ลิเวอร์พูล 2-1 สเปอร์ส : เคอร์ติส โจนส์ โชว์ทีเด็ด-ฟิร์มิโน โขกชัยพา หงส์แดง ทะยานจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน : ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2020
เวลาแข่งขัน : 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 2-1 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
สนาม : แอนฟิลด์
1. รูปแบบที่ชัดเจนของ หงส์แดง และ ไก่เดือยทอง
รูปเกมที่ แอนฟิลด์ ทั้ง 2 ครึ่งเวลาเป็นการดวลกันระหว่างฟุตบอลที่เน้นการครองบอลนวดเข้าใส่ของ หงส์แดง กับเกมรับที่แน่นหนาอดทนรอคอยโอกาสอย่างใจเย็นของ ไก่เดือยทอง
แม้ สเปอร์ส จะเป็นฝ่ายปราชัยในเกมนี้แต่แท็คติกของ โชเซ มูรินโญ เกือบจะได้ผลชนิดอาจคว่ำเจ้าถิ่นได้เมื่อลูกทีมของนายใหญ่ โปรตุกีส สามารถสร้างโอกาสทองในการพลิกขึ้นนำได้ถึง 3 ครั้งในครึ่งหลังแต่กลับพลาดเป้าไปทั้งหมด
หนึ่งในจุดเปลี่ยนของ จ่ามู กลายเป็นการถอด ซน ฮึง-มิน ที่หมดก๊อกออกจากในสนามในนาทีที่ 87 แทนที่โดย เดเล อัลลี ซึ่งดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ ไม่อาจรักษาโมเมนตัมของแดนหน้าที่ ซน ทำไว้ได้ก่อนจะทำให้เจ้าบ้านได้ใจบุกกดเข้าใส่หนักกว่าเดิมในช่วงท้าย
2. ฟิร์มิโน สวมบทฮีโร่
แม้รัศมีของ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน กับ เร้ดแมชีน ในช่วงหลังจะถูกกลบโดย ดิโอโก้ โชต้า ไปบ้างจากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของดาวยิงทีมชาติ โปรตุเกส แต่ในเกมนี้เจ้าตัวยังคงแสดงให้เห็นถึงการเล่นที่มีประโยชน์ต่อเพื่อนร่วมทีมเช่นเคย รวมทั้งยังมีโอกาสสับไกยิงถึง 5 ครั้งก่อนที่จะมาเข้าเป้าในช่วงท้ายเกมจากลูกโขกและกลายเป็นประตูชัยของทีมในที่สุด
3. ซาลาห์ ต้องการเพื่อนร่วมทีมแบ่งเบาภาระ
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เดินลงสนามที่ แอนฟิลด์ ในเกมนี้พร้อมกับสถิติ 10 ประตูบน พรีเมียร์ลีก ก่อนจะจบเกมนี้ด้วยตัวเลข 11 ประตูเมื่อซัดไปแฉลบแนวรับของ สเปอร์ส เป็นประตูเบิกร่อง
ซาลาห์ ยังคงรักษามาตรฐานที่ยอดเยี่ยมไว้ได้เช่นเคย ทุกครั้งที่เจ้าตัวได้บอลจะถูกแดนหลังของ สเปอร์ส ไล่บี้ติดไม่ให้ห่างตัวและความมั่นใจของสตาร์ทีมชาติ อียิปต์ ยังเหลือล้นจนเราสามารถคาดหวังได้ว่าเขาจะสร้างความมหัศจรรย์บางอย่างให้กับทีมได้
แน่นอนว่าลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เอาตัวรอดเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จในเกมนี้ด้วยประตูชัยจากลูกเซ็ตพีซของ ฟิร์มิโน แต่เมื่อกวาดสายตาไปดูอันดับดาวยิงสูงสุดของ เร้ดแมชีน ในซีซันนี้ที่ตามหลัง ซาลาห์ มาเป็น ดิโอโก้ โชต้า (5 ประตู), ซาดิโอ มาเน (4 ประตู) และ ฟิร์มิโน (3 ประตู) ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อาจพึ่งพาประตูมหัศจรรย์แบบนี้ได้ในทุกๆ เกม และเพื่อนร่วมทีมของ ซาลาห์ เองที่จำเป็นต้องยกระดับความเด็ดขาดในการจบสกอร์มากยิ่งขึ้นกว่านี้
4. เคอร์ติส โจนส์ กับฟอร์มระดับ แมนออฟเดอะแมตช์
สถิติของ เคอร์ติส โจนส์ ในเกมกับ สเปอร์ส:
94% ผ่านบอลสำเร็จ (106/113)
2/3 ผ่านบอลยาวสำเร็จ
2 สร้างโอกาสให้เพื่อนสับไก
1/3 โอกาสยิง
4/5 เอาชนะในการดวลลูกกลางอากาศ
4 แย่งบอลสำเร็จ
แทบไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหนู โจนส์ มีอายุเพียง 19 ปีเมื่อเจ้าตัวแสดงความมั่นใจในการเล่นทั้งยามมีบอลและไม่มีบอลให้เห็นอย่างต่อเนื่องทั้งเกมนี้ นอกจากเซนส์ฟุตบอลจะตามทันบรรดารุ่นพี่ทั้งในแดนกลางและแดนหน้าแล้วเขายังกลายเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญในการโจมตีของทีมจากทักษะการพาบอลไปด้วยตนเอง
ทั้งนี้ หนึ่งในจังหวะการลากเลื้อยของเจ้าตัวนำไปสู่ประตูเบิกร่องของ ซาลาห์ ในครึ่งเวลาแรก
5. หงส์แดง ทะยานจ่าฝูง
ผลจากชัยชนะของทัพ เร้ดแมชีน ในเกมนี้ทำให้พวกเขาเขี่ย สเปอร์ส (25 คะแนน ผลต่างประตู +13) ทะยานแซงขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของศึก พรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อย (28 คะแนน ผลต่างประตู +10) ขณะที่คู่แข่งในอันดับหัวตารางอย่าง เซาต์แธมป์ตัน (24 คะแนน ผลต่างประตู +7) และ เลสเตอร์ ซิตี้ (24 คะแนน ผลต่างประตู +7) ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งในเกมกลางสัปดาห์ได้
ขณะที่โปรแกรมนัดถัดไป ไก่เดือยทอง ในอันดับที่ 2 จะเปิดบ้านตัดแต้มกับ จิ้งจอกสีน้ำเงิน โดย หงส์แดง มีคิวเยือน คริสตัล พาเลซ ในสุดสัปดาห์นี้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด