เชลซี 2-0 สเปอร์ส : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง สิงห์น้ำเงิน ขย้ำไก่จมเขี้ยว 2-0 - FEATURE
• ปีนี้ชนะทั้งเหย้าเยือน แถมสถิติยังฟ้องว่า เชลซี ข่มขาดเพื่อนร่วมกรุงลอนดอนรายนี้
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม 2567
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน : เชลซี 2-0 สเปอร์ส
สิงห์ข่มไก่
เจอกันบ่อยครั้งในหลายซีซั่นหลัง โดยเฉพาะเมื่อสองซีซั่นก่อน ที่จัดกันรัวถึง 4 รอบในซีซั่นเดียว ลีก 2 บอลถ้วย 2
ประเด็นก็คือ, ต่อให้ยังไม่นับรวมเกมนี้, เชลซี ก็รับประทานไก่อย่างเอร็ดอร่อยและขาดลอยอยู่ร่ำไป...ในภาษาสุภาพครับคุณๆ
- 2019/20 : เชลซี ชนะไปกลับ
2020/21 : เสมอ 2 / เชลซี บุกชนะ 1
2021/22 : เชลซี ชนะ 4 เกมรวด ยิง 8 เสีย 0 (พรีเมียร์ลีก 2 ลีกคัพ 2)
2022/23 : เสมอ 1 / สเปอร์ส ชนะ 1
2023/24 : ก็นัดแรก เชลซี กดไป 4-1 นิโคลัส แจ๊คสัน แฮตทริก
สิงห์กับไก่... 12 เกมหลังก่อนวันนี้
เชลซี ชนะ 8 เสมอ 3 และ สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้เฮนัดเดียวถ้วนๆ เท่านั้น
จุดเปลี่ยนคือ 'ได้เร็ว'
หนึ่งคือ เชลซี ข่มอยู่แล้วในเรื่องสถิติการพบกัน
สองคือ เกมนี้ เชลซี ก็เจาะตาข่าย สเปอร์ส เข้าได้อย่างรวดเร็วและพอเหมาะพอเจาะ
อาจพลาดไปอย่างไม่น่าเชื่อในช่วงต้นเกม กับจังหวะทะลุของ นิโคลัส แจ๊คสัน เข้าไปส่องติดเซฟ กูเยลโม่ วิคาริโอ แล้ว มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน เตะสกัดมาชนขา โคล พาลเมอร์ เด้งข้ามคานไปจากระยะจ่อๆ 4-5 หลา
แต่ให้หลังมาถึงนาที 24 สกอร์ก็ขยับขึ้น 1-0 คอเนอร์ กัลลาเกอร์ สาดฟรีคิกเข้าหัว เทรโวห์ ชาโลบาห์ ขวิดจมตาข่าย
นี่คือประตูแรกในรอบกว่า 2 ปีของเซนเตอร์แบ็กวัย 24 ถัดจากที่เคยทำได้ในเกมชนะ นอริช ซิตี้ 3-1 เมื่อ 10 มี.ค. 2022
นอกจากนั้น จุดเปลี่ยนที่ 3 และสำคัญสุดก็คือ นี่คือวันที่ เชลซี เล่นได้ดีมาก และ สเปอร์ส ก็แย่มากในคราวเดียวกัน
เกมนี้ แจ๊คสัน ชอบ
นัดที่แล้ว (6 พ.ย. 2023) ยิงตรงบ้างไม่ตรงบ้าง จับลั่นบ้างจับห่างบ้าง
นิโคลัส แจ๊คสัน ยังอุตส่าห์จะยิงแฮตทริกได้ -- เป็นแฮตทริกแรกหลังย้ายมาจาก บียาร์เรอัล และเป็นแข้ง เชลซี รายแรกของฤดูกาลนี้ที่จัดแจ่มๆ 3 เม็ดในเกมเดียวได้
มาวันนี้ ก็อย่างที่เห็นว่าพลาดโอกาสทองไปตั้งแต่ต้น ซึ่งไม่ช่วยเลยในเรื่องของความมั่นใจ เมื่อทำให้ยังคงเป็นระยะ "ปืนฝืด" ของกองหน้าวัย 22 ที่ถูกสาปส่งจากแฟน เชลซี บางส่วน (จากความพ่ายแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้)
ก่อนถึงเกมนี้ และไม่นับรวมเกมทีมชาติ
แจ๊คสัน ยิงได้แค่ลูกเดียวจาก 8 เกมหลังสุด ซึ่งคือในเกมถล่ม เอฟเวอร์ตัน 6-0
จากการเก็บสถิติของ ESPN พบว่า 8 เกมนั่น (พรีเมียร์ลีก 6 เอฟเอ คัพ 2) แจ๊คสัน ได้โอกาสจบทั้งหมด 17 ครั้ง ตรงกรอบ 8 แลกมาได้แค่ 1 ประตูถ้วน
อย่างไรก็ตาม ถึงนาที 72 ของเกมนี้ จังหวะที่ โคล พาลเมอร์ กดฟรีคิกไปกระแทกคานแล้วเด้งพื้นขึ้นสูง ก็เสร็จ แจ๊คสัน ที่โหม่งซ้ำเข้าไปโดยที่แนวรับ สเปอร์ส ตามปิดไม่ทัน
สองนัดของการตีไก่เดือยทอง แจ๊คสัน กด 4 ประตู
และนี่คือลูกที่ 14 ของการลงสนาม 40 นัด ในปีแรกของการย้ายขึ้นฝั่ง สแตมฟอร์ด บริดจ์
14 ลูก และอาจมีเพิ่มอีกใน 4 เกมสุดท้าย
32 ล้านปอนด์ที่จ่ายไป ตกลงคุ้มหรือไม่คุ้ม???
ช่วงแย่ๆ ของ พาลเมอร์
แม้ฟอร์มภาพรวมจะไม่ได้แย่ ยังคงเป็นตัวอันตราย สามารถสร้างโอกาสได้เอง และประตู 2-0 ที่ได้มา เครดิตส่วนหนึ่งก็ต้องเป็นของเขา
แต่ข้อเท็จจริงคือ โคล พาลเมอร์ ไม่มีทั้งสกอร์และแอสซิสต์มา 3 นัดติดแล้ว -- แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1, เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2 และเกมวันนี้
ที่น่าแปลกใจคือ ความฟุบเล็กๆ เหล่านี้ เกิดขึ้นตามหลังจากเกมที่ พาลเมอร์ กระหน่ำคนเดียว 4 ประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน ในชัยชนะ 6-0 เมื่อกลางเดือนก่อน
แต่ก็เอาเถอะ ต่อให้จะไม่ทำอะไรเพิ่มเติมอีกจนกว่าจะจบซีซั่น (เหลืออีก 4 นัด) ซีซั่นนี้ก็ "เลอเลิศ" มากแล้วสำหรับเจ้าหนูวัย 21
41 นัด 23 ประตู 13 แอสซิสต์
รางวัลแข้งดาวรุ่งแห่งปี พีเอฟเอ ถ้าไม่ได้ ปิดเว็บ!
(หยอกกกกกกกกกก)
ที่นี่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
- นี่คือ เชลซี นอกบ้าน (6 เกมหลัง)
เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2
เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เอฟเอ คัพ)
แพ้ อาร์เซน่อล 0-5
เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2
- ส่วนนี่คือ เชลซี ในบ้าน (7 เกมหลัง)
ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2 (เอฟเอ คัพ)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 (เอฟเอ คัพ)
เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-0
ชนะ สเปอร์ส 2-0
ชัดเจนพอแล้วไหมที่จะสรุปว่า เชลซี 2023/24
ออกนอกบ้านไม่ได้ มันร้อน!
ไก่จ๋า...ต้องปรับอีกเยอะ
ชัยชนะของ เชลซี ถือเป็นการรักษาความหวังในการตีตั๋วยุโรปถ้วยเล็กสุด ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เมื่อทำให้ตามหลังอันดับ 6 แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่แค่ 3 แต้ม (54:51)
ส่วนสำหรับ สเปอร์ส แทบจะเลิกพูดสำหรับโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใบสุดท้าย และน่าจะต้องสู้แค่เพื่อกุมตั๋ว ยูโรป้า ลีก เอาไว้ให้อยู่มือ เท่านั้น
นั่นเพราะแม้จะแข่งน้อยกว่า 1 เกม แต่ สเปอร์ส ตามหลังอันดับ 4 แอสตัน วิลล่า ไกลถึง 7 แต้ม (60:67)
และประเด็นสำคัญกว่าก็คือ น้องไก่ของ อันเก้ ปอสเตโคกลู แพ้มาถึง 3 เกมซ้อนเข้าไปแล้ว
- แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-4
แพ้ อาร์เซน่อล 2-3
แพ้ เชลซี 0-2
แล้ว 2 จาก 4 เกมที่ยังเหลือ จะเจอ ลิเวอร์พูล (5 พ.ค.) และ แมนฯ ซิตี้ (14 พ.ค.)
เอาเป็นว่า หอบใจเล็กๆ ดวงนี้ไปสู้ใน ยูโรป้า ลีก ซีซั่นหน้าก็พอ
สเปอร์ส ยังไม่พร้อมสำหรับ แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ปอสเตโคกลู ต้องใช้เวลาปรับทีมเพิ่มเติมอีก ทั้งหลัง กลาง หน้า เพื่อให้ได้ลุ้นความสำเร็จจริงจัง เป็นลำดับถัดไป