ลิเวอร์พูล 3-1 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้: ตัดเกรดนักเตะ, คีย์แมน และ ประเด็นหลังเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4
การแข่งขัน: ฟุตบอลเอฟเอ คัพ 2021/22 รอบที่ 4
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2022
เวลาแข่งขัน: 19:00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล 3-1 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
สนาม: แอนฟิลด์
ลิเวอร์พูล เปิดบ้านอัด คาร์ดิฟฟ์ 3-1 โดยได้ประตูจาก ดิโอโก้ โจต้า นาทีที่ 53 ทาคุมิ มินามิโนะ นาทีที่ 68 และ ฮาวีย์ เอลเลียตต์ นาทีที่ 76 ส่วนทีมเยือนมาตีไข่แตกในนาทีที่ 80 ได้จาก รูบิน คอลวิลล์ และจบเกม หงส์แดง ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ นอริช ซิตี้ ต่อไป
เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรก ต่างฝ่ายต่างพยายามเซ็ตเกมของตัวเองและเป็น ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จากจังหวะซัดจ่อ ๆ ของ โจต้า แต่ ฟิลลิปส์ นายทวารของทีมเยือนยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
หลังจากนั้นเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลบุกเข้าใส่ได้มากกว่าชัดเจน แต่ยังหาจังหวะจบเพิ่มไม่ได้ตลอด 20 นาทีแรก
นาทีที่ 24 ผู้มาเยือนมีลุ้นบ้างจากจังหวะยิงไกลของ แม็คกินเนสส์ แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป
นาทีที่ 34 เจ้าถิ่นต่อบอลเข้าเขตโทษก่อนตบเข้ากลางบอลเลยมาถึง โจนส์ แต่เจ้าตัวกลับยิงเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง
หลังจากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งหลังได้เพียง 2 นาทีมีจังหวะที่ เคลเลเฮอร์ ออกมาสะกัดวืดแต่ไปเฉี่ยวขาผู้เล่น คาร์ดิฟฟ์ โชคดีที่ผู้ตัดสินให้เป็นใบเหลืองเท่านั้น
กระทั่งนาทีที่ 53 หงส์แดง ออกนำได้สำเร็จจากจังหวะฟรีคิก เทรนต์ เปิดเข้าไปให้ โจต้า ขึ้นโขกเน้น ๆ บอลเสียบมุมเข้าประตูไป
3 นาทีต่อมา ฟิร์มิโน มีลุ้นโหม่งบ้างแต่บอลไปเข้ามือของ ฟิลลิปส์
นาทีที่ 60 โจต้า มีลุ้นวอลเล่ลูกเตะมุม แต่บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ ดิอาซ ตัดบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนพยายามจะจ่ายต่อให้ โจต้า แต่บอลเลยมาถึง มินามิโนะ ยิงโล่ง ๆ เข้าไป
นาทีที่ 76 ฮาวีย์ เอลเลียตต์ บวกประตูที่ 3 ให้กับเจ้าถิ่นได้สำเร็จจากจังหวะที่ โรเบิร์ตสัน เปิดเข้ากลางมาให้ดาวรุ่งที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาจับบอลก่อนกลับตัววอลเล่เข้าประตูไปอย่างดงาม
นาทีที่ 80 ทีมเยือนตีไข่แตกเป็น 3-1 จากจังหวะสวนกลับ ไอแซค เดวิส พาบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษและจ่ายต่อใหน รูบิน คอลวิลล์ กดเต็มข้อผ่านมือ เคลเลเฮอร์ เข้าไป
ช่วงท้ายเกม โจต้า มีลุ้นยิงในกรอบเขตโทษ แต่ยังไปติดบล็อคของแผงหลัง คาร์ดิฟฟ์
ก่อนจะจบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ไป 3-1 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ นอริช ซิตี้ ต่อไป
คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล
ตัวจริง: เคลเลเฮอร์ (6), โคนาเต้ (7), ฟาน ไดจ์ค (8), ซิมิคาส (6), อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (7), เฮนเดอร์สัน (7), โจนส์ (6), เกอิต้า (6), มินามิโนะ (7), โจต้า (8), ฟิร์มิโน (6)
ตัวสำรอง: เอลเลียตต์ (8), ดิอาซ (7), มิลเนอร์ (6), โรเบิร์ตสัน (7), ติอาโก้ (6)
คีย์แมน - ดิโอโก้ โจต้า
เป็นอีกนัดที่การขาดหายไปของสองตัวหลักอย่าง ซาดิโอ มาเน และ โม ซาลาห์ ไม่ทำให้แฟน ลิเวอร์พูล ต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขามี ดิโอโก้ โจต้า หัวหอกชาวโปรตุเกสที่ดูเหมือนจะทำหน้าที่แทนได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยการเป็นตัวแบกความหวังในเกมรุกที่วันนี้เล่นได้อย่างโดดเด่นได้น้ำได้เนื้อมากที่สุดในแผงกองหน้าก็ว่าได้ แถมมีส่วนร่วมกับสองประตูที่ลูกแรกเป็นคนโขกสุดสวยเข้าไป และต่อมาในจังหวะจ่ายของ ดิอาซ ที่บอลปลิ้นจาก โจต้า ไปเข้าทาง มินามิโนะ เป็นประตูที่สองให้กับทีมนั่นเอง
ประเด็นหลังเกม
ดิอาซ ประเดิมสนาม พร้อม การคัมแบ็คของ เอลเลียตต์
เกมนี้ไฮไลท์ของ หงส์แดง คงหนีไม่พบการที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตันสินใจส่ง หลุยส์ ดิอาซ แข้งใหม่ป้ายแดงลงสนามมาในช่วงครึ่งหลัง ฟอร์มรวม ๆ ก็จัดว่ามีส่วนร่วมกับเกมอยู่บ้างโดยเฉพาะจังหวะได้ประตูที่สองที่เป็นคนไปแย่งบอลจากสุดเส้นก่อนจ่ายเข้ากลางมาเข้าทาง มินามิโนะ ยิงโล่ง ๆ เข้าไป ส่วนอีกรายคือ ฮาวีย์ เอลเลียตต์ กองกลางดาวรุ่งที่เจ็บยาวไปตั้งแต่ 5 เดือนก่อนและได้กลับมาลงสนามในช่วงนาทีที่ 58 สำหรับรายนี้ต้องบอกว่าโดดเด่นสุด ๆ แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับ เกอิต้า ที่วันนี้เล่นไม่ออกอย่างชัดเจน ทั้งการมีส่วนร่วมกับเกมที่บอลมักจะมาพักที่ เอลเลียตต์ เสมอ ๆ แถมยังสอดขึ้นไปทำประตูแรกในสีเสือ ลิเวอร์พูล ได้อีกด้วย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด