เชลซี 2-0 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์: เก็บตกทุกประเด็นร้อนหลังเกม คาราบาว คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้ายเลกแรก
การแข่งขัน: ฟุตบอลคาราบาว คัพ 2021/22
รอบรองชนะเลิศวันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 5 มกราคม 2022
เวลาแข่งขัน: 02:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: เชลซี 2-0 ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 2-0 โดยได้ประตูจาก ไค ฮาเวิร์ตซ์ นาทีที่ 6 และ เบน เดวิส ทำเข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 34 ทำให้จบ 90 นาที สิงห์บลู เปิดบ้านเอาชนะ ไก่เดือยทอง ไปก่อนเกมแรก
เริ่มครึ่งเวลาแรกไปได้เพียง 6 นาทีเป็น เชลซี ออกนำเร็วจากจังหวะที่ สเปอร์ส ขึ้นเกมพลาดและเป็น ไค ฮาเวิร์ตซ์ ได้หลุดเข้าไปยิงจ่อ ๆ ไม่พลาด
นาทีที่ 11 ฮาเวิร์ตซ์ ได้ส้มหล่นในกรอบเขตโทษ แต่รอบนี้ยังยิงไปติดเซฟของ ยอริส
นาทีที่ 17 ซิเยค มีลุ้นปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบ เตะบอลยังหลุดเสาออกไป
หลังจากนั้นเป็นเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ ส่วนทีมเยือนรอตั้งรับและรอโอกาสในการสวนกลับ
นาทีที่ 34 สิงห์บลู มาได้ประตูที่สองจากจังหวะฟรีคิก ซิเยค เปิดเข้ามาลุ้น ทันกันก้า พยายามจะโขกสะกัดแต่บอลไปโดน เดวิส เข้าประตูตัวเองไป
นาทีที่ 40 ลูกากู ได้ขึ้นโขกโล่ง ๆ บอลพุ่งเฉียดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ทำให้จบ 45 นาทีแรก เชลซี ออกนำ 2-0
เริ่มครึ่งเวลาหลัง สเปอร์ส เปิดเกมบุกเข้าใส่มากขึ้นและมีลุ้นก่อนจากจังหวะฟรีคิกของ เคน แต่ยังไปติดเซฟของ เคปา
นาทีที่ 52 ซิเยค ได้ลุ้นจบโล่ง ๆ แต่ยังไปตรงตัวของ ยอริส เช่นกัน
นาทีที่ 60 แวร์เนอร์ ได้โอกาสล็อคตัดเข้ากลางก่อนปั่นด้วยขวาบอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 65 ซิเยค วางบอลทะลุช่องให้ แวร์เนอร์ หลุดเดี่ยวแต่งัดบอลไม่ข้าม ยอริส ที่ยกแขนขึ้นมาปัดได้ทัน
นาทีที่ 76 ซิเยค ได้วอลเล่ในกรอบเขตโทษ แต่บอลเกินข้ามคานออกไป
นาทีที่ 87 สเปอร์ส มีลุ้นจบบ้างจากจงัหวะที่ กิล ลากเข้าเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้ โล เซลโซ ยิงจ่อ ๆ ไปติดเซฟของ เคปา อีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือยิงประตูกันเเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบเกม เชลซี เอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ส ไป 2-0
คะแนนนักเตะทั้งสองทีม
เชลซี
11 ผู้เล่นตัวจริง: เคปา (7), รือดิเกอร์ (7), ซารร์ (6.5), อัซปิลิกวยต้า (7), อลอนโซ (7), จอร์จินโญ (7), ซาอูล (7), เมานท์ (7), ซิเยค (7), ฮาเวิร์ตซ์ (7), ลูกากู (7)
ตัวสำรอง: แวร์เนอร์ (6), โควาชิช (6), ลอฟตัส ชีค (6), พูลิซิช (6), เวล (N/A)
สเปอร์ส
11 ผู้เล่นตัวจริง: ยอริส (7), ทันกันก้า (5), ซานเชซ (6), เดวิส (5), เอเมอร์ซอน (6), โดเฮอร์ตี้ (5), สกิปป์ (6.5), ฮอจเบิร์ก (6.5), มูรา (6), ซน (5), เคน (5)
ตัวสำรอง: เอ็นดอมเบเล (6), วิงค์ส (5.5), โล เซลโซ (5.5), กิล (6)
คีย์แมนด์ - ซาอูล
แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมากองกลางจาก แอตเลติโก้ มาดริด รายนี้จะถูกโจมตีในเรื่องฟอร์มการเล่นอยู่บ่อย ๆ แต่สำหรับในเกมนี้ต้องบอกว่าเจ้าตัวเป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยความขยันไล่บอล รวมถึงการอ่านจังหวะเกมได้อย่างแม่นยำ จนมีส่วนสำคัญทำให้ เชลซี สามารถคุมเกมในแดนกลางเอาไว้ได้อย่างอยู่หมัดโดยเฉพาะครึ่งแรกที่ สเปอร์ส ไม่สามารถตั้งเกมจนหาจังหวะจบได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ประเด็นหลังเกม
ทูเคิล ทำการบ้านมาดี
การกลับมายัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในครั้งนี้ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ในฐานะคู่แข่งดูเหมือนว่าผลงานจะตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดแทบจะในทุกด้าน ส่วนหนึ่งก็ต้องชม โธมัส ทูเคิล ที่วางแผนจัดทีมมาในแบบแปลกตาโดยวางตำแหน่งการยืนในระบบ 4-2-3-1 ตั้งแต่เริ่มเกมซึ่งต่างจากเติมที่เล่นหลัง 3 วิงแบ็คมาโดยตลอดแบบเดียวกับที่ สเปอร์ส ของ คอนเต้ ใช้ในเกมวันนี้ แต่มันกลับได้ผลดีเดินคาดชนิดที่ 45 นาทีแรก ไก่เดือยทอง เล่นไม่มีทรง เกมบุกก็ไปไม่เป็น เกมรับก็รวนไปหมด นั่นก็เป็นเพราะ ทูเคิล ตัดสินใจอัดแดนกลางมาถึง 5 คนเพื่อไล่บีบพื้นที่ ในขณะที่ทีมเยือนมีกลางอยู่แค่ 2 ทำให้เกมตรงกลางตกเป็นของเจ้าบ้านทั้งหมด แถมวันนี้ฟอร์มการแกะเพลสซิ่งของ เชลซี ก็ทำได้ดีจน สเปอร์ส หาบอลไม่เจออยู่พักใหญ่ และพลาดกันเองจนเสียถึง 2 ประตูและเป็นที่มาของชัยชนะในเลกแรกสำหรับ สิงโตน้ำเงินคราม ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้ายในปีนี้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด