ลิเวอร์พูล 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้ : ชำแหละ 4 ประเด็นร้อนหลัง หงส์แดง ตีปีกจิก จิ้งจอก ยับ

การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21 
วันแข่งขัน : คือวันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน 2020
เวลาแข่งขัน : 02:15 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 3-0 เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : แอนฟิลด์

1. แข้งเดี้ยงระนาวแต่ไร้ปัญหาสำหรับ หงส์แดง

เจมส์ มิลเนอร์ (แบ็คขวา), โจเอล มาติป (เซ็นเตอร์แบ็ค), ฟาบินโญ (เซ็นเตอร์แบ็ค), เคอร์ติส โจนส์ (กองกลาง) และ ดิโอโก้ โชต้า (กองหน้า) คือบรรดานักเตะที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้แทนที่เหล่าแข้งเดี้ยงระนาวของ หงส์แดง

แม้สาวก เดอะค็อป จะออกอาการหวั่นๆ อยู่บ้างตั้งแต่ก่อนเกมการแข่งขันแต่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็สามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าระบบและรูปแบบการเข้าทำของทีมนั้นสำคัญกว่าเหล่าสตาร์ดัง

2. โชต้า ยิ่งเล่นยิ่งเข้าฝัก

นับวันการเล่นของ ดิโอโก้ โชต้า กับ หงส์แดง ดูจะยิ่งลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหัวหอกทีมชาติ โปรตุเกส โดดเด่นกับการเคลื่อนที่สร้างพื้นที่ว่างให้กับตัวเอง สอดประสานตามเซนส์ของ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน และ ซาดิโอ มาเน ได้อย่างเท่าทัน ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นคนโหม่งพังประตู 2-0 ก่อนจบครึ่งแรก

นอกจากนี้เจ้าตัวยังนับเป็นแข้ง เร้ดแมชีน คนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถซัลโวได้ทุกเกมจากการลงสนาม 4 เกมเหย้าบนลีกสูงสุด

3. ความหวังใน เคอร์ติส โจนส์

ในวันที่ หงส์แดง ไร้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ติอาโก้ อัลคันทารา กุนซือเฮฟวีเมทัลชาว เยอรมัน ตัดสินใจส่ง จินี ไวนัลดุม ไปประจำการเป็นมิดฟิลด์ตัวรับโดยมี เคอร์ติส โจนส์ ประคองเกมคู่กับ นาบี เกอิต้า

โจนส์ ทำหน้าเซ็ตบอลที่กลางสนามอย่างมั่นใจจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าตัวมีอายุเพียง 19 ปีในเวลานี้เท่านั้น

เจ้าหนูชาว อังกฤษ​ จบเกมด้วยสถิติผ่านบอลสำเร็จ 91 เปอร์เซ็นต์และสร้างโอกาสยิงให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ 2 ครั้ง

4. หงส์แดง เกรียงไกรใน แอนฟิลด์

ผลจากชัยชนะในเกมนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไร้พ่ายในเกมเหย้าของ พรีเมียร์ลีก ยาวนานติดต่อกัน 64 นัดเข้าไปแล้ว! นับเป็นสถิติสูงสุดเป็นรองเพียงแค่ 84 นัดของ เชลซี ที่สร้างขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม 2004 ถึงเดือนตุลาตม 2008