[RECAPPED] 5 ใบแดง 12 ใบเหลือง ! สรุปเหตุการณ์ ลีกเอิง เกม เปแอสเช-มาร์กเซย์
โดย โตมร นวลประเสริฐ
กลายเป็นเกมที่ดุเดือดเลือดพล่านเมื่ออุณหภูมิของการแข่งขัน ลีกเอิง นัดที่ 2 ในสนาม ปาร์ค เดส์ แปรงส์ ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีใบแดงปลิวว่อนรวมกันถึง 5 ใบกับอีก 12 ใบเหลือง
การพบกันระหว่าง เปแอสเช กับ โอแอ็ม ลียง เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ชาว ฝรั่งเศส เรียกกันว่า เลอ คลาสสิชท์ เทียบเท่ากับคู่อริใน เอล กลาสิโก้ สเปน บาร์เซโลนา และ เรอัล มาดริด
เปแอสเช ที่ก่อตั้งภายหลัง มาร์กเซย์ 71 ปีเป็นตัวแทนของ ปารีส เมืองหลวง ขณะที่ มาร์กเซย์ เป็นตัวแทนของสโมสรจากหัวเมืองใหญ่ รวมไปถึงตัวแทนสถานะทางสังคมที่แตกต่างกันระหว่างแฟนบอลของทั้งทีม โดย เปแอสเช ใช้เวลาไม่นานก็กลายมาเป็นเสี้ยนหนามตัวฉกาจของ โอแอ็ม หลังถูก คาแนล+ สถานีโทรทัศน์ยักษ์ใหญ่แดนน้ำหอมซื้อกิจการเมื่อปี 1991 ความเข้มข้นของ เลอ คลาสสิชท์ ก็ถูกยกระดับขึ้นนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
รากเหง้าความเป็นศัตรูทางลูกหนังอันยาวนานทำให้การแข่งขันที่ ปาร์ค เดส์ แปรงส์ เดือดทะลักตั้งแต่เริ่มต้น นักเตะทั้งหมด 5 รายได้รับใบเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรกจากการเข้าปะทะที่ดุดัน และจังหวะตอดเล็กตอดน้อยที่มีให้เห็น ขณะที่สกอร์ก่อนพักครึ่งทีมเยือนเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากประตูของ ฟลอรีย็อง โตแว็ง ตั้งแต่นาทีที่ 31
เกมในครึ่งหลังเจ้าถิ่นพยายามเร่งจังหวะเกมรุกเพื่อทวงประตูคืนขณะที่ทีมเยือนเล่นเกมรับอย่างมีสมาธิรอโอกาสสวนกลับเร็วอย่างใจเย็น และเป็น เปแอสเช ที่ได้ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายในนาทีที่ 61 จากลูกหลุดเดี่ยวของ อังเคล ดิ มาเรีย ทว่าถูกจับล้ำหน้าไปเสียก่อน ตามด้วยประตูที่ถูกปฎิเสธของ มาร์กเซย์ จากจังหวะล้ำหน้าเช่นเดียวกันในนาทีต่อมา
ความรวดเร็วของเกมที่ถูกยกระดับขึ้นโดยมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนทำให้อุณหภูมิในสนามยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้นไปอีกระดับเมื่อเวลาผ่านไป
อีก 5 ครั้งที่ใบเหลืองถูกชูโดยผู้ตัดสินในครึ่งหลัง ก่อนที่ปรอทจะมาแตกเอาช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 5 จากทั้งหมด 6 นาที
จังหวะสิ้นสุดเกมรุกของ เปแอสเช เป็นลูกตั้งเตะจากเขตโทษของ มาร์กเซย์ ระหว่างที่ เนย์มาร์ วิ่งกลับไปรักษาตำแหน่งเคียงข้างกับ อัลบาโร กล้องถ่ายทอดสดจับภาพได้ว่าทั้งคู่ต่อปากต่อคำกันอย่างยาวนานก่อนจะจบลงด้วยสตาร์ บราซิเลียน ใช้มือตีที่ศีรษะของปราการหลังทีมเยือนเบาๆ เป็นเชิงยุติ
จังหวะต่อเนื่องจากลูกตั้งเตะ ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ กองหน้าของ มาร์กเซย์ ชิงจังหวะออกลูกแถมใส่ เลอันโดร ปาเรเดส จนล้มกลิ้ง เชิ้ตดำเป่านกหวีดให้เป็นลูกฟาวล์ทว่ามิดฟิลด์ชาว อาร์เจนไตน์ ลุกขึ้นมาชน เบเนเด็ตโต้ จากด้านหลังไปชนกับ ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ก่อนจะล้มไปกองที่พื้นพร้อมกับบิดตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้นเองนักเตะทั้ง 2 ฝั่งก็กรูกันเข้ามาตะลุมบอน
ภาพช้าจากกล้องถ่ายทอดสดแสดงให้เห็นว่า เนย์มาร์ เข้ามาจากด้านหลังของ อัลบาโร ระหว่างที่กองหลังชาว สเปน กำลังมีปากเสียงอยู่กับ ปาเรเดส ก่อนจะกำหมัดชกเข้าไปที่หลังศีรษะอย่างจัง ขณะที่อีกคู่นอกวงเป็น เลย์วิน เคอร์ซาวา สาวหมัดอยู่กับ จอร์แดน อมาวี รวมทั้งเตะใส่จนบานปลายเป็นกลุ่มโกลาหลอีกกลุ่มหนึ่ง
เหตุการณ์ค่อยๆ คลี่คลายลงตามลำดับหลังจากนั้นโดยผู้ตัดสินควักใบแดงให้ เคอร์ซาวา กับ อมาวี โดยทันที ต่อด้วยการชูใบเหลืองที่ 2 ให้กับ ปาเรเดส และ เบเนเด็ตโต้ เป็นใบแดง หลังจากนั้นเชิ้ตดำกลางสนามได้รับการแจ้งเตือนจาก วีเออาร์ ให้ดูภาพช้าที่ข้างสนาม แสดงให้เห็นภาพช้าที่ เนย์มาร์ ชกเข้าไปที่ อัลบาโร อย่างจังก่อนจะวิ่งกลับไปชูใบแดงให้กับสตาร์ บราซิเลียน โดยที่เจ้าตัวเดินออกจากสนามพร้อมกับการแจ้งจ่อผู้ตัดสินที่ 4 ข้างสนามว่าเขาได้รับการเหยียดผิวในสนาม
หลังจบเกม ประเด็นยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ อัลบาโร กอนซาเลซ คู่กรณีของ เนย์มาร์ ได้เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียวของตนเองว่าแข้ง บราซิล เป็นฝ่ายด่าทอเขาก่อนด้วยคำว่า "ไอ้ลิง เ*ดแม่" พร้อมกับชี้ว่ากล้อง วีเออาร์ จับภาพที่เขาแสดงความเกรี้ยวกราดได้อย่างง่ายดายแต่เขาต้องการเห็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวได้เหยียดผิวซูเปอร์สตาร์ของ เปแอสเช นอกจากนั้นยังระบุว่าสิ่งเดียวที่ตัวเขาเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือไม่ได้ชกหน้า เนย์มาร์ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีถ้อยคำเหยียดผิวออกจากปากเขาแต่อย่างใด
ฝั่ง อันเดร วิลลาส-โบอาส กุนซือ โอแอ็ม ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่าไม่ทราบว่ามีการเหยียดผิวเกิดขึ้นในสนามและหวังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ขณะที่ โธมัส ทูเคิล นายใหญ่ เปแอสเช ไม่มีความคิดเห็นใดๆ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ทั้งนี้ เกมจบลงด้วยชัยชนะของ มาร์กเซย์ 1-0 จากประตูโทนของ โตแว็ง ส่งพวกเขาขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 5 บนตารางคะแนน ลีกเอิง หลังผ่านการแข่งขัน 2 นัด ขณะที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จมอยู่ในอันดับที่ 18 ของตารางหลังประเดิม 2 นัดแรกของฤดูกาล 2020/21 ด้วยความพ่ายแพ้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด