แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เชลซี: ประเด็นก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดกลางสัปดาห์ ปีศาจแดง ต้อนรับ สิงโตน้ำเงินคราม

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: คืนวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2022
เวลาแข่งขัน: 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ เชลซี
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ถ่ายทอดสด: True Premier Football HD 1

1. สถิติสุดข่มของ แมนยู

ก่อนเกมมีหนึ่งสถิติที่น่าสนใจของทั้งสองทีมนั่นคือหากนับเฉพาะในเกม พรีเมียร์ลีก เชลซี ไม่สามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้แล้ว 8 นัดติดต่อกัน (เสมอ 5 แพ้ 3) ซึ่งครั้งหลังสุดที่พวกเขาทำได้ต้องย้อนกลับไปในปี 2017 ยุคที่ อันโตนิโอ คอนเต้ คุม เชลซี และ โชเซ มูรินโญ คุม แมนฯ ยูไนเต็ด แต่หลังจากนั้นมาจนถึงปัจจุบันเป็น ปีศาจแดง ที่แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องผลงานมาตลอด 5 ปีแต่ในยามที่พบกับ สิงห์บลู พวกเขากลับเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าอยู่เสมอ

2. สิงห์บลู กับเกมเยือนสุดสะเด่า

ต้องบอกว่าจุดเด่นของ สิงโตน้ำเงินคราม ในฤดูกาลนี้อีกอย่างหนึ่งคือสถิติเกมเยือนอันร้อนแรงชนิดที่ดีผิดหูผิดตากับการเล่นในบ้านอย่างเห็นได้ชัดโดยเก็บได้ 36 คะแนนจาก 16 นัด (ชนะ 11 เสมอ 3 แพ้ 2)​ มากที่สุดเป็นอันดับที่สองรองจาก แมนฯ ซิตี้ ทีมเดียวเท่านั้น แต่มีผลต่างประตูได้เสียที่ +26 ลูกดีที่สุดในบรรดาทุกสโมสรในซีซั่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น 9 เกมหลังสุดที่ออกไปเยือนคู่แข่งรวมทุกรายการพวกเขาชนะรวดและยิงได้ถึง 25 ประตูเลยทีเดียว

3. โอกาสสุดท้ายของ ปีศาจแดง

แม้ว่าก่อนเกมโอกาสในการลุ้นตำแหน่งท็อป 4 ของ ปีศาจแดง ก็ค่อนข้างจะริบหรี่เต็มทีหลังจากตามหลังอันดับ 4 อย่าง อาร์เซนอล ถึง 6 คะแนนแถมยังคงแข่งไปมากกว่า 1 เกม อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล เองยังมีโปรแกรมต้องพบกับทั้ง เวสต์แฮม นิวคาสเซิล รวมถึง สเปอร์ส ที่มีโอกาสสะดุดได้ แต่กระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เองจำเป็นต้องคว้า 3 คะแนนให้ได้อย่างต่อเนื่องเท่านั้นและต้องเริ่มทันที่ตั้งแต่เกมกับ เชลซี คืนพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายเพราะหากไม่ชนะก็เตรียมจูบลา แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าตั้งแต่บัดนี้ได้เลย

4. สิงห์บลู ประคองตัวเพื่อเกมสำคัญ

ทางด้าน เชลซี เองก็แทบไม่มีอะไรต้องลุ้นมากนักในลีก เพราะดูจากมาตรฐานแล้ว พวกเขาน่าจะสามารถรักษาอันดับที่ 3 ไว้ได้จนจบฤดูกาลหรืออย่างแย่คือหลุดไปถึงอันดับที่ 4 แต่ก็ยังคงได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นหน้าอยู่ดี และที่สำคัญกว่านั้นพวกเขายังมีศึกสำคัญในนัดล้างตาใน เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศที่จะได้ดวลกับ ลิเวอร์พูล อีกครั้งหลังจากพลาดท่าพ่ายจุดโทษมาในรอบชิง คาราบาว คัพ ที่ผ่านมา ฉนั้นคาดว่าเกมนี้ ทูเคิล คงจะเน้นเพลย์เซฟไม่ตะบี้ตะบันบุกเพื่อรักษาสภาพร่างกายผู้เล่นตัวหลักเอาไว้ให้สดใหม่ที่สุดในเกมสำคัญกลางเดือนหน้านั่นเอง

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด