โปแลนด์ 1-1 อังกฤษ: ตัดเกรดแข้ง สิงโตคำราม และสรุปทุกประเด็นหลังศึกคัดบอลโลก
โดย โตมร นวลประเสริฐ
การแข่งขัน: ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 9 กันยายน 2021
เวลาแข่งขัน: 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: โปแลนด์ 1-1 อังกฤษ
สนาม: สตาดิโอ นาโรโดวี
ทีมชาติอังกฤษ ชวดชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเมื่อถูก ดาเมียน ซิมันสกี้ โหม่งพังประตูตีเสมอนาทีที่ 90+2 หลังจาก แฮร์รี เคน ตะบันไกลสุดสวยเป็นประตูขึ้นนำให้กับทัพ สิงโตคำราม นาทีที่ 72
เกมตลอด 70 นาทีแรกเป็นไปอย่างอึดอัดเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายต่างรักษาท่าที ไม่เปิดเกมรุกอย่างถนัดถนี่นักแม้ว่าการครอบครองบอลโดยส่วนใหญ่จะตกเป็นของลูกทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต
กระทั่งแนวรับของเจ้าถิ่นเสียสมาธิในนาทีที่ 72 ให้ แฮร์รี เคน ที่รับบอลได้บริเวณหน้ากรอบเขตโทษมีพื้นที่และเวลาได้ตะบันไกลเต็มเหนี่ยว บอลลอยส่ายพุ่งหนีมือ วอยเซียค เซสนี เข้าไปซุกที่ก้นตาข่ายเป็นประตูขึ้นนำ 1-0
เกมทำท่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ อังกฤษ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จังหวะที่แนวรับของพวกเขาเคลียร์บอลกันไม่ขาด โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เก็บตกได้ที่สุดเส้นหลังก่อนครอสให้ ซิมันสกี้ พังประตูแรกในนามทีมชาติ และเป็นประตูที่ทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ 1-1
ผลจากการแข่งขันในเกมนี้ทำให้ อังกฤษ ยังคงรั้งอันดับที่ 1 บนตารางคะแนนกลุ่มไอ มี 16 แต้มหลังผ่าน 6 นัด
รายชื่อผู้เล่นของทั้ง 2 ทีม
โปแลนด์: เซสนีย์; ดาวิโดวิคซ์, กลิค (เฮลิค 80'), เบดนาเร็ค, พูคัตซ์ (ริบัส 80'); โจเซวียค (ฟรานคอฟสกี้ 80'), คริโชเวียค (ซิมานสกี้ 68'), โมเดอร์; บูคซา (สวิเดอร์สกี้ 63'), เลวานดอฟสกี้
สำรองที่ไม่ได้ใช้งาน: ดรากอฟสกี้, คามินสกี้, เคดซิโอรา, เพียตคอฟสกี้, สโครัปสกี้, สลิซ, ซเลวสกี้
อังกฤษ: พิคฟอร์ด; วอล์คเกอร์, สโตนส์, แม็คไกวร์, ชอว์; ฟิลลิปส์, ไรซ์; สเตอร์ลิง, เมาท์, กรีลิช; เคน
สำรองที่ไม่ได้ใช้งาน: อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แบมฟอร์ด, เบลลิงแฮม, โคอาดี้, เฮนเดอร์สัน, เจมส์, จอห์นสตัน, ลินการ์ด, โป๊บ, ซาก้า, ทริปเปียร์
คะแนนนักเตะทีมชาติอังกฤษ
11 ผู้เล่นตัวจริง: พิคฟอร์ด (6); วอล์คเกอร์ (6), สโตนส์ (6), แม็คไกวร์ (6), ชอว์ (6); ฟิลลิปส์ (6), ไรซ์ (6); สเตอร์ลิง (5), เมาท์ (4), กรีลิช (6); เคน (7)
ตัวสำรอง: -
คีย์แมนทีมชาติอังกฤษ - แฮร์รี เคน
นับเป็นเกมที่ 3 ต่อจาก ฮังการี (4-0) กับ อันดอร์รา (4-0) ที่ แฮร์รี เคน พังประตูให้กับทีมชาติ อังกฤษ ติดต่อกันในโปรแกรมทีมชาติเดือนกันยายน
หัวหอกจากค่าย ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ยังคงทำหน้าที่เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันตัวสำคัญให้กับทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เช่นเคย แม้ตลอดทั้ง 70 นาทีก่อนที่จะตะบันไกลสุดสวยเป็นประตูให้ทัพ สิงโตคำราม เจ้าตัวจะมีส่วนร่วมกับเกมอย่างต่อเนื่องทว่าบอลเปิดป้อนจากเพื่อนร่วมทีมไม่สามารถสร้างโอกาสอย่างถนัดถนี่ให้กับเขาได้นัก
ส่วนประตูโทนในเกมนี้ต้องยกเครดิตทั้งหมดให้กับเจ้าตัวเมื่อรับบอลจากบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ฉวยโอกาสที่แนวรับของ โปแลนด์ ถอยห่างตะบันไกลเต็มเหนี่ยว บอลพุ่งแรงก่อนเลี้ยวหนีมือ วอยเซียค เซสนีย์ ไปซุกที่ก้นตาข่าย
ประเด็นหลังเกม
นับเป็นเกมที่จืดชือไม่น้อยเมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต มุ่งมั่นให้ลูกทีมเล่นแบบปลอดภัยไว้ก่อนตั้งแต่ต้นจบ (เกือบ) จบเกมที่ วอร์ซอ แม้จะเดินหน้าด้วยรูปแบบ 4-2-3-1 แต่เป็นการเล่นที่ประคองตัว แบ็คขวาอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ แทบไม่มีส่วนกับเกมรุก มีเพียง ลุค ชอว์ ที่อีกฝั่งเท่านั้นที่คอยทะยานเติมเกมอย่างต่อเนื่อง
คู่กลาง ดีแคลน ไรซ์ กับ คาลวิน ฟิลลิปส์ ช่วยเซ็ตเกม ขับเคลื่อนบอลไปมาและป้องกันแผงแบ็คโฟร์แต่ไม่อาจงัดคิลเลอร์พาสจัดการแนวรับที่เหนียวแน่นของเจ้าถิ่นได้
เมสัน เมาท์ กับบทบาทจอมทัพได้โอกาสยิงมากที่สุดในสนาม (4 ครั้ง) แต่ไม่ตรงกรอบเลยโดยแทบไม่มีส่วนร่วมในการปั้นเกมในพื้นที่สุดท้าย ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง กับ แจ็ค กรีลิช มีช็อตวูบวาบให้เห็นจากทักษะการลากเลื้อยแต่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น
ท้ายที่สุด ทีมของ เซาธ์เกต ต้องเพิ่งความหัศจรรย์ของ แฮร์รี เคน ในช่วงท้าย แต่พวกเขาก็ไม่อาจรักษาสกอร์ดังกล่าวไว้ได้จนจบเกม
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด