แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2 แอร์เบ ไลป์ซิก : ประเด็นหลังเกม แชมเปี้ยนส์ลีก เรือใบสีฟ้า พลิกเฉือนพร้อมซิวแชมป์กลุ่ม

มานูเอล อาคานจี ร่างดอร์ทมุนด์

มานูเอล อาคานจี แทบไม่ค่อยถูกตินับตั้งแต่เขาย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2022

เขาลงเล่นไป 48 นัดรวมทุกรายการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ส่วนฤดูกาลนี้เขาลงเล่นไปแล้ว 16 นัดก่อนเจอ ไลป์ซิก

อย่างไรก็ตามกองหลังทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์พลาดจนเสียหายซึ่งนำไปสู่ประตูขึ้นนำของ ไลป์ซิก

นาทีที่ 13 ยานิส บลาสวิช นายทวารทีมเยือนวางบอลยาวจากปากประตูหวังให้ โอเพนด้า ชิงเหลี่ยมกับแนวรับเจ้าถิ่น และแนวรุกทีมชาติเบลเยียมก็เอาชนะ อาคานจี ได้ก่อนหลุดไปยิงผ่านมือ สเตฟาน ออร์เตก้า เข้าไป

รูเบน ดิอาส เกือบโดนใบแดง

ประตูที่สองของ ไลป์ซิก แทบจะถอดแบบประตูแรกเลย มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดจาก แมนฯซิตี้ แต่คราวนี้เป็น รูเบน ดิอาส ซึ่งถูกโหวตติดทีมยอดเยี่ยมของแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เขาแสดงให้เห็นถึงจุดอ่อนในการเจอผู้มาเยือนจากเยอรมนี

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนาทีที่ 33 เมื่อ ชาบี้ ซิมอนส์ แทงบอลให้ โอเพนด้า ซึ่งตอนแรกดูเหมือนว่า ดิอาส จะสกัดเอาไว้ แต่เขาก็เสียเหลี่ยมให้กับ โอเพนด้า ซึ่งต่อมาใช้ความเยือกเย็นหลอก ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก่อนยิงผ่าน ออร์์เตก้า อีกครั้ง

ดิอาส ได้ใบเหลืองไปตั้งแต่นาทีที่ 21 ทำให้เขาเล่นยากในช่วงเวลาที่เหลือ และเกือบได้ใบแดงช่วงท้ายครึ่งแรกเมื่อทำฟาวล์ใส่ ซิมอนส์ อย่างไรก็ตามผู้ตัดสิน เกล็นน์ นีเบิร์ก ยังใจดีไม่แจกใบเหลืองที่สอง แต่ผิดกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เปลี่ยนเขาออกในช่วงพักครึ่งแรก แล้วให้ นาธาน อาเก้ ลงไปแทน

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทำประตูอีกครั้ง

หลังจากพลาดโอกาสทองถึง 2 ครั้งในการช่วย แมนฯ ซิตี้ กลับมาสู่เกมในช่วงครึ่งแรก ในที่สุด ฮาแลนด์ ก็ยิงได้ในครึ่งหลัง ฟิล โฟเด้น แทงบอลให้อย่างสวยให้หัวหอกชาวนอร์เวย์เอี้ยวตัวแปชนิดที่ บลาสวิช ได้แค่มอง

ตอนนี้ดาวเตะวัย 23 ปีทำไปแล้ว 8 ประตูจาก 7 นัดหลัง และ 18 ประตูรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ฮาแลนด์ ยังยิงเท่ากับ อัลบาโร่ โมราต้า และ ราสมุส ฮอยลุนด์ เป็นดาวซัลโวของศึกแชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลนี้อีกด้วย โดยยิงไป 5 ประตูจาก 5 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม

ที่น่าสนใจคือ ฮาแลนด์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำได้ 40 ประตูในเวทีแชมป์เปี้ยนส์ลีก ทำลายสถิติของ คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้ จากการลงสนามไปเพียงแค่ 35 เกม

แจ็ค กรีลิช ไม่สามารถคว้าโอกาสของตัวเองได้

หลังจากมีอาการป่วยจนไร้ชื่อในเกมเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กรีลิช ก็กลับมาเป็นตัวจริงให้กับ "เรือใบสีฟ้า" อีกครั้งในเกมที่ไม่กดดันอะไรนักกับ ไลป์ซิก โดยที่ เฌเรมี่ โดกู คู่แข่งแย่งตำแหน่งของเขาอยู่บนม้านั่งสำรอง

กรีลิช ต้องดิ้นรนเค้นฟอร์มเก่งในฤดูกาลนี้ แถมเจออาการบาดเจ็บรบกวนเป็นครั้งคราวอีกด้วย ขณะที่ โดกู สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในช่วงที่แนวรุกชาวอังกฤษไม่อยู่ในสนาม รวมถึงได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกตลอด 3 นัดหลังสุด

อย่างไรก็ตาม กรีลิช ไม่สามารถใช้โอกาสสร้างความประทับใจให้กับ กวาร์ดิโอล่า เมื่ออดีตเพลย์เมคเกอร์ แอสตัน วิลล่า ต้องดิ้นรนสร้างอิมแพ็คให้กับทีมที่กำลังตกเป็นรองในครึ่งแรก และไม่แปลกใจเลยที่เขาจะถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 53 เพื่อหลีกทางให้ โดกู

แมนฯ ซิตี้ ดีขึ้นอย่างมากหลังจากที่ กวาร์ดิโอล่า ส่ง โดกู และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงมา ซึ่งทั้งคู่ก็มีส่วนช่วยให้เจ้าบ้านพลิกเกมเอาชนะ ไลป์ซิก พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง