อาร์เซนอล 1-0 ปอร์โต้ : ประเด็นหลังเกมดวลจุดโทษตัดสิน ปืนใหญ่ เข้ารอบ 8 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

• อาร์เซนอล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกนับจากปี 2010

• นี่คือการเข้ารอบน็อคเอ้าท์แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการชนะด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน นับจากปี 2008-2009

• การจับสลากจับคู่แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 มีนาคม 2024

Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24
Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการแข่งขัน : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-2024
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่12 มีนาคม 2024
สนามแข่งขัน : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 1-0 เอฟซี ปอร์โต้
รวมผลสองนัดเสมอ 1-1 อาร์เซนอล เอาชนะการด้วยจุดโทษชี้ขาด 4-2


อาร์เซนอล การันตีการเป็น 8 ทีมสุดท้ายในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมใจอยากหลังจากต้องลงเล่น 120 นาทีเต็ม แต่ก็ไม่สามารถหาชัยชนะได้ จนต้องมาดวลจุดโทษตัดสินการเข้ารอบก่อนที่จะคว้าชัยชนะสำคัญครั้งนี้ได้สำเร็จ

อาร์เซนอล ได้ประตูโทนในเกมนี้ตั้งแต่ครี่งแรกจาก เลอันโดร ทรอตซาร์ ก่อนที่ครึ่งหลังจะบุกมากกว่าแต่ไม่สามารถยิงประตูเพิ่มได้ จนต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ก็ยังไม่สามารถเอาชัยได้ ส่งให้พวกเขาต้องดวลจุดโทษตัดสิน ก่อนที่จะเอาชนะไปได้ 4-2 โดย ดาบิด ราย่า เซฟได้ถึงสองครั้งในช่วงดวลจุดโทษ พาทีมเข้ารอบต่อไป

45 นาทีแรกแห่งความสูสี กับหนึ่งประตูความหวัง

อาร์เซนอล พ่ายมาก่อนในเกมแรกในแบบที่เสียประตูกันในนาทีสุดท้ายของเกม มาเกมนี้พวกเขาต้องการประตูเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการเข้ารอบต่อไป ซึ่งพวกเขาก็เริ่มได้ดี เกมรุกเดินเข้าหา บรรยากาศยอดเยี่ยมมากในสนามวันนี้  แต่ปอร์โต้ ไม่ได้ถูกบรรยากาศกดดันมากนัก พวกเขาเล่นไปตามจังหวะเกม “อาร์เซนอลบุกพวกเขาเล่นตั้งรับ ตั้งรับแล้วรอสวนกลับ” แต่ที่มันต่างจากเกมอื่น ๆ ที่เห็นอาร์เซนอล เดินหน้าฆ่ามันคือการเก็บบอลจังหวะสอง ปอร์โต้ ไม่ให้อาร์เซนอลทำแบบนั้นเลย เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ บุกเข้ามาได้แต่ขึงเกมไม่ได้

อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มาได้ประตูสำคัญในช่วงปลายครึ่งแรกจากทรอตซาร์ ที่ทำให้ความหวังในการเข้ารอบมากขึ้นทันที จากจังหวะแทงทะลุช่องของ เออเดการ์ด ถึง ทรอตซาร์ ยิงเข้าไป

Leandro Trossard
Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages

ครึ่งหลังที่ขึงเกม และ “จุดเปลี่ยน”

อาร์เซนอล กลับมาครึ่งหลังทำได้ดีกว่าในเรื่องของการเดินเกมรุก พวกเขาสามารถดึงโมเมนตัมมาเป็นของตัวเองได้ตั้งแต่เริ่มไปประมาณ 15 นาที ทีมสามารถขึงเกมรุกได้ เก็บบอลสองที่ไม่เกิดขึ้นใน 45 นาทีแรกได้มากขึ้น บังคับให้ ปอร์โต้ ถอยร่นเข้าเข้าไปในแดนตัวเองเพื่อเล่นเกมรับ ทุกอย่างเข้าทาง อาร์เซนอลมากในช่วง 20 นาทีแรกของครึ่งหลัง

“จุดเปลี่ยน” สำคัญของเกมนี้คือการเกิด “Personal Error” ของปอร์โต้ ในจังหวะที่ ดิเอโก้ คอสต้า และ เปเป้ ไม่เข้าใจกันและกลายเป็น ไค ฮาแวตซ์ ที่วิ่งบีบเข้าไปไล่บอลจนทำให้เกิดโอกาส และบอลทะลักมาถึง เออเดการ์ด ยิงเข้าไป จังหวะนี้ถูกตัดสินให้ไม่เป็นประตู เนื่องจากกรรมการมองว่า ฮาแวตซ์ วิ่งมาชนกับ นายทวาร ก่อนเกิดประตู นี่คือดุลยพินิจของกรรมการที่ออกมาในจังหวะนี้ และหลังจากนั้น อาร์เซนอลพยายามเร่งให้มากขึ้น และมีโอกาส 2-3 ครั้ง แต่ก็ดีไม่พอจะเป็นประตู จนกระทั่งจบ 90 นาที

ความเคี่ยวของปอร์โต้

ปอร์โต้ แม้จะตกรอบ แต่พวกเขาสามารถเดินไปรับเสียงปรบมือจากแฟนบอลของพวกเขาได้อย่างเต็มภาคภูมิ นี่คือเกมที่พวกเขาเล่นได้ดี และหากมองทั้งสองเกมที่ออกมา พวกเขาก็สามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้ เกมรับเหนียวแน่น เกมรุกคล่องตัว สภาพร่างกายฟิต วินัยดี ประเมินได้จากรูปเกมที่พวกเขาสามารถทำให้อาร์เซนอล หาจังหวะที่ถนัดไม่เจอ ตลอด 120 นาที อาจมีเพียงช่วงนาทีที่ 60-80 ของเกมเลกที่สองเท่านั้น ที่อาร์เซนอล มีโอกาสเล่นเป็นเกมของตัวเอง ที่เหลือคือเกมสูสีกันมาก ยิ่งในช่วงต่อเวลาพิเศษที่ร่างกายล้าด้วยกันทั้งสองทีมยิ่งชัดเจนว่า แท็คติกของปอร์โต้วันนี้ได้ผล การดวลจุดโทษตัดสิน เป็นเพียงการหาผู้ชนะเข้ารอบต่อไปเท่านั้น แต่หากพูดถึงทั้งสองเกมที่ลงเล่นในรอบนี้ ถือว่าสูสีกันอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชมนักเตะอาร์เซนอลที่พยายามอย่างหนัก และทำประตูแรกของเกมนี้ที่ทำให้พวกเขาคิดถึงการเข้ารอบต่อไปได้ทันที แม้จะไม่เกิดขึ้น แต่ก็น่าพอใจที่สุดท้ายพวกเขาจบลงด้วยการเข้ารอบ อย่าลืมว่านี่คือ “ครั้งแรก” ของสโมสรนี้ที่เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบ 6 ปี ขณะที่นักเตะหลายคน ฤดูกาลนี้คือครั้งแรกของพวกเขาในการเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก การเข้าถึงรอบ 8 ทีม คือความสำเร็จครั้งสำคัญของทีม

Goncalo Borges, Jakub Kiwior
Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages

การตัดสินของกรรมการ และ ไค ฮาแวตซ์

ผู้ตัดสินชาวฝรั่งเศส เกลมองต์ เทอร์ปิน นอกเหนือจากใบหน้าที่คล้ายคลึงกับ เลอันโดร ทรอตซาร์ จนโดนแฟนบอลเอาไปแซวกันในโลกออนไลน์ การตัดสินของเขาในวันนี้ก็มีส่วนมากพอสมควร ที่ทำให้รูปเกมออกมาค่อนข้างมีการปะทะกันหนัก ตลอด 120 นาที หลังเกมมีข้อมูลระบุว่ามีการได้ฟาลว์รวมกัน 38 ครั้ง แบ่งเป็น อาร์เซนอล 18 ครั้ง และ ปอร์โต้ 20 ครั้ง เรียกได้ว่าจำนวนฟาลว์รวมกันมากกว่าจังหวะลุ้นประตูของทั้งสองทีมด้วยซ้ำ (รวมกัน 23 ครั้ง) ไม่รวมถึงจังหวะปล่อยเกมอีกหลายครั้ง ทำให้เกมหนักขึ้นอย่างที่ไม่ควรจะเป็น บรรยากาศที่เดิมพันด้วยการเข้ารอบ เสียงเชียร์ และเกมที่สูสีมากเช่นนี้ การตัดสินที่ออกมาในความรู้สึก “ไม่เห็นด้วย” จากทั้งสองฝั่งในหลายครั้งที่เกิดการปะทะ ทำให้เกิดบรรยากาศระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว

ไค ฮาแวตซ์ เป็นหนึ่งในโฟกัสของเรื่องนี้ทันที หลังจากมีจังหวะที่เข้าไปมีเรื่องกับ แซร์โจ้ คอนไซเซา ที่มีการกรูเข้าหากัน ตัวรุกทีมชาติเยอรมัน ไม่ใช่นักเตะที่ใจเย็นอะไรมากนัก หลายครั้งในฤดูกาลนี้ เขามักจะอยู่ในใจกลางพายุอารมณ์ในเกม หรือไม่บางทีก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว สถิติชี้ชัดเขาคือคนที่ได้ใบเหลืองมากที่สุดในทีม กับจำนวน 10 ใบในทุกรายการที่ลงเล่น

ยิ่งเขาสำคัญมากเท่าไร การขาดหายไปของเขายิ่งสร้างผลกระทบมากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นเรื่องที่อาร์เซนอล ต้องพึงระวังให้ดี

Kai Havertz, Nico Gonzalez
Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Shaun Botterill/GettyImages

การเข้ารอบด้วยการ “ดวลจุดโทษ”

อาร์เซนอล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกนับจากปี 2010 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตามการเอาชนะคู่แข่งในการดวลจุดโทษตัดสิน นับเป็นครั้งที่สองของอาร์เซนอลที่เกิดขึ้น โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในฤดูกาล 2008-2009 โดยปีนั้นพวกเขาเสมอกับ อาแอส โรม่า รวมผลสองเกม 1-1 ก่อนจะดวลจุดโทษตัดสินเอาชนะไป 7-6 ปีนั้น อาร์เซนอล เข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการนี้

David Raya
Arsenal FC v FC Porto: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages