อังกฤษ 1-0 โครเอเชีย : เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูโร 2020 สิงโตคำราม เปิดหัว 3 คะแนน

England v Croatia - UEFA Euro 2020: Group D
England v Croatia - UEFA Euro 2020: Group D / Laurence Griffiths/Getty Images
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2021
เวลาแข่งขัน : 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : อังกฤษ 1-0 โครเอเชีย
สนาม : เวมบลีย์ (ลอนดอน)


1. รูปเกมที่หาโอกาสเข้าทำกันยาก

Harry Kane, Marcelo Brozovic
England v Croatia - UEFA Euro 2020: Group D / Pixsell/MB Media/Getty Images

สำหรับนัดนี้ต้องบอกเลยว่ามีเพียงช่วงต้นเกมเท่านั้นที่ดูเกมจะค่อนข้างเปิดจนต่างฝ่ายต่างหาโอกาสจบสกอร์กันได้โดยเฉพาะทีมชาติอังกฤษ แต่หลังจากนั้น โครเอเชีย เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ก็พยายามเน้นตั้งรับต่ำและรอโอกาสในการโต้กลับ ซึ่งนั่นทำให้หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรก อังกฤษ แทบหาโอกาสเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายไม่ได้เลย เช่นเดียวกับ โครเอเชีย ที่ตั้งรับลึกก็หาโอกาสเล่นเกมโต้กลับไม่ได้เช่นกัน ทำให้บอลส่วยใหญ่จะอยู่บริเวณกลางสนาม แม้ว่าครึ่งหลังเกมจะเปิดมากขึ้น แต่ก็ยังเล่นกันค่อนข้างรัดกุมและไม่ประมาท จนหาโอกาสเข้าพื้นที่สุดท้ายกันแทบไม่ได้ จะมีก็แต่จังหวะลุ้นฉาบฉวยเท่านั้น

2. โครเอเชีย เน้นรับมากเกินไป

หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเพราะอังกฤษเป็นฝ่ายเหนือกว่าในด้านความสามารถของตัวผู้เล่น ทำให้ทีมเยือนวันนี้ต้องถอยลงมาตั้งรับและรอโอกาสในการสวนกลับ แต่หากมองกันที่ชื่อชั้นของนักเตะว่ากันตำแหน่งต่อตำแหน่งนั้น โครเอเชีย แทบไม่ได้เป็นรองเลยแม้แต่น้อย ทั้ง 3 ประสานเวิลด์คลาสในแดนกลางอย่าง โมดริช โควาชิช และ โบรโซวิช แถมยังมีตัวรุกจอมเทคนิคอย่าง ครามาริช เรบิช วลาซิช ที่ผลงานในลีกต้องบอกว่ายอดเยี่ยมทุกราย แต่กลับเลือกถอยลงมาตั้งรับต่ำ ทำให้จุดเด่นในการปั้นเกมรวมถึงความสามารถเฉพาะตัวของแต่ละคนที่กล่าวไปนั้น แทบไม่ถูกดึงออกมาใช้มากนัก กระทั่งช่วงท้ายเกมที่พวกเขาพยายามโหมบุกเข้าใส่ก็จะเห็นได้ว่าเกมรับของ อังกฤษ นั้น ก็เจอกับแรงกดดันหนักพอสมควรในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเช่นกัน

3. แบ็คซ้าย อังกฤษ ไปไหน ?

Kieran Trippier, Sime Vrsaljko
England v Croatia - UEFA Euro 2020: Group D / Chloe Knott - Danehouse/Getty Images

หลังจากไลน์อัพ 11 ตัวจริงของทีมชาติอังกฤษออกมาในเกมนี้ เชื่อได้เลยว่าแฟนบอล ทรีไลออน คงเกิดคำถามในหัวขึ้นมาเลยว่า ทำไมเอา ทริปเปียร์ ไปเล่นแบ็คซ้าย ! จริงอยู่ที่เจ้าตัวทำหน้าที่ได้ดี แถมยังเคยถูกจับมายืนตำแหน่งนี้บ่อย ๆ ในทีมของ เซาธ์เกต แต่ก็อย่างว่าทุกคนคงอยากรู้ว่า "แบ็คซ้ายธรรมชาติ" ที่มีไปไหนหมด ? หรือว่ายังดีไม่พอทั้ง ลุค ชอว์ ที่ฟอร์มโดดเด่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เบน ชิลเวลล์ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ยุโรปกับ เชลซี หรือแม้แต่ บูกาโย ซาก้า ที่พอจะเล่นในตำแหน่งนี้ได้กลับถูก ทริปเปียร์ ปาดหน้าไปเสียหมด

แน่นอนหากผลการแข่งขันออกมาตามที่ต้องการก็คงไม่มีใครว่าอะไร แต่เชื่อได้เลยว่าหากวันใดรูปเกมไม่เป็นไปดังที่หวัง ประเด็นนี้จะถูกยกมาตั้งคำถามเป็นจุดแรก ๆ อย่างแน่นอน

4. จูด เบล สร้างสถิติ ยูโร

Jude Bellingham, Luka Modric
England v Croatia - UEFA Euro 2020: Group D / Laurence Griffiths/Getty Images

หนึ่งในสถิติของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ถูกทำลายลงในเกมนี้ นั่นคือการที่ จูด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในฐานะตัวสำรองช่วงท้ายเกม นั่นทำให้สถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามใน ศึกฟฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย ของ เจโทร วิลเลียม แบ็คซ้ายชาว เนเธอร์แลนด์ ทำไว้ในปี 2012 ตอนอายุ 18 ปีกับ 71 วันได้ถูกทำลายลงอย่างราบคาบ ด้วยตัวเลขสถิติใหม่เพียง 17 ปีกับ 349 วันของ เบลลิงแฮม เป็นที่เรียบร้อย


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด