[RANKING] 5 สุดยอด "มิดฟิลด์จอมถล่มประตู" ในยุคปัจจุบัน

FBL-EUR-C1-MAN UTD-ISTANBUL
FBL-EUR-C1-MAN UTD-ISTANBUL / OLI SCARFF/Getty Images
facebooktwitterreddit

สำหรับกีฬาฟุตบอล เมื่อพูดถึงการยิงประตู แน่นอนว่ามันคือหน้าที่หลักของเหล่าผู้เล่นกองหน้าซึ่งมีพื้นที่ประจำการใกล้กรอบเขตโทษฝ่ายตรงข้ามมากสุด ฉะนั้นจึงไม่แปลกทีสถิติการจบสกอร์ของพวกเขาจะสูงกว่านักเตะตำแหน่งอื่น ๆ

แน่นอนว่าการยิงประตูไม่ได้ถูกสงวนเอาไว้ให้กองหน้าทำอยู่พวกเดียว เพราะทั้งมิดฟิลด์, กองหลัง หรือแม้แต่ผู้รักษาประตูก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแต่จำนวนจะลดหลั่นลงไปตามระยะห่างจากโกล์ฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เล่นตำแหน่งกองกลางอยู่อีกจำนวนหนึ่งที่มีสถิติการจบสกอร์โดดเด่นกว่าชาวบ้านจนได้รับการยกย่องว่าเป็น "มิดฟิลด์จอมถล่มประตู" และสำหรับยุคปัจจุบันมีใครบ้างที่เป็นเลิศในด้านนี้ เลื่อนลงไปทำความรู้จักกัน

1. ปิซซี : เบนฟิก้า

Boavista FC v SL Benfica - Liga NOS
Boavista FC v SL Benfica - Liga NOS / Quality Sport Images/Getty Images

หลุยส์ มิเกล อฟองโซ เฟอร์นันเดส เป็นชื่อเต็มของจอมทัพกัปตันทีม เบนฟิก้า ชุดปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจะเก่งในเรื่องสร้างสรรค์เกมรุกให้เพื่อนเข้าทำในพื้นที่สุดท้ายแล้ว ยังยิงประตูเองได้คมกริบสุด ๆ อีกด้วย

เอาจริง ๆ แข้งวัย 31 ปีคนนี้เพิ่งมาเริ่มฉายแวว กองกลางจอมถล่มประตู เอาเมื่อประมาณ 4-5 ปีหลังสุดนี้เอง แต่ถึงจะเข้าสู่ช่วงพีคช้าไปหน่อย แต่ผลงานของเขาถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

และตลอด 7 ฤดูกาลที่ ปิซซี ค้าแข้งอยู่ในทัพเหยี่ยวลิสบอน เขายิงได้ในฐานะมิดฟิลด์มากถึง 79 ประตูจากทุกรายการเลยทีเดียว (ซีซั่นปัจจุบัน ยิงไปแล้ว 4 ประตูจาก 8 เกม)

2. อังเคล ดิ มาเรีย : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

Paris Saint-Germain v Stade Rennes - Ligue 1
Paris Saint-Germain v Stade Rennes - Ligue 1 / Xavier Laine/Getty Images

หากไม่นับ 1 ปีที่เขาล้มเหลวอย่างรุนแรงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่าคอลูกหนังทุกคนคงยอมรับว่า "เจ้าด็อบบี้" คนนี้นี่แหละคือกองกลางระดับโลกที่เก่งและประสบความสำเร็จสูงสุดอย่างแท้จริง

ดิ มาเรีย เริ่มสร้างชื่อได้ตั้งแต่สมัยอายุยังน้อย ๆ และเล่นให้ เบนฟิก้า ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าของวงการกับ เรอัล มาดริด

ปัจจุบัน สตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ ค้าแข้งอยู่กับทีมมหาเศรษฐีอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งโชว์ฟอร์มโดดเด่นเป็นสง่าต่อเนื่องนาน 6 ฤดูกาลแล้ว และหากนับรวมตลอดทั้งชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขายิงได้มากถึง 148 ลูกจากการลงเล่น 620 นัดทุกรายการเลยทีเดียว

3. เควิน เดอ บรอยน์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

Manchester City v Burnley - Premier League
Manchester City v Burnley - Premier League / Michael Regan/Getty Images

หากถามคอบอลว่าในช่วง 3-4 ปีหลังสุดนี้ ใครคือมิดฟิลด์ที่เก่งสุดของโลก เชื่อว่าส่วนใหญ่จะเทคำตอบให้ เควิน เดอ บรอยน์ กลางรุกพรสวรรค์สูงจากค่ายเรือใบสีฟ้าคนนี้แน่นอน

ในอดีตเขาเคยเป็นตัวสำรองที่ล้มเหลวกับ เชลซี ก่อนจะย้ายไปสร้างชื่อกับ โวล์ฟสบวร์ก ในบุนเดสลีกา เยอรมนี สุดท้ายก็พัฒนาขีดจำกัดขึ้นไปเป็น มิดฟิลด์ระดับโลก ได้สำเร็จภายใต้การดูแลของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

สำหรับสตาร์ทีมชาติเบลเยียมคนนี้ นอกจากจะสร้างสรรค์เกมรุกได้อันตรายสุด ๆ จ่ายบอลคมกริบ ทำแอสซิสต์ให้เพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน เขายังยิงประตูเองได้เยอะด้วย เพราะจนถึงตอนนี้ซัลโวให้ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วถึง 58 ลูกจากทุกรายการ

4. มาร์โก รอยส์ : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

Borussia Dortmund v Club Brugge KV: Group F - UEFA Champions League
Borussia Dortmund v Club Brugge KV: Group F - UEFA Champions League / Lars Baron/Getty Images

กลางรุกอัจฉริยะคนนี้ เคยโด่งดังสุด ๆ จนทุกสโมสรใหญ่ทั่วโลกแย่งกันรุมจีบซะตลาดซื้อ-ขายฝุ่นตลบกันเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่มักโดนอาการบาดเจ็บยาวเล่นงาน จนทำให้ขาดความต่อเนื่องสม่ำเสมอ

ถ้าเป็นนักฟุตบอลคนอื่น เจ็บหนัก เจ็บนานแบบนี้ อาจยอมถอดใจหยุดพัฒนาจนกลายเป็นแข้งดาด ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับ รอยส์ เพราะทุกครั้งที่กลับคืนสู่สนาม เขายังเค้นเอาฟอร์มการเล่นชั้นยอดออกมาช่วยทีมได้ทุกครั้ง เผลอ ๆ อาจจะเก่งกว่าเดิมเสียอีก

ปัจจุบัน ดูเหมือนว่า รอยส์ ตั้งใจฝากอนาคตของตัวเองเอาไว้ในถิ่นเสือเหลืองจนแขวนสตั๊ดแล้ว แต่เมื่อลองมองย้อนกลับไปตลอดเส้นทางการเป็นมิดฟิลด์อาชีพ จอมทัพหน้าหล่อคนนี้ยิงได้มากถึง 181 นัดจากการลงเล่น 439 นัดทุกรายการเลยทีเดียว

5. บรูโน เฟอร์นันเดส : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

Manchester United v İstanbul Basaksehir: Group H - UEFA Champions League
Manchester United v İstanbul Basaksehir: Group H - UEFA Champions League / Michael Regan/Getty Images

จอมทัพชาวโปรตุเกสคนนี้ ทำผลงานโดดเด่นเป็นสง่าได้ตั้งแต่สมัยค้าแข้งอยู่ สปอร์ติง ลิสบอน โน่นแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเริ่มพีคสุด ๆ เอาในช่วงปี 2020 ที่ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นี่แหละ

เพราะนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว พ่อหนุ่มบรูโน ก็กลายเป็นผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของทัพปีศาจแดงให้ดีขึ้นแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ จนกระทั่งปัจจุบันเขาก็ยังเป็นผู้แบกทีมให้ก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมีความหวังอยู่เหมือนเดิม

ตลอดเส้นทางค้าแข้ง บรูโน ยิงประตูได้มากถึง 105 ประตูจาก 325 นัดทุกรายการ แต่ถ้านับเฉพาะช่วงที่อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาตะบันไปแล้ว 21 ประตูพร้อมจ่ายให้เพื่อนกดอีก 13 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าสูงมากจริง ๆ สำหรับผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!

*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด