คริสตัล พาเลซ 2-4 แมนซิตี้ : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า บุกคว้า 3 แต้มไล่จี้จ่าฝูง

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่พลาดคว้า 3 คะแนนตามเป้า หลังบุกชนะ คริสตัล พาเลซ 4-2
  • เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกับโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เหมาคนเดียวสองประตู
  • ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังอยู่ในเส้นทางการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนออกไปเยือน เรอัล มาดริด

Crystal Palace v Manchester City - Premier League
Crystal Palace v Manchester City - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24

วันแข่งขัน

วันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567

สนาม

เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค

ผลการแข่งขัน

คริสตัล พาเลซ 2-4 แมนเชสเตอร์ ซิตี้


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่พลาดคว้า 3 คะแนนตามเป้า หลังจากบุกเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 4-2

เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกับโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เหมาคนเดียวสองประตู แม้ว่าเกมนี้เป็นฝ่ายตามหลังก่อน แต่สุดท้ายก็ยังพลิกแซงชนะได้

ชัยชนะนัดนี้ทำให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ก่อนจะออกไปเยือน เรอัล มาดริด ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกลางสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม 4 ประเด็นสำคัญที่เรามองเห็นจากเกมที่ เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค มีดังต่อไปนี้


เกมรับเสียประตูง่าย

John Stones, Eberechi Eze
Crystal Palace v Manchester City - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

เกมรับที่เคยแข็งแกร่งของ แมนฯ ซิตี้ กลายเป็นว่าพวกเขาเสียประตูง่ายเหมือนกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการเจ็บของกองหลังที่สลับกันเดี้ยงนี่แหละ

จอห์น สโตนส์ กับ รูเบน ดิอาส เป็นคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คที่ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" ประสบความสำเร็จในระยะหลัง แต่ด้วยการที่ สโตนส์ เจ็บออด ๆ แอด ๆ ทำให้ทั้งคู่ได้ลงร่วมกันน้อยมาก

ขณะเดียวกัน ดิอาส ฟอร์มตกเล็กน้อยทำให้บางเกมโดนดร็อปเป็นตัวสำรองด้วยซ้ำ กลายเป็นว่า กวาร์ดิโอล่า ต้องคอยหมุนเวียนเซ็นเตอร์แบ็คเป็นว่าเล่น

อย่างไรก็ตามการเสียประตูที่ง่ายมาจากระบบใหม่ของ กวาร์ดิโอล่า ด้วยที่ปรับใช้ยืนหลังสามเมื่อทีมเป็นฝ่ายครองบอล ซึ่งนั่นปล่อยพื้นที่ด้านหลังเยอะพอสมควร และมันคือจุดที่ พาเลซ ใช้โจมตีจนได้ประตูขึ้นนำเร็ว


ฮาแลนด์ ฟอร์มตก

Erling Haaland, Will Hughes
Crystal Palace v Manchester City - Premier League / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังได้พักเกมที่แล้วเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ถล่ม แอสตัน วิลล่า 4-1

อย่างไรก็ดีหัวหอกชาวนอร์เวย์ไม่ได้มีค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมนัก เขาสัมผัสบอลได้น้อยมาก แทบจะไม่มีส่วนกับเกมเลย ครั้นเมื่อได้โอกาสทองลุ้นทำประตูก็ทำไม่ดีพอยิงติดเซฟ ดีน เฮนเดอร์สัน แบบเหลือเชื่อ

แม้ว่าแก้ตัวทำประตูได้สำเร็จ แต่ส่วนหนึ่งต้องชมความยอดเยี่ยมของ เดอ บรอยน์ ด้วยเช่นกันที่เป็นคนแอสซิสต์ให้ยิง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีองค์ประกอบที่ดีช่วยให้ผลงานการทำประตูของ ฮาแลนด์ ดีตามไปด้วย เพราะในซีซั่นที่เขาอาจไม่เปรี้ยงปร้างเท่าซีซั่นก่อน ดาวเตะวัย 23 ปี ทำได้ 19 ประตูในลีกนำเป็นดาวซัลโว


ได้พักนักเตะตัวหลัก

Jack Grealish
Crystal Palace v Manchester City - Premier League / Richard Pelham/GettyImages

หลังทำแฮตทริกใส่ แอสตัน วิลล่า เมื่อกลางสัปดาห์ ฟิล โฟเด้น ถูกคาดการณ์ว่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงอีกครั้ง แต่ทว่าเขาถูกพักเป็นตัวสำรองแทน

อย่างไรก็ตามคนที่ได้ลงตัวจริงแทน โฟเด้น ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นพระเอกของงานเหมา 2 ประตูและอีก 1 แอสซิสต์

ขณะที่ ฮาแลนด์ ซึ่งได้พักจากเกมที่แล้วก็ได้รับโอกาสลงตัวจริงเช่นกัน แม้โดนวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น แต่เมื่อยิงได้ก็สร้างความมั่นใจให้ดาวเตะชาวนอร์เวย์ได้เช่นกัน ก่อนเกมเจอ เรอัล มาดริด

ด้วยการที่ แมนฯ ซิตี้ สามารถคว้าชัยแถมไม่ต้องส่ง โฟเด้น ออกแรงด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลงเล่นช่วงทดเวลาบาดเจ็บ บ่งบอกถึงคุณภาพในขุมกำลังเชิงลึกของพวกเขาเป็นอย่างดี


ออร์เตก้า ยังไว้ใจได้

Stefan Ortega Moreno
Crystal Palace v Manchester City - Premier League / Richard Pelham/GettyImages

ในยามที่ เอแดร์ซอน ได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเฝ้าเสาได้ แม้มีชื่อเป็นตัวสำรอง สเตฟาน ออร์เตก้า จึงถูกส่งลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่อง

นายทวารชาวเยอรมันโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าหมดสิทธิ์เซฟสองประตูที่เสียไป แต่โดยรวมแล้วเขายังทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่ง รวมถึงมีช็อตโชว์เหนือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากการจ่ายคืนหลังของ โรดรี้ ด้วยการหลอก มาเตต้า อย่างเหนือชั้น

เชื่อว่าตั้งแต่เกมหน้าเป็นต้นไปเขาน่าจะต้องกลับไปเป็นตัวสำรองอีกครั้งเมื่อ เอแดร์ซอน ได้ลงตัวจริงซึ่ง แมนฯ ซิตี้ จะออกไปเยือน เรอัล มาดริด กลางสัปดาห์

ออร์เตก้า เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะพิจารณาอนาคตของตัวเองในช่วงซัมเมอร์นี้ ท่ามกลางข่าวลือว่าอาจย้ายกลับไปเยอรมนี ซึ่งก็น่าเสียดายเหมือนกันหากเกิดขึ้นจริง