เชลซี 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก เรือใบ บุกล้างตา สิงห์บลู ได้สำเร็จ

Chelsea v Manchester City - Premier League
Chelsea v Manchester City - Premier League / Marc Atkins/Getty Images
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2021
เวลาแข่งขัน: 18:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: เชลซี 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์


1. เป็นเกมที่สู้กันด้วยแทคติค

Thiago Silva, Fernandinho, Antonio Rudiger
Chelsea v Manchester City - Premier League / James Williamson - AMA/Getty Images

ตลอด 90 นาทีในเกมนี้ต้องบอกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามสู้กันด้วยแผนการเล่นในสไตล์ของตนได้อย่างตื่นเจ้นเร้าใจ โดยเจ้าบ้านเน้นตั้งรับเพราะขึ้นชื่อในเรื่องแนวหลังที่แข็งแกร่ง โดยวันนี้ส่ง ติโม แวร์เนอร์ ลงเป็นตัวจริงคู่กับ ลูกากู หวังจะให้ประสานงานกันในเกมสวนกลับ ส่วนทีมเยือนแน่นอนกะมาบุกเข้าใส่เต็มตัวแต่พ่วงมาด้วยการไล่กดดันสูงตั้งแต่หน้าปากประตูคู่แข่ง ซึ่งผลจากการที่แนวการเล่นทั้งสองสไตล์มาปะทะกันจึงทำให้โอกาสเข้าทำแบบจะแจ้งค่อนข้างน้อยในช่วงแรก โอกาสที่บอลเข้าพื้นที่อันตรายของทั้งสองฝ่ายมีไม่มากนักกระทั่งช่วงท้ายที่ สิงห์บลู จำเป็นต้องเปิดหน้าแลก แต่แม้ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสไม่มากนักแต่รูปเกมกลับไม่ได้ดูน่าเบื่อหรืออึดอัดเพราะด้วยศักยภาพของสองทีมที่เป็นระดับแถวหน้าทั้งนักเตะรวมถึงแทคติค ทำให้มันเป็นการต่อสู้กันแบบสมน้ำสมเนื้อคู่คี่สูสีและตัดสินเกมด้วยจังหวะที่มันลงล็อคเพียงครั้งเดียวอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน

2. สิงห์บลู เน้นรับมากเกินไป

Antonio Rudiger, Thomas Tuchel
Chelsea v Manchester City - Premier League / James Williamson - AMA/Getty Images

เกมนี้สิ่งที่ต่างออกไปจากนัดก่อน ๆ สำหรับ เชลซี ก็คือการปรับแผนมาเน้นรับแบบเต็มตัวและรอโอกาสในการสวนกลับ แม้ว่าก่อนหน้า สิงโตน้ำเงินคราม จะเล่นสไตล์แบบนี้ให้เห็นอยู่บ้างแต่ต่างกันตรงที่วันนี้ ทูเคิล วางหมากมาชัดเจนว่าพร้อมจะแพ็คเกมเต็มที่โดยเฉพาะการที่พวกเขาปรับแผนการยืนมาเล่นเป็นกลาง 3 คนส่งทั้ง ก็องเต้ โควาชิช และ จอร์จินโญ ลงมาพร้อมกันเพื่อพยายามคุมเกมแดนกลาง พร้อมกับส่งหัวหอกตัวเป้าลงพร้อมกันทั้ง แวร์เนอร์ และ ลูกากู หวังให้ประสานงานในเกมสวนกลับ แตกต่างจากนัดก่อน ๆ ที่ทั้งคู่พบกันที่มักจะเปิดหน้าแลกบุกเข้าใส่กันมาตลอด สุดท้ายก็อย่างที่เห็นกันว่าผลจากการไม่มีคนคอยปั้นเกมรุก ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องถอยมารับต่ำแถมยังโดนไล่บีบเกมสูงทำให้ขึ้นเกมค่อนข้างลำบาก หลังจากโดนทีมเยือนนวดอยู่นานสองนาน โอกาสที่มาพร้อมกับโชคบวกกับความพยายามก็มาถึงและกลายเป็นประตูออกนำให้ทีมเยือนในนาทีที่ 53 ซึ่งหลังจากนั้นเกมถึงเปิดแลกกันมากขึ้น แต่ด้วยเวลาที่เหลือรวมถึงคู่แข่งที่เขี้ยวลากดินขนาดนี้ ทำให้พวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะแก้ตัวใด ๆ จนต้องจบเกมด้วยความปราชัยชนิดที่ยิงไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่หนเดียวในที่สุด

3. เรือใบ บุกล้างอาถรรพณ์ได้สำเร็จ

Ruben Dias
Chelsea v Manchester City - Premier League / Catherine Ivill/Getty Images

ก่อนหน้านี้นับตั้งแต่ โธมัส ทูเคิล ย้ายมาคุมทีม เชลซี การพบกันของทั้งคู่ตลอด 3 นัดจบลงด้วยชัยชนะของ สิงห์บลู ทั้งหมด แถมทุกนัดล้วนแต่เป็นเกมสำคัญ ๆ ทั้งสิ้น เอฟเอ คัพ รอบ 4 ทีมสุดท้าย และแน่นอนเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศฤดูกาลที่ผ่านมา จนหลายคนมองว่า สิงโตน้ำเงินคราม ในยุคนี้จะกลายเป็นของแสลงของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา และเป็นก้างชิ้นโตขวางไม่ให้ เรือใบสีฟ้า มุ่งสู่จุดสูงสุด แต่ผลจากเกมในวันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าทุกคนล้วนมีวันของตัวเอง แถมรูปเกมวันนี้ก็ชัดเจนว่าพวกเขามาเหนือกว่าตั้งแต่ต้นจนจบ 90 นาที คืนฟอร์มเก่งและคงเรียกความมั่นใจกลับมาได้มากโข นอกจากนี้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าพวกเขาก็ยังคู่ควรกับการเป็นเต็งหนึ่ง แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาอาจจะมีแผ่วลงไปบ้างก็ตาม

4. โปรแกรมสุดหินกำลังรอพวกเขาทั้งคู่

FILES-COMBO-FBL-EUR-C1-ENG-MAN CITY-CHELSEA-FINAL
FILES-COMBO-FBL-EUR-C1-ENG-MAN CITY-CHELSEA-FINAL / NEIL HALL/Getty Images

หลังจากจบ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์ที่ 6 ดูเหมือนว่าตอนนี้ เรือใบสีฟ้า จะเริ่มกลับมาเครื่องร้อนและขึ้นมาเบียดพื้นที่หัวตารางอีกครั้ง โดยหลังแข่งจบพวกเขามี 13 คะแนนเท่ากับ เชลซี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่าทำให้รั้งอันดับที่สองตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล อยู่ 1 คะแนน ต้องลุ้นว่า ไบรท์ตัน จะคว้าชัยในวันอาทิตย์ได้หรือไม่ เพราะถ้าหากทำได้ ทัพนกนางนวล จะขึ้นไปยืนหนึ่งเป็นจ่าฝูงทันที แถมหนทางการขับเขี้ยวยังมีอุปสรรคชิ้นโตรอพวกเขาอยู่ทั้งสองทีม โดย แมนฯ ซิตี้ มีคิวลงเล่นกลางสัปดาห์ในคืนวันอังคารด้วยการบุกไปเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แถมวันอาทิตย์ถัดไปพวกเขายังต้องไปเเล่นกับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ อีกด้วย ส่วนทางด้าน เชลซี ก็มีโปรแกรมที่ดุไม่แพ้กันโดยกลางสัปดาห์ต้องออกไปเยือน ยูเวนตุส แต่เกมลีกสัปดาห์หน้าจะเบากว่าเล็กน้อยด้วยการเล่นในบ้านพบ เซาแธมป์ตัน นั่นเอง


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด