ร็อบบี้ คีน: ตามรอย 1 ในท็อป 20 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล พรีเมียร์ลีก
หากจะนึกถึงกองหน้าฝีมือดีของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เชื่อได้เลยว่าจะต้องมีชื่อของ ร็อบบี้ คีน หัวหอกชาวไอร์แลนด์ที่เคยฝากผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับแฟน ๆ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ได้เชยชมกันเป็นหนึ่งในนั้น
ดาวยิงอดีตแข้งของ ลีดส์ ยูไนเต็ด สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล เป็นอีกคนที่อยู่ในทำเนียบ ท็อป 20 ดาวยิงสูงสุดของอังกฤษในยุค พรีเมียร์ลีก วันนี้เราจึงอยากจะพาแฟน ๆ 90Min ย้อนไปชมความเป็นมาของเขาคนนี้กันกับ อันดับที่ 15 ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ร็อบบี้ คีน..
เส้นทางสู่ พรีเมียร์ลีก
โรเบิร์ต เดวิด คีน เกิดในวันที่ 8 กรกฎาคม 1980 ที่เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เป็นคนที่มีความรักและหลงไหลจะกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาชนท้องถิ่นตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนกระทั่งอายุ 16 ปีเขาได้รับข้อเสนอจากทีมดังในอังกฤษทั้ง ลิเวอร์พูล และ วูล์ฟแฮมป์ตัน และสุดท้ายก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาเข้าสู่ทีมเยาวชนของ ทัพหมาป่า ในเวลาต่อมา
ในทีมเยาวชนของ วูล์ฟส์ คีน ได้รับคำชมเชยอย่างมาก หลังจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมในทีมชุดเล็กต้นสังกัด วูล์ฟแฮมป์ตัน ตัดสินใจปล่อยตัวเขาไปให้กับ โคเวนทรี ด้วยค่าตัวถึง 8 ล้านปอนด์ในปี 1999 ซึ่งที่นั่นเขาได้สร้างชื่อบนเวที พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกกับผลงาน 12 ประตูในวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น
ความล้มเหลวครั้งแรก
หลังจากฟอร์มดีกับ โคเวนทรี ช่วงหน้าร้อนปี 2000 อินเตอร์ มิลาน ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงถึง 17 ล้านปอนด์ ซึ่งต้องบอกว่าที่ อิตาลี เจ้าตัวล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง โดยครึ่งปีแรกลงสนามไปทั้งสิ้น 15 เกมทำได้ 3 ประตู ก่อนที่ครึ่งปีหลังจะถูก ลีดส์ ยูไนเต็ด ยืมตัวใช้งาน และก็ทำผลงานได้น่าประทับใจยิง 8 ประตูในลีก จนยอมซื้อขาดกลับมาในช่วงกลางปี 2001 ปีต่อมาในถิ่น เอลแลนด์ โร้ด ผลงานของเขาดูจะดรอปลงไป จึงเป็นโอกาสให้ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ได้คว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 9 ล้านปอนด์ในช่วงหน้าร้อนปี 2002
ขึ้นสู่จุดสูงสุดกับ ไก่เดือยทอง
ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน คีน แทบจะเป็นที่รักของแฟนบอล สเปอร์ส แทบจะทันทีด้วยผลงานการถล่มประตูอย่างต่อเนื่องและคงเส้นคงวาชนิดที่ดีวันดีคืนเริ่มจากฤดูกาล 02/03 ยิงได้ 13 ประตู 03/04 ทำไปอีก 16 ประตู 04/05 17 ประตู 05/06 16 ประตู 06/07 22 ประตู และ 07/08 ซัดไปถึง 23 ประตูกับ 12 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ อีเอฟแอล คัพ ในปีนั้นมาครองได้อีกด้วย ซึ่งยุคนั้นต้องบอกว่าเป็นยุคทองอีกปีหนึ่งของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ที่มี มาร์ติน โยล เป็นผู้จัดการทีม รวมถึงมีสตาร์ดังอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เจอร์เมน เดโฟ เลสลีย์ คิง โจนาธาน วูดเกต เป็นดาวดังในช่วงเวลาดังกล่าว
ล้มเหลวอีกครั้งที่ แอนฟิลด์
หลังจากผลงานอันโดดเด่น ตลาดซัมเมอร์ปี 2008 ลิเวอร์พูล ไม่รอช้าจัดการหาคู่หูให้กับ เฟร์นันโด ตอร์เรส ด้วยการคว้าตัว ร็อบบี้ คีน ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 21 ล้านปอนด์ ซึ่งที่นั่นแม้เขาจะถูก ราฟา เบนิเตซ พยายามเข็นลงสนามมากเพียงใด แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังระเบิดฟอร์มเก่งเหมือนที่ทำกับ สเปอร์ส ไม่ได้ จนกระทั่งผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาล หงส์แดง ตัดสินใจปล่อยตัวกลับสู่ ไก่เดือยทอง ชนิดที่มาเร็วเคลมเร็วจนแฟน ๆ หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมไม่ลองให้เวลาเขาปรับตัวก่อนสักปีหรือสองปีแล้วค่อยตัดสินใจอนาคตอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจย้ายกลับมาเล่นกับ สเปอร์ส เป็นครั้งที่สองดูจะแตกต่างออกไป เพราะการมาของ ฆวนเต้ รามอส นายใหญ่ชาวสเปนทำให้ผลงานของ ไก่เดือยทอง ตกต่ำอย่างน่าใจหาย รวมถึงการดึงสตาร์ดัง ๆ ในตำแหน่งเกมรุกเข้าสู่ทีมทั้ง ดาวิด เบนท์ลี จิโอวานี ดอส ซานโตส โรมัน พาพลูเชนโก้ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ แถมยังมีแข้งตัวเก่งที่มีอยู่เดิมอย่าง เบอร์บาตอฟ เดโฟ และ ดาร์เรน เบนท์ ทำให้โอกาสในการลงสนามของ คีน ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับยุคทองของเขาสมัยที่มี มาร์ติน โยล คุมทัพอยู่นั่นเอง
จุดเปลี่ยนสู่การอำลา พรีเมียร์ลีก
การที่โอกาสลงสนามค่อนข้างน้อย บวกกับการที่นายใหญ่คนใหม่อย่าง แฮร์รี เร้ดแนปป์ มักจะไม่เรียกใช้งานเขาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ช่วงเดือนมกราคมปี 2010 คีน ถูกปล่อยตัวให้กับ เซลติก ยืมใช้งานครึ่งฤดูกาล ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้ดี แต่หลังจากกลับมาอยู่กับ สเปอร์ส อีกครั้งในฤดูกาล 2010/11 ชัดเจนว่าเขาไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ไก่เดือยทอง ยุคใหม่อีกต่อไป จนถูกปล่อยให้ เวสต์แฮม ยืมตัวใช้งานอีกครั้ง ก่อนที่ในที่สุดกลางปี 2011 คีน ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกา ด้วยการย้ายไปซบ แอลเอ แกแล็กซี ด้วยค่าตัวเพียง 3 ล้านปอนด์ในที่สุด
แจ้งเกิดอีกครั้งที่ เมเจอร์ลีก
หลังจากย้ายไปเล่นที่ อเมริกา ในปี 2011 คีนในวัย 31 ปี สามารถระเบิดฟอร์มเก่งยิงประตูถล่มทลายอีกครั้ง โดยปีแรกที่ แอลเอ เจ้าตัวยิงไป 26 ประตู ก่อนที่ปี 2013 จะซัดไปอีก 18 ประตู ปี 2014 - 25 ประตู ปี 2015 - 23 ประตูและปี 2016 กดไป 12 ประตูก่อนจะหมดสัญญาและแยกทางกันในที่สุด ฝากผลงานอันยอดเยี่ยมในแดนลุงแซมด้วยการพาทีมเป็นแชมป์ เมเจอร์ลีก 3 สมัยในปี 2011 2012 และ 2014 โดยในปี 2014 คีน คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมมาครองได้อีกด้วย
ช่วงท้ายของอาชีพการค้าแข้ง เจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปเล่นในอินเดียช่วงสั้น ๆ ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในปี 2018 ปิดฉากอาชีพการค้าแข้งที่ต้องบอกว่ามีครบทุกรสชาติไปอย่างยิ่งใหญ่ แถมเขายังมีดีกรีเป็นถึง 1 ใน 20 ดาวยิงสูงสุดประจำ พรีเมียร์ลีก ด้วยผลงาน 126 ประตูจาก 349 ที่ลงสนามเลยทีเดียว
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด