ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ: 4 ประเด็นก่อนเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง เปิดบ้านต้อนรับ ดิ อีเกิลส์

Liverpool v Tottenham Hotspur - Premier League
Liverpool v Tottenham Hotspur - Premier League / Visionhaus/GettyImages
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2022 
เวลาแข่งขัน: 02:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ
สนาม: แอนฟิลด์
ลิงค์ถ่ายทอดสด: True Premier Football 1True Premier Football 2


ปัญหานักเตะเจ็บยังคงรุมเร้า หงส์แดง

เรียกได้ว่าเจออุปสรรคอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ต้นฤดูกาลเลยทีเดียวสำหรับทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ นอกจากเรื่องฟอร์มการเล่นที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางจนทำได้เพียงเสมอกับน้องใหม่ ฟูแลม ในนัดเปิดสนามแล้ว 2-2 แถมพวกเขายังต้องมาเจออาการบาดเจ็บเล่นงานเข้าอย่างจังโดยที่ปัจจุบันมีอย่างน้อย 7 รายตั้งแต่ เคอร์ติส โจนส์ ควีวีน เคลเลเฮอร์ อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน อิบราฮิมา โคนาเต้ และรายล่าสุดอย่าง ดิอาโก้ อัลคันทารา ที่จะลงสนามช่วยทีมไม่ได้แน่นอนแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวดีที่อาจจะได้ นาบี เกอิต้า ที่เพิ่งหายจากอาการป่วยกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง แต่สำหรับรายของ ดิโอโก้ โจต้า และ คอสตาส ซิมิคาส ที่เจ็บยาวมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นยังคงต้องรอเช็คความฟิตก่อนเกมจะเริ่มอีกครั้งหนึ่ง

Thiago Alcantara
Fulham FC v Liverpool FC - Premier League / Julian Finney/GettyImages

พาเลซ ไม่หมู

หากใครได้ติดตามชมฟอร์มของ คริสตัล พาเลซ ในเกมนัดเปิดสนาม บอกได้เลยว่าแตกต่างกับตอนที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ในเกมปรีซีซั่นแบบลิบลับ แม้จะพ่าย อาร์เซนอล ไปถึง 0-2 แต่รูปเกมพวกเขาแทบไม่เป็นรองเลยด้วยซ้ำ มีจังหวะไล่บีบสูง มีช่วงเวลาที่ได้พับสนามบุก เหมือนที่เจอกับ ฟูแลม แต่ต่างกันตรงที่ไม่มี อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช ยืนเป็นตัวค้ำยันในแดนหน้า โดยตัวชูโรงของ ดิ อีเกิลส์ ในปีนี้ก็ยังคงเป็น วิลฟรีด ซาฮา ที่เป็นคนกระชากลากเลื้อยคอยพาบอลจากแดนกลางเข้าสู่กรอบเขตโทษ ซึ่งทีมของ วิเอรา ดูจะมีความอันตรายในการเล่นเกมสวนกลับ ยิ่งกับตัวริมเส้นของ หงส์แดง ที่มักจะเติมขึ้นสูงจนเปิดพื้นที่ในเกมรับ นั่นก็อาจทำให้ต้องฝากความหวังไว้ที่ ฟาน ไดจ์ค และ มาติป มากหน่อยก็เป็นได้

Patrick Vieira
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Julian Finney/GettyImages

นูนเญซ ต้องตัวจริงแล้ว

เกมก่อน เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจใช้งาน โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่ง ฟอลส์ 9 ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะกับทีมเล็กที่เน้นตั้งรับเท่าใดนักเพราะแทบไม่มีพื้นที่ให้เล่นในแดนสุดท้าย กระทั่งการส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงมาในครึ่งหลังกลับช่วยให้ทีมได้ 2 ประตูชนิดที่แม้ว่าเจ้าตัวจะมีส่วนแบบอาศัยโชคช่วยพอสมควร แต่นั่นก็หมายความว่าเขาสามารถสร้างความปั่นป่วนให้แผงหลังได้ดีในฐานะกองหน้าตัวเป้าธรรมชาติที่เราไม่ได้เห็น ลิเวอร์พูล มีหัวหอกสไตล์นี้มานานหลายปีแล้ว แถมหลังจากที่แฟน ๆ เห็นฟอร์มการเล่น การมีส่วนร่วม รวมถึงความมีโชคช่วยในกรอบเขตโทษ ก็อดคิดถึงตำนานมหาเทพอย่าง "โอริกี้" ไม่ได้ จนหลายคนเห็นแล้วยกให้ นูนเญซ เป็นการผสมรวมร่างกันอย่างลงตัวของ ซาดิโอ มาเน บวกกับ ดิวอค โอริกี้ เลยทีเดียว

Darwin Nunez
Fulham FC v Liverpool FC - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

แข้งที่น่าจับตามองของ คริสตัล พาเลซ

หลายคนอาจจะมองว่า วิลฟรีด ซาฮา จะเป็นคีย์แมนของพลพรรค ดิ อีเกิลส์ ในเกมนี้ ซึ่งนั่นก็คงเป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะดูจากผลงานรวมถึงสิ่งที่เจ้าตัวทำได้ ก็แทบจะเรียกได้ว่าแบกเกมรุกของสโมสรเอาไว้บนบ่าอยู่แล้ว แต่ในเกมรับล่ะ โดยเฉพาะทีมระดับ พาเลซ ที่ไม่ใช้ทีมใหญ่โตอะไร การเล่นเกมรับก็แทบจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดกับสโมสรระดับนี้เพราะการไม่เสียประตูเท่าการที่คุณเก็บแต้มได้ โดยหากดูจากผลงานตั้งแต่ฤดูกาลก่อนก็คงต้องยอมรับจริง ๆ ว่า โจอาคิม แอนเดอร์สัน กองหลังชาวเดนมาร์กวัย 26 ปีดูจะเป็นคนที่น่าจับตามองสุด ๆ นอกจากการเล่นเกมรับที่จัดว่านิ่งสุด ๆ แล้ว จุดเด่นอีกเรื่องของเขาคนนี้คือการวางบอลยาวได้แม่นเหมือนจับวาง ดูได้จากสถิติเมื่อฤดูกาลก่อนที่เจ้าตัวมีสถิติการวางบอลยาวสำเร็จมากที่สุดในลีก ซึ่งเยอะกว่า เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ขึ้นชื่อว่าแม่นสุด ๆ คนหนึ่ง ณ เวลานี้อีกด้วย

Joachim Andersen
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด