ฮาแลนด์ เตรียมทุบสถิติ? ย้อนรอย 30 อันดับนักเตะค่าตัวแพงสุดที่ เชลซี ซื้อตัวมาร่วมทีม พร้อมตัดเกรดผลงานกับสโมสร
ณ ปัจจุบัน เชลซี กำลังตกเป็นข่าวว่ากำลังตามจีบ เออร์ลิง ฮาแลนด์ หัวหอกตัวเก่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่างหนักแม้ว่า ทัพเสือเหลือง จะตั้งค่าหัวไว้สูงกว่า 170 ล้านปอนด์ก็ตาม ซึ่งหากดาวเตะชาวนอร์เวย์รายนี้ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จริง เขาจะทุบสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดที่ เชลซี เคยคว้าตัวเข้ามาร่วมทีมในทันที
วันนี้เราจึงอยากพาผู้อ่านทุกท่านย้อนกลับไปดู 30 อันดับนักเตะที่แพงที่สุดตลอดกาลที่ สิงโตน้ำเงินคราม เคยคว้าตัวมาร่วมทีม พร้อมตัดเกรดฟอร์มการเล่นและผลงานในสีเสื้อ สิงห์บลู โดยจะมีใครกันบ้าง ตามไปดูกัน...
*เกณฑ์การให้คะแนน A = ยอดเยี่ยม / B = ดี / C = พอใช้ / D = น่าผิดหวัง / F = ย่ำแย่
30. บาบา อับดุลราห์มาน - 23.4 ล้านปอนด์
แบ็คซ้ายชาวกานาที่ เชลซี คว้าตัมาจาก เอาก์สบวร์ก เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวถึง 23.4 ล้านปอนด์ โดยเจ้าตัวแทบไม่ได้รับโอกาสกับทีมชุดใหญ่เลย แถมยังถูกส่งให้ทีมอื่นยืมตัวตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเขาก็ยังคงเป็นนักเตะของ สิงห์บลู อยู่
ตัดเกรดผลงานกับทีม : F
29. ฆวน มาต้า - 24 ล้านปอนด์
ยอดเพลย์เมคเกอร์ชาวสเปนผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นเดอะแบกของทีมในยุคหนึ่งหลังจากย้ายจาก บาเลนเซีย เขามาเมื่อปี 2011 โชว์ฟอร์มได้ดีในยุคของ ดิ มัตเตโอ จนพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้ และดียิ่งกว่าในยุคของ ราฟา เบนิเตซ ที่ทำได้ถึง 19 ประตูกับ 35 แอสซิสต์รวมทุกรายการในซีซั่น 2012/13 แต่หลังจากการมาของ โชเซ มูรินโญ อนาคตของเขากับทีมก็ดับลงทันที่ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A
28. เปโดร โรดริเกวซ - 24.3 ล้านปอนด์
ตัวรุกชาวสเปนย้ายจาก บาร์เซโลนา มาร่วมทีมในปี 2015 ในยุค โชเซ มูรินโญ ค้าแข้งกับ สิงห์บลู 5 ฤดูกาล ทำไปได้ทั้งสิ้น 43 แระตูกับ 28 แอสซิสต์จากการลงสนาม 206 เกมก่อนจะย้ายไปอยู่กับ โรมา หลังหมดสัญญาในซีซั่นที่ผ่านมา
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
27. ริคาร์โด้ คาวัลโญ - 27 ล้านปอนด์
กองหลังชาวโปรตุเกสยุคบุกเบิกความสำเร็จ ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาร่วมทีมเมื่อปี 2004 เป็นกำลังสำคัญให้ทีมตลอด 6 ฤดูกาลก่อนย้ายไป เรอัล มาดริด เมื่อปี 2010 ลงสนามให้ เชลซี 210 นัดทำได้ 11 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ด้วยกัน
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B+
26. ฮวน กวาดราโด้ - 27.9 ล้านปอนด์
แบ็คขวาชาวโคลัมเบีย แจ้งเกิดกับ ฟิออเรนตินา ก่อนจะย้ายมา เชลซี ในปี 2015 น่าเสียดายที่เจ้าตัวแทบไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองมากนักเพราะหลังจากย้ายมาได้เพียงครึ่งปี ก็ถูกปล่อยให้ ยูเวนตุส ยืมใช้งานถึง 2 ปีติดต่อกัน กระทั่งโดนขายขาดให้ ทัพม้าลาย ในปี 2017 ที่ผ่านมา ลงสนามให้ สิงห์บลู ไปได้เพียง 15 เกมเท่านั้น
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
25. ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ - 28.3 ล้านปอนด์
ปีกความเร็วสูงชาวอังกฤษ ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาในปี 2005 หลังระเบิดฟอร์มเก่งกับ เรือใบสีฟ้า มาก่อนหน้านั้้น แต่หลังจากย้ายมาดูจะยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมออกมาได้ ค้าแข้งกับ สิงห์บลู 3 ปี ก่อนจะย้ายกลับไปยัง แมนฯ ซิตี้ ในปี 2008 ลงสนามให้ทีมไป 125 นัดทำได้ 10 ประตูกับ 18 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : C
24. ออสก้า - 28.8 ล้านปอนด์
ตัวรุกชาวบราซิลย้ายจาก อินเตอร์นาซิอองนาล มาร่วมทีมในปี 2012 มีส่วนช่วยพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก ในปี 2013 ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวจัดว่าดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงกับพีคสุด ๆ กระทั่งในปี 2017 หลังจากเป็นส่วนเกินของทีมในช่วงนั้น เจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปเล่นในลีกประจีนและระเบิดฟอร์มเก่งกับ เซียงไฮ้ เอสไอพีจี ได้นับตั้งแต่นั้น ลงสนามให้ทีมไปทั้งสิ้น 203 นัด ยิงได้ 38 ประตูกับ 37 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
23. เชส ฟาเบรกาส - 29.7 ล้านปอนด์
กองกลางชาวสเปนย้ายจาก บาร์เซโลนา มาในปี 2014 ก่อนจะเป็นตัวหลักในยุค โชเซ มูรินโญ สมัยที่สอง ค้าแข้งกับทีม 4 ปีครึ่ง สร้างชื่อจากการเป็นจอมแอสซิสต์ที่ทำได้ถึง 19 ครั้งในปีแรกที่ย้ายมา ซึ่งมากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลเป็นอันดับที่ 5 จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ลงสนามให้ วิงห์บลู ไป 198 เกม ยิงได้ 22 ลูกกับ 57 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B+
22. อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - 31.5 ล้านปอนด์
กองหลังดีกรีทีมชาติเยอรมันย้ายจาก โรมา มาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2017 และยังคงค้าแข้งกับทีมมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งช่วงเวลาพีคกับการพาทีมเป็นแชมป์ยุโรปได้ทั้งสองรายการ รวมถึงช่วงเวลาอันย่ำแย่ในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด จนเกือบย้ายทีมออกไปเช่นกัน ลงสนามให้ทีมไปแล้ว 149 เกม ทำได้ 7 ประตูกับ 3 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A
21. ดาวิด ลุยซ์ - 31.5 ล้านปอนด์
เป็นการย้ายกลับมาร่วมทีมอีกครั้งเป็นหนที่สองในปี 2016 ซึ่งเจ้าตัวยังคงความแข็งแกร่งดุดันเอาไว้ได้เช่นเคยแถมเพิ่มเติมคือประสบการณ์ที่สะสมมา ครั้งนี้ ลุยซ์ เล่นกับทีม 3 ฤดูกาล มีช่วงที่บาดเจ็บหนักในปี 2017 ก่อนจะกลับมายึดตัวจริงได้ในปีต่อมา กระทั่งถูกขายออกจากทีมไปในยุคของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ลงสนามให้ทีมไป (เฉพาะรอบที่สอง) 105 นัด ทำได้ 6 ประตูกับ 2 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
20. เอเดน อาซาร์ - 31.5 ล้านปอนด์
ยอดดาวเตะชาวเบลเยียม แจ้งเกิดกับ ลีลล์ ก่อนย้ายมาร่วมทีมในปี 2012 หลังจากนั้นก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาจนกลายเป็นนักเตะระดับโลกได้สำเร็จ น่าเสียดาดที่เจ้าตัวต้องการความท้าทายใหม่ ๆ จึงเลือกย้ายไป เรอัล มาดริด ในปี 2019 แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขายังไม่ประสบความสำเร็จกับ ราชันชุดขาว มากเท่าที่ควร ลงสนามให้ สิงห์บลู ไป 352 ยิงได้ 110 ประตูกับ 92 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A+
19. วิลเลียน - 31.9 ล้านปอนด์
ปีกจอมเลื้อยชาวบราซิล ย้ายจาก อันจี มาคัชคาลา มาในปี 2013 และเป็นตัวหลักให้ทีมมาตลอด 7 ปีกระทั่งตัดสินใจย้ายไป อาร์เซนอล หลังหมดสัญญาเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ที่ผ่านมา ลงสนามให้ เชลซี ไป 339 นัดทำได้ 63 ประตูกับ 62 แอสซิสต์ด้วยกัน
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B+
18. เอ็นโกโล ก็องเต้ - 32.2 ล้านปอนด์
กองกลางจอมขยันย้ายจาก เลสเตอร์ มาร่วมทีมในปี 2016 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมนับตั้งแต่นั้น แม้ว่าจะมีช่วงที่ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานแต่ก็ยังสามารถกลับมายึดตัวหลักแถมพัฒนาฝีเท้าจนเป็นแข้งระดับเวิลด์คลาสเป็นที่เรียบร้อยในปัจจุบัน ลงสนามให้ทีมไปแล้ว 2018 นัดทำได้ 10 ประตูกับอีก 11 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A+
17. แดนนี ดริ๊งวอร์เทอร์ - 34.1 ล้านปอนด์
อีกหนึ่งกองหลางชุดแชมป์ลีกของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ย้ายตาม ก็องเต้ มาในปี 2017 แต่ผลงานกลับต่างกันลิบลับ เพราะเจ้าตัวแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย จนถูกส่งไปให้ทีมอื่นยืมใช้งาน แถมกลับมายังต้องลงไปเล่นกับทีมสำรอง ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวกำลังกลับจากสัญญายืมตัวกับทีม คาซิมปาซา ในลีกตุรกี ลงเล่นในนาม สิงห์บลู ไปทั้งสิ้น 23 นัดทำได้ 1 ประตู
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
16. มิคาเอล เอสเซียง - 34.2 ล้านปอนด์
มิดฟิลด์ชาวกานา ย้ายจาก โอลิมปิก ลียง เข้ามาเมื่อปี 2005 ซึ่งหลังจากนั้นเขาสามารถระเบิดฟอร์มเก่งจนถูกขนานนามว่าเป็นกองกลางบ็อกทูบ็อกที่ดีที่สุดในโลก กระทั่งในปี 2009 เจ้าตัวโชคร้ายถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักจนไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ จนในปี 2014 เป็น เอซี มิลาน ที่มาคว้าตัวไปในที่สุด
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B+
15. ดิเอโก คอสต้า - 34.2 ล้านปอนด์
หัวหอกชาวสเปนเชื่อสายบราซิลย้ายจาก แอตเลติโก มาดริด มาในปี 2014 ก่อนระเบิดฟอร์มเก่งยิงถล่มทลายให้กับทีมได้สำเร็จ เจ้าตัวค้าแข้งอยู่กับทีม 3 ปีแม้จะทำผลงานได้ดี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ อันโตนิโอ คอนเด้ และย้ายกลับไปอยู่กับ ทัพตราหมี ในปี 2017 ที่ผ่านมา ลงสนามให้ เชลซี ไป 120 นัด ยิงได้ 58 ประตูกับ 24 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A
14. ดิดิเยร์ ดร็อกบา - 34.6 ล้านปอนด์
หัวหอกพันธุ์ดุที่ โชเซ มูรินโญ คว้าตัวมาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ในปี 2004 ก่อนจะระเบิดฟอร์มเก่งยิงถล่มทลายพาทีมกวาดแชมป์มาครองเป็นว่าเล่นจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร ก่อนจะปิดฉากด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนจะหมดสัญญาย้ายออกจากทีมไปในปี 2011 ลงสนามให้ทีมไปทั้งสิ้น (นับเฉพาะหนแรก) 341 นัดทำได้ 157 ประตูกับ 85 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : A+
13. มิชี บัทชัวยี - 35.1 ล้านปอนด์
หัวหอกชาวเบลเยียมที่ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาในปี 2016 ด้วยสไตล์ที่คล้ายคลึงกับ ดร็อกบา ทั้งความเร็วความแข็งแกร่งเขาจึงถูกคาดหวังเอาไว้ค่อนข้างสูง แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เจ้าตัวไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งเหมือนสมัยเล่นใน ลีกเอิง ออกมาได้ แถมยังถูกดร็อปเป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ จนในที่สุดก็ถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมใช้งาน กระทั่งการมาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่ตัดสินใจให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนจะทำไม่สำเร็จ จนถูกปล่อยต่อให้ คริสตัล พาเลซ ยืมตัวไปในปีที่ผ่านมา ลงสนามให้ สิงห์บลู ไป 77 เกมทำได้ 25 ประตูกับ 6 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
12. เตมูเอ้ บากาโยโก้ - 36 ล้านปอนด์
กองกลางชาวฝรั่งเศสย้ายจาก โมนาโก เข้ามาในปี 2017 ในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งในปีนั้นเจ้าตัวถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นพอสมควร กระทั่งการมาของ เมาริซิโอ ซาร์รี ทำให้เขาต้องถูกส่งตัวไปให้กับ เอซี มิลาน ยืมใช้งาน แม้กระทั่งทีมเปลี่ยนกุนซืออีกครั้งเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็ยังคงไม่ได้รับโอกาสและถูกปล่อยยืมตัวอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ลงสนามให้ เชลซี ไป 43 เกม ยิงได้ 3 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
11. ฮาคิม ซิเยค - 36 ล้านปอนด์
ตัวรุกผู้ที่โด่งดังกับ อาแจ็กซ์ และย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าปีแรกของเขากับ เชลซี แม้จะคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้ แต่ผลงานส่วนตัวยังต้องพัฒนาปรับปรุงอีกมาก แถมหลังจากการมาของ โธมัส ทูเคิล โอกาสลงสนามของเขาก็น้อยลงชัดเจนจนมีข่าวลือว่าเตรียมจะย้ายออกจากทีมอีกด้วย ลงสนามไปทั้งสิ้น 39 นัด ทำได้ 6 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ด้วยกัน
ตัดเกรดผลงานกับทีม : C
10. อังเดร เชฟเชนโก้ - 39.4 ล้านปอนด์
ยอดกองหน้าระดับตำนานของ เอซี มิลาน ย้ายมาร่วมทีม เชลซี ในปี 2006 แต่กลับไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้ ทำให้ตลอด 3 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวทำได้เพียง 22 ประตูกับ 11 แอสซิสต์จากการลงสนาม 77 เกมรวมทุกรายการเท่านั้น
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
9. มาเตโอ โควาชิช - 40.5 ล้านปอนด์
กองกลางชาวโครเอเชียผู้ซึ่งย้ายจาก เรอัล มาดริด มาตั้งแต่ปี 2018 ก่อนจะถูกซื้อขาดในปีถัดมา ซึ่งฟอร์มการเล่นจัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ในตำแหน่งตัวปั้นเกม แต่เพิ่งจะมาดูดีขึ้นในช่วงที่ โธมัส ทูเคิล เข้ามาทำทีม น่าเสียดายที่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บไปตอนท้ายฤดูกาลช่วงที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง ต้องมาลุ้นกันว่าจะกลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งได้หรือไม่ในซี่ซั่นหน้า ลงสนามให้ทีมไป 140 นัด ทำได้ 2 ประตูกับ 7 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
8. เบน ชิลเวลล์ - 45.1 ล้านปอนด์
แบ็คซ้ายที่เพิ่งจะย้ายจาก เลสเตอร์ มาร่วมทีมเมื่อซัมเมอร์ก่อน แม้ดูเหมือนจะเสียตำแหน่งให้ มาร์กอส อลอนโซ ไปในช่วงแรกที่ ทูเคิล เข้ามาคุมทีม แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เร่งฟอร์มจนทวงตำแหน่งกลับมาได้ในที่สุด และพาทีมเข้าป้ายแชมเปี้ยน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ชิลเวลล์ ลงสนามให้ เชลซี ไปแล้ว 42 นัด ทำได้ 4 ประตูกับ 7 แอสซิสต์จนถึงปัจจุบัน
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
7. ติโม แวร์เนอร์ - 47.7 ล้านปอนด์
กองหน้าความเร็วสูงชาวเยอรมัน ย้ายมาพร้อมกับดีกรีดาวยิงสูงสุดของ แอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อกลางปี 2020 แต่แล้วปีแรกของเขากับ เชลซี ดูจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะหลังจากทำประตูไม่ได้ในช่วงแรกส่งผลให้ความมั่นใจดูจะหดหายไปพอสมควร จนทำไปได้เพียง 12 ประตูแต่ทำได้มากถึง 15 แอสซิสต์รวมทุกรายการตลอด 52 เกมให้ สิงห์บลู ในซีซั่นที่ผ่านมา
ตัดเกรดผลงานกับทีม : C+
6. จอร์จินโญ - 51.3 ล้านปอนด์
กองกลางชาวอิตาเลียนย้ายจาก นาโปลี มาร่วมทีมในปี 2018 พร้อมกับนายใหญ่คู่บุญอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี แต่หลังจากการมาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ฟอร์มของเขาก็เริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นจนมีบางช่วงถูกโจมตีอย่างหนักจากบรรดาสื่อและแฟนบอลเลยทีเดียว แม้ว่า ทูเคิล จะทำให้ผลงานโดยรวมดูดีขึ้นแล้ว แต่แฟนบอลหลายคนก็ดูจะยังไม่มั่นใจในฝีเท้าของเขาอยู่เช่นเดิม จอร์จี้ ลงสนามให้ สิงห์บลู ไปแล้ว 141 นัดทำได้ 17 ประตูกับ 4 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B-
5. เฟร์นันโด ตอร์เรส - 52.6 ล้านปอนด์
เอล นินโญ ย้ายจาก ลิเวอร์พูล เข้ามาเมื่อปี 2010 ด้วยค่าตัวมหาศาล ณ เวลานั้น แถมผลงานของเขากลับสวนทางอยู่แรงเมื่อเทียบกับฟอร์มการเล่นสมัยอยู่ หงส์แดง ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็พยายามจะพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มที่จนพาทีมคว้าแชมป์ยุโรป 2 รายการติดต่อกันในปี 2012 และ 2013 ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมในยุคของ โชเซ มูรินโญ เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา ตอร์เรส ลงสนามให้ เชลซี ไป 172 นัดทำได้ 45 ประตูกับ 35 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : C+
4. คริสเตียน พูลิซิช - 57.6 ล้านปอนด์
กัปตันอเมริกา ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาในปี 2019 ซึ่งปีแรกฟอร์มของเขาจัดว่าโดดเด่นก่อนที่จะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาวไป หลังจากกลับมาช่วงต้นฤดูกาลนี้เจ้าตัวไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้เลย กระทั่งการมาของ โธมัส ทูเคิล ทำให้เขาค่อย ๆ เค้นผลงานที่ดีออกมาและเป็นกำลังสำคัญช่วยทีมในช่วงท้ายฤดูกาลได้ทันเวลา พูลิซิช ลงสนามให้ สิงห์บลู ไปแล้ว 77 เกม ทำได้ 17 ประตูกับ 14 แอสซิสต์ด้วยกัน
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
3. อัลบาโร โมราต้า - 59.4 ล้านปอนด์
กองหน้าดีกรีทีมชาติสเปนย้ายจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทีมเมื่อปี 2017 ในช่วงแรกดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ระยะหลังเริ่มใช้โอกาสเปลืองจนสงผลต่อความมั่นใจ หลังจากผ่านไปเพียงปีครึ่งเขาตัดสินใจย้ายกลับไปยังสเปนช่วงต้นปี 2019 ปิดตำนานกองหน้าสุดหล่อค่าตัวแพงไปในที่สุด โมราต้า ลงสนามให้ สิงห์บลู ไป 72 เกมยิงได้ 24 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : D
2. เคปา อาร์ริซาบาลาก้า - 72 ล้านปอนด์
นายทวารผู้ถูกแฟน ๆ สิงห์บลู ยกให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่กว่าผู้จัดการทีมจากวีรกรรมคัดค้านการเปลี่ยนตัวในยุคของ ซาร์รี แถมในยุคของ แลมพาร์ด ดูเหมือนฟอร์ของเขาจะร่วงลงอย่างหนัก พลาดง่าย ๆ จนทีมต้องนำตัว เอดูอาร์ด เมนดี้ มาประจำการแทนในที่สุด โค้ช เคปา ลงสนามไปแล้ว 109 นัดเสียไป 120 ประตูเก็บได้ 39 แอสซิสต์
ตัดเกรดผลงานกับทีม : C-
1. ไค ฮาเวิร์ตซ์ - 72 ล้านปอนด์
ตัวรุกกาวรุ่งย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน มาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อน แต่หลังจากประเดิยสนามให้ทีมแฟน ๆ ต่างกุมขมับพร้อมเสียงวิจารณ์กันระงมถึงฟอร์มการเล่นที่ดูไม่มีแววจะคุ้มเงินที่เสียไปเลย กระทั่งการมาของ ทูเคิล และเจ้าตัวถูกจับไปเป็นหัวหอก ฟอร์มของเขาก็ค่อย ๆ ฉายแววจนกระทั่งก้าวขึึ้นมาเป็นตัวหลักในที่ในที่สุดแถมยังยิงประตูชัยในรอบชิง แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกด้วย ไค ลงสนามให้ทีมไป 45 เกมทำได้ 9 ประตูกับ 9 แอสซิสต์รวมทุกรายการ
ตัดเกรดผลงานกับทีม : B
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด