แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล: 5 ประเด็นก่อนเกม พรีเมียร์ลีก ศึกแดงเดือด แรกของฤดูกาล 2022/23
การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2022
เวลาแข่งขัน: 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ลิงค์ถ่ายทอดสด: True Premier Football 1, True Premier Football 2
วันแข่งไม่ค่อยเอื้ออำนวย
สิ่งแรกที่แฟนบอลหลายคนต่างบ่นกันไม่น้อยเลยคือโปรแกรมการแข่งขันเกมใหญ่แต่ดันมาลงที่คืนวันจันทร์ตอนตี 2 ตามเวลาบ้านเรา แน่นอนสำหรับแฟนตัวยงคงไม่มีปัญหาอะไรกับการยอมนอนน้อยสักหนึ่งคืนเพื่อตามเชียร์ทีมในดวงใจ แต่สำหรับบางท่านที่อยากดูจริง ๆ แต่ติดต้องทำมาหากินแต่เช้านี่ก็ต้องบอกว่าน่าเห็นใจที่ต้องพลาดเกมระดับคุณภาพ(มั่ง)แบบนี้ไป แต่ในอีกมุมก็มีเสียงจากฝั่งแฟน ปีศาจแดง บางท่าน ที่หลังจากเห็นผลงานสองนักแรกแล้วก็มองว่าการที่ "แดงเดือด" แข่งดึก ๆ วันธรรมดา ก็อาจจะช่วยลดแรงกระแทกทางโซเชียลไปได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่แน่นอนสำหรับแฟนเดนตายทั้งสองทีม อาจจะไม่ใช่เรื่องดีหากบอลจบตี 4 แล้วทีมทีมรักดันมาแพ้คู่รักคู่แค้นตลอดกาล บางทีคงถึงขั้นนอนไม่หลับยันฟ้าสว่างเลยก็เป็นได้
ผลงานก่อนแข่งก็ไม่เอื้ออำนวย
เรียกได้ว่าทั้งคู่เลยก็ว่าได้ โดยทางเจ้าบ้านจมบ๊วยของตารางมี 0 คะแนน ทำได้หนึ่งประตูซึ่งมาจาการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่งและเสียไปถึง 6 ลูก ขณะที่ทีมเยือน หงส์แดง ก็ยังหา 3 คะแนนแรกไม่เจอหลังทำได้แค่เสมอคู่แข่งทั้งสองเกมชนิดที่ยังไม่มีมีแม้แต่วินาทีเดียวที่พวกเขายิงประตูนำคู่แข่งได้เลยในฤดูกาลนี้ นั่นทำให้สิ่งที่จะเกิดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือหลังจบเกมนี้จะยังคงมีอย่างน้อยหนึ่งทีมที่เปิดฤดูกาลด้วยการไม่ชนะรวด 3 เกมแรกซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการออกสตาร์ทซีซั่นที่ย่ำแย่มากที่สุดอันดับต้น ๆ ของสองยักษ์ใหญ่แน่นอนนับตั้งแต่ยุค พรีเมียร์ลีก 30 ปีก่อนเป็นต้นมา
แชมป์ราชมังฯ มันค้ำคอ
หลายคนคงจะสงสัยว่าเกมอุ่นเครื่องธรรมดา ๆ ที่ประเทศไทยจะไปมีผลอะไรกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดสำคัญแบบนี้ ซึ่งในการกายภาพอาจจะไม่ แต่ในทางจิตใจมีแน่นอน ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด การที่เคยบินมาถล่ม ลิเวอร์พูล ถึง 4 ลูกที่ ราชมังฯ เมื่อเดือนก่อนนั้นย่อมสร้างกำลังใจเล็ก ๆ ให้กับพวกเขาจากที่ก่อนหน้านั้นเรียกได้ว่าหมดหวังเพราะโดนอัดในลีกยับเยินสองนัด 9 ลูกซึ่งถ้าหากไม่มีเกมอุ่นเครื่องนัดดังกล่าวบางที่แฟน ๆ ผีแดง อาจจะดูแบบปลง ๆ ไปเลยก็ได้ในเกมนี้ ในขณะที่ฝั่ง ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าพวกเขาจะมาพร้อมกับความแค้นเล็ก ๆ ซึ่งนั่นอาจทำให้นักเตะมีแรงกระตุ้นมากขึ้นบ้างแต่ในมุมแฟนบอลมีล่ะก็แน่นอน และนั่นอาจทำให้ดีกรีของเกมนี้ "เดือด" สมชื่อได้มากกว่าซีซั่นก่อนก็เป็นได้
ตัวหลัก หงส์แดง พลาดลงสนามหลายราย
เป็นปัญหาใหญ่ให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ปวดหัวตั้งแต่ต้นฤดูกาลเลยทีเดียวกับปัญหานักเตะบาดเจ็บซึ่งปัจจุบันลามมาถึงแข้งคนสำคัญ ๆ หลายรายแล้วตั้งแต่ ติอาโก้ อัลคันทารา ที่บาดเจ็บในีะหว่างกับ ฟูแลม และยังคงลงสนามในเกมนี้ไม่ได้ ดิโอโก้ โจต้า ตัวอันตรายอีกคนในแดนหน้าก็เจ็บมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น โจเอล มาติป ที่บาดเจ็บระหว่างการซ้อมก่อนเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ และ อิบราฮิมา โคนาเต้ ที่เจ็บเข่าตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล แถมยังมี เคอร์ติส โจนส์ คาลวิน แรมซีย์ อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน ควีวีน เคลเลเฮอร์ ที่จะพลาดลงสนามช่วยทีมแน่นอนแล้ว แถม ดาร์วิน นูนเญซ ยังมาโดนแบนยาว 3 เกมจากการไปโขก โยอาคิม แอนเดอร์สัน จนโดนใบแดงในนัดก่อนอีกด้วย
เทก ฮาก จะมาไม้ไหน ?
เป็นที่น่าสนใจมาก ๆ ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะรับมือกับ ลิเวอร์พูล ที่ชัดเจนมาตลอดหลายปีว่าเล่นเกมรุกบุกอัดเข้าใส่คู่แข่งแน่นอนได้อย่างไร ซึ่งตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมาเหล่าบรรดากุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะมีวิธีการรับมือที่แตกต่างกันไป ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่หากลองดูจากในเกมอุ่นเครื่องที่ทั่งคูพบกันดูเหมือนว่า เอริค เทน ฮาก จะไม่ใช่แนวอุดหลังบ้านหรือขับรถบัสมาจอดขวางประตูอะไรทำนองนั้น แต่อย่าลืมว่าเกมเกมดังกล่าว หงส์แดง ก็โรเทชั่นนักเตะหมุนเวียนลงเล่นแทบทั้งทีม ซึ่งหากพวกเขายังคงยืนยันจะเน้นครองบอลบุกเข้าใส่เหมือนเดิมก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่านักเตะแก้เพลสส์กันเป็นหรือยัง ? เพราะสองนัดแรกเห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อถูกบีบสูงพวกเขาจะทำเกมจากแดนตัวเองแทบไม่ได้เลย นี่จึงเป็นอีกจุดที่แฟน ๆ อยากเห็นว่า เทน ฮาก เองจะมีกึ๋นมาน้อยแค่ไหนในการรับมือกับสถานการณ์อันยากลำบากแบบนี้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด