"ประกิต" เปิดใจความชอกช้ำที่ทุกคนออกมาจาก "อุดรธานี เอฟซี"

การไลฟ์สดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ของ "ประกิต ดีพร้อม" ซึ่งพูดถึง อุดรธานี เอฟซี อันดับ 3 ไทยลีก 2 ที่แฟนบอลหลายคนคาใจ เขากล่าวว่า "ปัญหาที่เจอกันมาตลอด 1 ปี กับผู้บริหารคนหนึ่ง คือ เงินเดือนค้างจริง ไล่ตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่จ่ายครึ่งเดือน เพราะคุยกับผู้บริหารเก่าว่าจะจ่ายคนละครึ่ง"

"พบมาถึง ม.ค. และ ก.พ. ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แต่มาถึง มี.ค. ปีทีแล้ว ที่เราไปเยือน อุทัยธานี เอฟซี เราเหนื่อยและสาหัสในการลุนหนีตกชั้น แต่ว่าได้เงิน ... แค่ครึ่งเดียว เม.ย., พ.ค., มิ.ย. ปิดลีกแต่เราไม่ได้เงินเลย ซึ่งคุยแล้วก็ได้คำตอบว่า "จะเคลียร์ให้" ก็ไม่ได้เงิน"

"มาถึงซีซั่นนี้ เราปรีซีซั่นแบบกระอนกระแท่น ครึ่งนึงบ้าง, 20 % บ้าง, 30 % บ้าง จนมา ต.ค., พ.ย., ธ.ค. นักเตะทุกคนไม่ได้เงินเลยมีบางคนที่ได้เงิน แต่ ประกิต ดีพร้อม ไม่ได้เงินเป็นทั้งหมด 7 เดือน ซึ่งทำสัญญาแล้ว 2 งวด งวดแรก 12 ม.ค. ยังไม่ชำระ แต่เลื่อนไปวันศุกร์ ตามหน้าเพจต่างๆที่มีปัญหายืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง"

"โค้ชดาเนียล บลังโก้ ทำไมทีมถึงไปต่อได้ แล้วมีผลงานดี ทั้งๆที่ทุกคนรู้ว่ามีปัญหาเรื่องเงิน การจัดการก็ไม่ดีเลย ขอยกเครดิตให้ โค้ชบลังโก้ และทีมงาน ที่สร้างสปิริตขึ้นมา เพื่อเล่นให้แฟนบอล อุดรธานี เอฟซี ทุกๆคน ขนาดเขาไปไฟว์เรื่องเงินเดือนให้ ก็ต้องออกจากทีม แต่เราก็ก้มหน้าก้มตาทำงานหนักเหมือนเดิม ก็คุยกับคนที่เข้ามาใหม่ในการทำทีม ไม่ต้องเปลี่ยนการทำทีมเยอะเพราะดีอยู่แล้ว ซึ่งนักเตะทุกคนให้ความรู้มือเป็นอย่างดีมาก"

"เงินโบนัส จากที่เรารอดตกชั้นจากปีที่แล้ว ซึ่งจะให้ 600,000 บาท จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เลย ไม่รู้จะได้หรือไม่ เห็นใจน้องๆจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เขามาช่วยและสู้เพื่อทีมของเราจริงๆ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินโบนัสตรงนั้น ผมพยายามทวงแล้ว แต่คำตอบที่ได้ก็คือ .... "ยังไม่ออก" ถึงวันนี้"

"เหตุผลที่ย้ายทีม เรื่องนี้ปัญหาเดียวที่เกิด คือ เรื่องเงินไม่ออก น้องๆหลายคนลำบากมาก บางคนมีรถยนต์ขับไปซ้อม แต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน ต้องนั่งมอเอตอร์ไซด์ไปซ้อมร่วม 30-40 กิโลเมตร ผมเห็นใจน้องทุกคนมากๆ เพราะเรื่องเงินเป็นปัญหาใหญ่มากๆ อย่างแบ็คขวาของเราสัญญาไม่หมด แต่ต้องย้าย เนื่องจากต้องหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าไม่อยากย้ายทีม บรรยากาศในทีมมันดีมากๆจริงๆ"

"น้องออกไปโดยที่ทิ้งเงินที่ทีมติดไว้ด้วยซ้ำ เพื่อที่จะได้ใบโอนย้ายออกไป ลำพูน วอริเออร์ หรือ แบ็คซ้าย ที่ไปอยู่ขอนแก่น ยูไนเต็ด, เจ้าปาล์ม ประตูไปโคราช ก็เพราะเรื่องเงินที่สโมสรติดค้างไว้ แบ็คซ้ายอีกคนอยากออกจากทีม ปรึกษากับ ประกิต ก็ให้ไปคุยกับผู้บริหารดีๆ ไปคุย 2-3 ทุ่มถึงได้ใบโอนย้าย แต่ไม่ได้เงิน น้องๆหลายคนไม่แฮปปี้กับการไม่ได้รับเงินเดือน"

"ส่วนตัวของผมแล้ว ไม่ได้อยากออกจากทีม เพราะผลงานในเลกแรกดีมาก อยากจะสู้ต่อให้จบปี แต่ก็ฝืนตัวเองไม่ไหว และสัญญาก็หมดวันที่ 31 ธ.ค.64 ผมบอกเลยว่าผมไม่อยากทิ้งทีม ทิ้งแฟนบอล แต่ภาระผมก็ยังมี มีค่าใช้จ่ายของครอบครัว นี่เป็นเหตุผลที่ผมไม่สามารถอยู่กับทีมต่อได้ ทั้งๆที่ใจผมไม่อยากทำแบบนั้น"

"เรื่องการบริหารทีม มีหลายเคสต์อาทิ การเดินทาง หักนู่นนี่จากเงินเดือน แบบไม่มีเหตุผล ฟิตเนสเฟิร์สที่เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ ทำไมต้องเสียเงิน 700 บาทต่อเดือน อันนี้ก็ไม่เข้าใจจริง ประกันสังคม ก็หักไปด้วย ไม่แน่ใจว่าไปจ่ายให้หรือไม่ ถ้าจ่ายเป็นเรื่องดี แต่อยากได้คำตอบ"

"นักเตะต่างชาติ คนแรก ทาเลส ลิมา เขายังมีสัญญาเหมือนกัน ไม่อยากออกจากทีม เขามีครอบครัวต่างบ้านต่างเมืองมา มีหลายเหตุการณ์ที่เจอ อย่าง ไฟดับที่บ้าน เพราะเงินเดือนไม่ออก ไม่ได้ไปจ่ายค่าไฟ รถน้ำมันหมดมาซ้อมไม่ได้ ไม่มีเงินเติมจนต้องขยับตัวเองไปอยู่ที่อื่น เพื่อเลี้ยง ภรรยา กับลูกอีก 2 คน"

"ด้าน ลิม ชาง ฮุน เขามาอยู่ไทยปีแรก เขาหวังมาสร้างผลงาน ซึ่งเขาตอบแทนทีมได้ดีและเพอร์เฟคต์มาก แต่เขาเงินเดือนไม่ออก 3 เดือน ช่วงก่อนหน้านั้น ออกบ้าง ไม่ออกบ้าง น่าเห็นใจที่เขามาเจอเรื่องแย่ๆ และน่าเห็นใจที่เขายังอยู่กับทีม ขณะที่ อเล็กซ์ คาปิโซดา เขาแคร์ทีมและสู้เพื่อทีม แต่น่าเห็นใจที่เงินเดือนไม่ออก ซึ่งพอไม่มีเงินไม่สามารถหาของกินที่ถูกปากได้ ครอบครัวของเขาเองก็รับผลกระทบตามไปด้วย"

"สุขอาพร วงศ์เจียงคำ น่าสงสารคือเงินเดือนก็ไม่ออก เป็นคนรักครอบครัว ตอนที่หมาป่วยพาไปรักษา เอาทองไปขายเพื่อรักษา และดูแลครอบครัวของเขา พูดแล้วผมเห็นใจมากจริงๆ ซึ่งผมอยู่ในทีมผมรู้ว่าปัญหามันคืออะไรบ้าง"

อดีตกัปตันยักษ์แสด ยังกล่าวต่อว่า "เรื่องเสื้อแข่ง ช่วงแรกมี 1 ตัว โดยทำสัญญากับ เกลเม่ กระชั้นชิด แต่คิดว่าแค่นั้น กลายเป็นว่าใส่เสื้อตัวเดียวมา 7-8 แมตช์ กระทั่งผู้บริหาร เกลเม่ โทรหาผม ก็ยอมรับว่าเรื่องจริงหลังข่าวออก แต่บริษัทบอกว่า เสื้อส่งมาแล้ว 400 ตัว คือ ของนักเตะหมดเลย ทำได้ไปคุยกับ ผู้บริหารว่าทำไมใส่ตัวเดียว ต้องใส่ 2 ตัวต่อแมตช์ จนได้ใส่ 2 ตัวต่อแมตช์ หลังผ่านไปนัดที่ 8 นี่คือเรื่องจริงทั้งหมด"

"กระแสเรื่องทำไมผู้บริหารเก่าไม่กลับมาช่วย เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ตอนนี้ที่ทีมไม่ดี ไม่ใช่ว่าผู้บริหารเก่าไม่ทราบ เขาสอบถามด้วยความเป็นห่วงตลอด ท่ามมีความเมตรตามา แต่ข้อตกลงที่ทำไว้ คือ คนคนนั้นขอบริหารคนเดียว และก็บอกว่าหาสปอนเซอร์ไว้แล้ว ผมขอตอบชัดเจนว่า เขายังเป็นห่วงทีม และยังอยากจะช่วยทีมอยู่เสมอ ทั้ง พี่ป็อป และ พี่ก้อ"

"ที่ผ่านมาครึ่งซีซั่นผลงานดี จริงๆแล้วร่างกายเราดี แต่ทีมไม่มีหมอ หากใครเจ็บต้องดูแลตัวเอง บางคนต้องไปเสียเงินหาหมอเอง เพื่อทำการอัลตราซาวน์ รักษาอาการบาดเจ็บ ลดการอักเสบ ส่วนนี้เป็นการบริหารทีมที่เราดูแลตัวเองดี เราพยายามรักษาตัวเองดีให้เล่นได้ตลอดทั้งเลกแรก ผมแนะนำไปแล้วต้องมีแพทย์ในทีม ต้องมีนักกายภาพ แต่คำตอบที่ได้มา คือ ไม่มี ไม่มีอะไรเลย"

"ช่วงท้ายเลกแรก คือ ผ้าล็อก กับ ยารักษาอาการบาดเจ็บ ก็สอบถามไปทาง พี่ต่อ ทางสโมสรยังไม่ชำระเงินส่วนหนึ่ง เลยยังไม่สามารถส่งให้ได้ ทั้ง ผ้าล็อก และ ยารักษา ส่วนโบนัสแต่ละเกม 1-2 แสนบาท แต่ละนัด ก็ช่วยกันถามในกลุ่มไลน์ โบนัสออกวันไหน? จะเข้าเมื่อไร? คำตอบคือ รอเขาโอนมาอยู่ ... มันคืออะไร มันเป้นทีมของคุณเอง คุณไม่ได้บริหารหรอ แต่บางนัดก็มีเงินสดให้เลย แต่บางนัดก็ไม่มีเลย บอกแค่รอเขาโอนมาอยู่ ... อะไรวะเนี่ย"

"ผมออกมาพูดไม่ใช่ไม่รักทีม ผมยังศรัทธาสโมสรและรักแฟนบอล อุดรธานี เอฟซี ทุกคน ผมแค่อยากออกมาระบายให้ทราบกัน อยากให้ทุกคนที่ยังไม่รู้ว่า เชื่อผมเถอะ มันเป็นมาตั้งแต่แรก แต่เราเก็บเอาไว้เอง เราพยายามเก็บไว้ทุกอย่าง จนกระทั่งข่าวทุกอย่างออกมาเอง น้องๆบางคนเงินเดือน 1-2 หมื่นก็ยังค้างไว้ บางคนก็โดนจ่าย 20% ยังไม่พอจ่ายค่าหอ ผมก็พยายามบอกว่า เดี๋ยวเขาให้ ก็เหมือนเป็นการปลอบใจตัวเอง แต่ก็ปลอบใจตัวเองทั้งทีม"

"สิ่งที่แทงใจดำนักเตะ เราแพ้ในบ้านหลังจาก บลังโก้ ออกวันศุกร์ เราเจอระยอง เอฟซี ในบ้าน วันนั้นทุกคนสับสนไปหมด ด้วยความใจหายที่ บลังโก้ อออกไป สุดท้ายเราแพ้คาบ้าน 0-2 หลังจบเกมแฟนบอลหรือหลายคนจะเข้าใจ แต่ดันมีกระแสแบบ บรรลัย หรือ ชิบหาย เพราะผมได้ยินมาจากคนคนนั้นแหละ ซึ่งพวกผมรับไม่ได้ "พวกผมล้มบอล"

"จนมาประชุมกันที่สนาม ทำไมถึงพูดแบบนี้ จนเขาบอกว่า "มีคนมาบอกเขาแบบนั้น" ถามตรงๆว่าใครพูด หามาให้หน่อยใครพูดว่าล้มบอล ล็อคผลสกอร์ ผมจะฟ้องเอง พวกผมอยู่ในสนามซ้อมวันนั้น เสียใจและเบื่อมาก สปิริตจะพังเอา แต่พวกผมก็ลุกมาสู้ใหม่ จนทุกอย่างผ่านไปหมดแล้ว ทว่าเป็นช่วงที่หดหู่กับคำนั้นมาก แค่บอลแพ้ในบ้านแล้วบอกว่า "ล้มบอล"

"คนที่พูดนี่ทุเรศมากๆ เหมือนกับโยนขี้ให้เรา บางคนบอกว่า ไอ้คนนี้รับงาน ซึ่งมาจากทีมงานคนนั้นแหละ ซึ่งเป็นนัดก่อนที่จะรับมือ สุโขทัย เอฟซี และลงไปพิสูจน์ในสนาม วันนั้นเราชนะ 4-1 เลยพูดว่า "ถ้าพวกกูรับงาน จะชนะ สุโขทัย 4-1 หรือวะ" สปิริตในทีมสร้างมาแทบตาย จะตายเพราะปากคนๆเดียวเท่านั้น"

"ผมเป็นห่วงสโมสรเรื่อง คลับ ไลเซนซิ่ง มากๆ ทั้ง รายรับรายจ่าย, หมอในทีม, นักกายภาพ เป็นเรื่องอนาคตว่าเราจะผ่านไปได้ไหม ผมอยากเห็น อุดรธานี เอฟซี ลงทำการแข่งขันทุกปี โบนัสสุดท้าย เจอกับ เชียงใหม่ เอฟซี ยังไม่ได้เหมือนกัน เขาก็บอกว่าจะให้กับยอดที่ค้างไว้"

"มาถึงเรื่องโควิด-19 ที่คนในทีมติดนั้น ผมได้คุยกับน้องๆอุดรธานี เอฟซี แล้ว ว่ามีต่างชาติ 2 คน อีกคนก็คนนั้นแหละ ผมก็ถามว่าจะได้ตรวจวันไหน แต่น้องๆบอกว่าสโมสรยังไม่แจ้ง ทั้งๆที่น้องๆกังวลก็ได้คำตอบว่า "ไปตรวจเอง หรือ ไปตรวจโรงพยาบาล ออกเงินไปก่อน" ทั้งๆที่เงินเดือนไม่ออก โคตรน่าสงสารเลย หดหู่มากจริงๆ ปลากระป๋องยังไม่รู้ซื้อได้หรือเปล่า"

"เรื่องรถบัสเดินทางเยอะมาก นั่งรถไป ระนอง 20 ชั่วโมง จนมีกระแสเรื่องค้างเงินค่ารถจริงไหม .. จริงครับ ผมได้คุยกับเจ้าของรถเขาก็บอกว่าจริง ปัจจุบันยังได้ไม่ครบ ก็มีทะยอยจ่ายบ้าง น่าเห็นใจพวกเขามาก ที่พวกเขาขับรถเดินทางไปหลาย 10 ชั่วโมง แต่ผมเองไม่รู้ว่าตอนนี้ยอดเท่าไรบ้าง"

"แข่งในบ้านก็ทราบว่ายังไม่จ่ายเงินให้กับคนของ กกท. 2-3 แมตช์ ทุกวันนี้ยังไม่ได้อะไรเลย "เป็นชิ้นเป็นอัน" ส่วนเรื่องทีมมีเดีย 2 คนแรกที่เป็น พี่ชายกับพี่สาวของพวกเรา เขาทำงานดีมากๆ เขาออกไปน่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน น่าจะเป็นปัญหาเหมือนกับนักเตะ ซึ่งวนเข้าวนออกไปตลอด และผมเห็นใจพี่ทั้งสองคนนี้เอามากๆ รวมทั้งคนหลังๆที่มาด้วย"

"ทุกวันนี้ยังเคารพและศรัทธาแฟนบอลเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ตอบไม่ได้ว่าอนาคตจะกลับไป อุดรธานี เอฟซี หรือไม่ ทุกอย่างที่พูดมาผมยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง สาบานได้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน จ.อุดรธานี ผมยังรักทุกคนเหมือนเดิมครับ"