ลิเวอร์พูล (11) 0-0 (10) เชลซี: ประเด็นหลังเกมนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ หงส์แดง เฉือนจุดโทษ สิงห์บลู
การแข่งขัน: ฟุตบอล คาราบาว คัพ 2021/22 รอบชิงชนะเลิศ
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2022
เวลาแข่งขัน: 23:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล (11) 0-0 (10) เชลซี
สนาม: เวมบลีย์
ประเด็นหลังเกม
หงส์แดง เจ้าแห่ง ลีกคัพ !
ชัยชนะในวันนี้ส่งให้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติเป็นแชมป์รายการ ลีกคัพ หรือ อีเอฟแอล คัพ หรือชื่อในปัจจุบันคือ คาราบาว คัพ มากสุดในประวัติศาสตร์ที่ 9 สมัยแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ก่อนหน้านี้ครองสถิติร่วมกันที่ 8 สมัย โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีพอดีหลังจาก หงส์แดง ทำได้ครั้งล่าสุดในปี 2012 ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ เคนนี ดัลกริช
ลิเวอร์พูล ตั้งเกมไม่ติดช่วงต้น
กว่าจะตั้งเกมได้ต้องรอผ่านราว 15 นาทีแรกมาแล้ว ถูกขโยกจากเกมที่ริมเส้นของ เชลซี ในช่วงต้นจนจวนเจียนจะเสียประตูโดยเฉพาะโอกาสของ คริสเตียน พูลิซิช ที่ได้แท็ปอินระยะเผาขนไปติดเซฟของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ เกมของ หงส์แดง มีปัญหาเมื่อถูก มาร์กอส อลอนโซ กับ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เคลื่อนที่โอเวอร์โหลดเกมที่ริมเส้นกระทั่งต้องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ หลุยส์ ดิอาซ ตามติดวิงแบ็คทั้ง 2 เคลื่อนที่ช่วยเกมรับเพื่อให้เกมของพวกเขากลับมาอีกครั้ง
ความเขี้ยวลากดินในเกมนัดชิง
เกมรุกของลูกทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติที่พวกเขาเคยทำได้เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เจอกับงานยากในการดวลทั้งกับ อลอนโซ และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ มีเพียง หลุยส์ ดิอาซ ที่สร้างความพะว้าพะวงให้กับแนวรับของ สิงห์บลู ที่อีกฝั่ง
โอกาสที่ดีที่สุดของ หงส์แดง หลายครั้งมาจากลูกเซ็ตพีซและไม่อาจเอาชนะความยอดเยี่ยมของ เอดูอาร์ด เมนดี้ ได้ ขณะที่การส่งบอลสู่ก้นตาข่ายของ โจเอล มาติป ถูกจับให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
ตัวสำรองของ คล็อปป์ (แทบ) ไม่สร้างความแตกต่าง
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เจมส์ มิลเนอร์ และ ดิโอโก้ โชต้า ถูกส่งลงสนามพร้อมกันในนาทีที่ 80 แทนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า และ ซาดิโอ มาเน
ขณะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ ดิว็อค โอริกี ลงสนามแทน โจเอล มาติป และ หลุยส์ ดิอาซ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
มีเพียง โกนาเต้ เท่านั้นที่โดดเด่นเมื่อต้องรับมือกับความแข็งแกร่งของ โรเมลู ลูกากู ทว่าสำรองรายที่เหลือของ คล็อปป์ แทบไม่สามารถสร้างความแตกต่างใดๆ ให้กับทีมได้เลย
เมนดี้ ออก เคปา เข้า !
เกมนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านักเตะคนหนึ่งที่ผลงานโดดเด่นที่สุดในสนามนั่นคือ เอดูอาร์ด เมนดี้ ที่วันนี้โชว์เซฟมหัศจรรย์ช่วยทีมไว้ได้หลายต่อหลายครั้งตลอด 120 นาที แต่ประเด็นมันอยู่ที่การเปลี่ยนเอาอาวุธลับอย่าง เคปา อาร์ริซาบาลาก้า ลงสนามมาแทนเพื่อการดวลจุดโทษแต่ผลกลับไม่เป็นไปตามคาด เพราตลอด 11 ครั้งที่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายยิงนั้นเข้าทั้งหมด แถมเจ้าตัวยังเป็นคนยิงพลาดทำให้ทีมแพ้ไป จนมีคำถามขึ้นมาว่าหากให้ เมนดี้ ที่เครื่องกำลังร้อนทำหน้าที่ต่อไป บางทีผลการแข่งขันอาจจะไม่ออกมาเป็นเช่นนี้ก็เป็นได้
โอกาสใน 120 นาทีของ เชลซี
อันที่จริงต้องบอกว่าการแพ้จุดโทษในเกมนี้ของ เชลซี ไม่น่าเสียดายเท่ากับการปล่อยโอกาสทองในช่วง 120 นาทีที่พวกเขาทำได้หลายต่อหลายครั้งแต่กลับปล่อยให้หลุดมือไป ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่ลูกยิงจ่อ ๆ ของ พูลิซิช ต่อด้วยจังหวะยิงโล่ง ๆ ของ เมานท์ 2 ครั้งที่ยิงออกไปเองกับยิงไปชนเสา จังหวะยิงของ ลูกากู ที่ไปติดเซฟ เคลเลเฮอร์ อีกทั้งโอกาสอีกหลายครั้งที่พวกเขายิงเข้าไปได้แต่ต้องดีใจเก้อเพราะถูกจับล้ำหน้า หากพวกเขาสามารถเปลี่ยนสักโอกาสให้เป็นประตูได้เกมอาจจะจบไปตั้งแต่ 90 นาทีแล้ว
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด