ลิเวอร์พูล 2-0 วัตฟอร์ด: เก็บตก 4 ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง เปิดบ้านคว้า 3 คะแนน

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2022
เวลาแข่งขัน: 18:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล 2-0 วัตฟอร์ด
สนาม: แอนฟิลด์

1. ปู่รอย สู้ได้ดี

เกมนี้หากดูจากสกอร์หลายคนอาจจะคิดว่า ลิเวอร์พูล คงสามารถเอาชนะ วัตฟอร์ด ของ รอย ฮอจ์ดสัน ไปได้แบบสบาย ๆ ตามชื่อชั้นและผลงานที่ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่อันที่จริงตลอด 90 นาทีต้องบอกว่าเป็นเกมที่อึดอัดพอสมควรโดยเฉพาะเกมรุกของ หงส์แดง ในวันนี้แม้ว่าจะหาโอกาสเข้าทำได้อยู่เรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ทำได้แค่เกือบเท่านั้น แถมเกมสวนกลับโดยใช้ความเร็วของผู้เล่นในเกมรุกเกือบจะทำให้ทีมเยือนบุกมานำก่อนได้ถึง 2 ครั้ง แต่โชคดีที่พวกเขาไม่เฉียบขาดมากพอ ซึ่งหากลูกยิงของ ซารร์ หรือ คุชก้า เข้าไป บางที่รูปเกมและผลการแข่งขันอาจจะออกมาอีกแบบหนึ่งเลยก็เป็นได้

2. โกเมซ กับโอกาสที่ต้องรีบคว้า

วันนี้หนึ่งในปัญหาที่แฟน ๆ ลิเวอร์พูล หลายคนกังวลนั่นคือการที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ มีอาการบาดเจ็บจนไม่พร้อมลงสนามอาจส่งผลต่อทีมทั้งในเกมรุกและรับ แต่วันนี้ต้องบอกเลยว่า โจ โกเมซ ที่เพิ่งจะได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในเกมลีกเป็นนัดที่สองกลับทำได้ดีเกินคาด ทั้งในเกมรับที่เดิมทีเจ้าตัวเป็นเซ็นเตอร์อยู่แล้วจึงไม่ใช่ปัญหาในการเข้าปะทะหรือสะกัดบอล แต่เกมรุกถึงแม้จะยังต้องปรับอีกเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าผลงานออกมาน่าประทับใจทั้งเทคนิคความเร็ว รวมถึงความแม่นยำในการเออร์ลีครอสส์ จนเป็นที่มาของประตูออกนำให้ทีมในเกมนี้ ไม่แน่ว่าหาก เทรนต์ ต้องพักยาวกว่านี้และ โกเมซ สามารถรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ ก็มีโอกาสเหมือนกันที่ โกเมซ จะกลับมาเป็นตัวหลักให้กับทีมได้อีกครั้ง

3. ฮัสซาน กามารา แบกเกมรับ วัตฟอร์ด

หลายคนอาจมองว่าสาเหุตที่ทำให้ โม ซาลาห์ แผลงฤทธิ์ไม่ออกในเกมนี้ เป็นเพราะความเหนื่อยล้าและความผิดหวังจากเกมทีมชาติที่ไม่สามารถพา อิยิปต์ เข้าไปลุยศึก ฟุตบอลโลกรอบสุกท้าย ได้ แต่อันที่จริงนั่นอาจเป็นเพียงเหตุผลประกอบเท่านั้นเพราะวันนี้หากจะไม่ชม ฮัสซาน กามารา แบ็คซ้ายวัย 28 ปีที่ถูกมอบหมายให้มาปิดตาย ซาลาห์ เลยก็คงไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเรียกได้ว่ายืนติดเป็นเงาแถมความเร็วและความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับสตาร์ชาว อิยิปต์ เป็นอย่างมากจนแทบไม่มีโอกาสได้จับบอลและมีพื้นที่ให้เล่นโล่ง ๆ เลยก็ว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ ซาลาห์ ถูกเปลี่ยนออกไปก็เป็น มาเน มาทำหน้าทีแทนก็โดนไล่ตามติดจนเล่นไม่ออกไม่ต่างกัน

4. เรือใบสีฟ้า ยังไม่ยอมง่าย ๆ

ดูเหมือนว่า 3 คะแนนในเกมนี้จะยังไม่ดีพอจะส่งให้ หงส์แดง ทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงเสียแล้วเพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองก็ยังไม่ยอมง่าย ๆ หลังจัดการเอาชนะ เบิร์นลีย์ ไปได้หลังเกมนี้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ พลพรรคเรือใบสีฟ้า ทวงตำแหน่งจ่าฝูงกลับมาอีกครั้งด้วยช่องว่าง 1 คะแนนเท่าเดิม นั่นทำให้สุดสัปดาห์หน้าจะเป็นแมทช์ที่สำคัญสุด ๆ สำหรับทั้งสองทีมเพราะเป็นเกมที่ ลิเวอร์พูล มีคิวต้องบุกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม รังเหย้าของ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรง แน่นอนว่าหากมีผลแพ้ชนะฝ่ายที่คว้า 3 คะแนนได้ย่อมมีโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ชูถ้วยแชมป์ลีกหลังจบฤดูกาลก็เป็นได้

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด