ้น
แต่แล้วโชคชะตาก็ไม่ได้เข้าข้างเสมอไปเมื่อในเกมสุดท้ายของซีซัน เจ้าม้าขาว โดน ลิเวอร์พูล จัดการถล่มเละเทะ 5-0 ส่งผลให้ อิปสวิช ต้องกลับไปเล่นใน เดอะแชมเปี้ยนชิพ โดยสมบูรณ์ แต่ก็ยังได้รางวัลปลอบใจอยู่บ้างจากการได้ผ่านเข้าไปเล่นในศึก ยูฟาคัพ เป็นปีที่สองจากโควต้ารางวัลแฟร์เพลย์ในฤดูกาลนั้น
2. วีแกน แอตเลติก - ซัซันแรก อันดับ 10 - ซีซันที่ 2 อันดับ 17 (รอดตกชั้น)
วีแกน คืออดีตทีมที่สร้างสีสันใน พรีเมียร์ลีก ในช่วงปี 2006-2013 ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าพวกเขาจะกลับมาได้อีกเลย
ประสบการณ์ในซีซันที่ 2 ของ เดอะลาตกิกส์ นั้นถือได้ว่าหวุดหวิดเจียนตายเลยทีเดียว หลังจากที่สามารถก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรเมื่อปี 2005 ด้วยการคว้ารองแชมป์ เดอะแชมเปี้ยนชิพ ในซีซัน 2004-2005
ซีซันแรกของพวกเขาแม้จะออกตัวได้ไม่ดีด้วยการพ่ายให้กับ เชลซี และ ชาร์ลตัน แอตเลติก ใน 2 เกมแรก แต่ 9 นัดหลังจากนั้นลูกทีมของ พอล จีเวลล์ ก็ควบทะยานทำผลงานระดับมาสเตอร์พีซด้วยการชนะ 8 และเสมอเพียงแค่ครั้งเดียวขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงของตารางชนิดที่แฟนบอลต้องเอามือทาบอกด้วยความตกใจ ก่อนจะแผ่วปลายจบอันดับ 10 รอดพ้นจากการตกชั้นได้แบบไร้กังวล
อย่างไรก็ตามความห้าวเป้งที่มีในซีซันแรกกลับไม่ได้ช่วยอะไรในฤดูกาลที่สอง วีแกน ต้องประสบปัญหา “เซคคันซีนซันซินโดรม” เข้าอย่างจัง พวกเขาทำผลงานวนเวียนอยู่ในโซนท้ายตารางเกือบทั้งฤดูกาล เคยทำสถิติแพ้รวด 8 เกมติดต่อกัน ก่อนที่จะต้องมาตัดสินกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเกมสุดท้ายซึ่งหากว่าสามารถเก็บชัยชนะได้ก็จะรอดพ้นจากการตกชั้นทันที
และก็เป็น เดวิด อันสเวิร์ธ ที่จัดการยิงจุดโทษฝัง ดาบคู่ คา บรามอน เลน ช่วยพาทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 พา เดอะลาติกส์ คว้าอันดับที่ 17 โดยมีแต้มเท่ากับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ประตูได้เสียดีกว่าจึงทำให้พวกเขารอดตายอย่างเหลือเชื่อ
3. เรดดิ้ง - ซีซันแรก อันดับ 8 - ซีซันที่ 2 อันดับ 18 (ตกชั้น)
ทีมของ สตีฟ ค็อปเปลล์ ทำสถิติใน เดอะแชมเปี้ยนชิพ ด้วยการคว้าแชมป์โดยทำคะแนนได้สูงสุดที่ 106 คะแนน คว้าโควต้าเลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก อย่างสง่างามหลังจบซีซัน 2005-2006
โมเมนตั้มและความมั่นใจจากซีซันที่แล้วส่งผลให้ เรดดิ้ง ยังคงทำผลงานได้ดีในซีซันแรกที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุด โดยพวกเขาเปิดสนามด้วยการเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ และเก็บชัยชนะอีก 4 นัดใน 7 เกมแรก จากนั้นก็ยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงปีใหม่ที่สามารถเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ 6-0 และไม่แพ้ใครติดต่อกันอีก 6 เกม ก่อนจะจบซีซันด้วยการคว้าอันดับ 8 มาครองได้แบบสง่าผ่าเผย ไม่ต้องหนีตกชั้นให้เมื่อยตุ้ม
แต่เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูกาลที่สอง เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นในปีแรก ค็อปเปลล์ ไม่สามารถประคองทีมให้ทำผลงานได้เหมือนเดิม ซ้ำยังกลับสร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสรด้วยการแพ้รวด 8 นัดติดต่อกันพาทีมดำดิ่งสู่โซนตกชั้น แม้ว่าในเกมสุดท้ายของฤดูกาลพวกเขาจะงัดฟอร์มเก่งกลับมาเอาชนะ ดาร์บี้ เค้าท์ตี้ ไปได้ 4-0 แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอต่อการมีชีวิตอยู่ใน พรีเมียร์ลีก
เรดดิ้ง ตกชั้นด้วยการคว้าอันดับ 18 โดยมีผลต่างประตูได้เสียที่น้อยกว่าคู่แข่งอย่างน่าเสียดาย
4. เบอร์มิงแฮม ซิตี้ - ซีซันแรก อันดับ 9 - ซีซันที่ 2 อันดับ 18 (ตกชั้น)
เบอร์มิงแฮม ถือเป็นทีมที่ออกอาการโยโย่มากที่สุดในช่วงต้นทศวรรษที่ 2000 โดยพวกเขาสามารถเลื่อนชั้นกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลา 8 ปี ก่อนจะกลับลงไปประจำการถาวร ณ เดอะแชมเปี้ยนชิพ จนถึงทุกวันนี้
โดยซีซันสุดท้ายที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมายังลีกสูงสุดคือในปี 2009-2010 ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ แม็คลิช กุนซือฝีมือดีชาวสก็อตแลนด์ พร้อมกับการแจ้งเกิดของนักเตะหลายคนที่เรายังคุ้นชื่อกันดีจนวันนี้อย่าง สก็อตต์ แดนน์, ลี โบว์เยอร์ และ แบร์รี เฟอร์กูสัน
ไฮไลท์ที่สำคัญในการลงเล่น พรีเมียร์ลีก ซีซันแรกของพวกเขาคือการไม่แพ้ใครติดต่อกัน 12 นัด รวมทั้งการไล่ตีเสมอทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ เบอร์มิงแฮม เป็นทีมที่ได้รับการพูดถึงอย่างมาก และถึงแม้ว่าจะแผ่วปลายในช่วงท้ายฤดูกาลโดยชนะเพียงนัดเดียวจาก 10 เกมแต่ด้วยบุญเก่าที่ทำไว้ก็ไม่ยากที่จะจบอันดับ 9 ของตารางแบบสบาย ๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงฤดูกาล 2010-2011 ซึ่งเป็นซีซันที่ 2 หลายอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการ พวกเขาฟอร์มรูดมหาราชต่างกับฤดูกาลแรกโดยสิ้นเชิง เก็บชัยชนะได้เพียง 8 นัดทั้งฤดูกาล เป็นทีมที่ยิงประตูได้น้อยที่สุดในลีก และแพ้ถึง 5 นัดจาก 6 นัดสุดท้าย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพวกเขาจึงทำได้เพียงอันดับ 18 พร้อมกับร่วงตกชั้นอย่างเจ็บปวด
ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังมีรางวัลปลอบใจด้วยการหักด่าน อาร์เซนอล คว้าแชมป์ ลีกคัพ ได้สำเร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้กลายเป็นทีมแรกนับตั้งแต่ปี 1963 ที่สามารถคว้าแชมป์และตกชั้นในปีเดียวกัน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด