[PLAYER PROFILE] ทาริค แลมพ์ตีย์ : อีกหนึ่งแข้งดาวรุ่งฝีเท้าดีที่ เชลซี ปล่อยให้หลุดมือ

Hull City v Chelsea FC - FA Cup Fourth Round
Hull City v Chelsea FC - FA Cup Fourth Round / Robbie Jay Barratt - AMA/Getty Images
facebooktwitterreddit

3 ล้านปอนด์ คือจำนวนค่าตัวที่ เชลซี ได้รับจาก ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน สโมสดังร่วมศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมปี 2020 ที่ผ่านมา แลกกับการปล่อยตัวดาวรุ่งส่วนเกินของทีมอย่าง ทาริค แลมพ์ตีย์ หนุ่มน้อยชาวอังกฤษวัย 19 ปี ณ ขณะนั้น ที่พึ่งจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และได้โอกาสสัมผัสเกมกับ สิงโตน้ำเงินคราม ไปเพียง 3 นัดในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกของซีซั่น 2019/20

ทาริค แลมพ์ตีย์ เป็นนักเตะลูกครึ่งอังกฤษ-กานา ที่เกิดใน ลอนดอน เข้าสู่รั้วอคาเดมีของ เชลซี ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาจนขึ้นสู่ทีมรุ่น ยู-18 ในปี 2017 ซึ่งในปีนั้นเองเจ้าตัวถูกเรียกให้ไปติดทีมชาติองกฤษเป็นครั้งแรกในรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ยิ่งไปกว่านั้นยังมีดีกรีเป็นแชมป์ยูธลีกเมื่อปี 2017/18 รวมถึงพาทีมเข้าชิงรายการ ยูฟ่า ยูธลีก ถึง 2 ปีติดต่อกันแต่น่าเสียดายที่ไปพ่ายให้กับ บาร์เซโลนา เมื่อปี 2018 และ เอฟซี ปอร์โต้ ในปี 2019 ที่ผ่านมา โดยนักเตะดาวรุ่ง สิงโตน้ำเงินคราม ในชุดนั้นที่เล่นร่วมกับเขาและสามารถสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้ก็มี รีซ เจมส์ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย บิลลี กิลมอร์ และ มาร์ค เกอี

เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มฝีเท้าดีคนอื่น ๆ แลมพ์ตีย์ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่ถูก แฟรงค์ แลมพาร์ด ดันขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในยุคที่ทีมประสบปัญหาถูกแบนไม่สามารถลงทะเบียนนักเตะใหม่ได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

เป็นที่ทราบกันดีว่าการแข่งขันเพื่อโอกาสในการลงเล่นในทีมชุดใหญ่ เชลซี หนักหนาสาหัสมากขนาดไหน ไม่ใช่เฉพาะกับดาวรุ่งที่ถูกดันขึ้นมาเท่านั้น เพราะแม้แต่ผู้เล่นระดับซีเนียร์หลายรายยังต้องพบกับวิกฤตจนในที่สุดต้องย้ายออกจากทีมไป ซึ่ง แลมพ์ตีย์ เองก็ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์เดียวกันนี้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าด้วยฝีเท้าที่มีและการกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเอง ทำให้ในที่สุดเจ้าตัวได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตด้วยการย้ายออกจากสโมสรที่ปลุกปั้นตนขึ้นมาตั้งแต่ 8 ขวบ เพื่อไปอยู่กับที่ระดับเล็กกว่าอย่าง ไบรท์ตัน ที่สามารถการันตีตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ให้กับเขาได้นั่นเอง

แลมพ์ตีย์ เองก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ต ทำนองว่า มันเป็นเรื่องยากสุด ๆ ที่ต้องตัดสินใจจากลาสถานที่ ๆ คุ้นเคยมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งทางสโมสรเองก็ยังต้องการเก็บเขาเอาไว้ แต่แน่นอนว่ามีฝีเท้าที่ดี แต่หากไม่ได้รับโอกาสลงเล่นมันก็ไม่มีความหมาย เจ้าตัวจึงตัดสินใจย้ายออกจากทีมไปในที่สุด ซึ่งหนุ่มน้อยวัย 20 ปีรายนี้ยังกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างทั้งสองสโมสรอีกว่า ที่ เชลซี เขาอาจเป็นเพียงแค่ดาวรุ่ง แต่กับ ไบรท์ตัน ทุก ๆ คนมองเขาในฐานะส่วนหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นสำคัญของทีม ซึ่งสิ่งเหล่านั้นทำให่เขารู้สึกถึงความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่ต้องแบกรับและต้องพยายามพัฒนาตนเองขึ้นมาเพื่อให้สามารถตอบสนองกับความคาดหวังดังกล่าวให้ได้

หากถามถึงสไตล์การเล่นของหนุ่มน้อยวัย 20 ปีรายนี้ ต้องบอกว่าเดิมทีเจ้าตัวเล่นได้ค่อนข้างหลากหลายแทบจะทุกตำแหน่งบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ตั้งแต่แบ็คไปจนถึงตัวรุก ยิ่งไปกว่านั้นคือมีความเร็วที่จัดจ้าน แถมยังเลี้ยงบอลติดเท้า ไปกับบอลได้ดี แต่สิ่งที่โดดเด่นสุด ๆ เลยดูจะเป็นความมั่นใจในตัวเองกล้าลากกล้าเลี้ยง ที่มักจะหาได้ยากจากตัวดาวรุ่งหน้าใหม่ ๆ และแน่นอนข้อเสียจุดใหญ่ของเจ้าตัวเลยก็คือการมีส่วนสูงเพียง 164 เซนติเมตรที่อาจจะดูน้อยเกินไปในการเล่นในเกมระดับสูงของลีกที่ว่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปนี้

อย่างไรก็ตามหลังจากย้ายไปร่วม ทัพนกนางนวล แลมพ์ตีย์ ก็สามารถยึดตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงเอาไว้ได้อย่างเหนี่ยวแน่น รวมถึงในฤดูกาลนี้ที่บ่อยครั้งที่เขามักจะถูกดันขึ้นมาเป็นวิงแบ็คหรือเป็นปีกในยามจำเป็น ซึ่งหากใครได้มีโอกาสติดตามดูจะเห็นได้ว่าฟอร์มของเขาโดดเด่นเอามาก ๆ ทำไปแล้ว 1 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ อีกทั้งยังมีสถิติอันยอดเยี่ยม เช่น เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังที่มีค่าเฉลี่ยระยะทางในการเลี้ยงบอลมากที่สุด เปิดบอลด้วยอัตราความแม่นยำมากที่สุดเป็นอันดับสองและเอาชนะการดวลตัวต่อตัวมากที่สุดเป็นอันดับสามในบรรดาผู้เล่นตำแหน่งแบ็คใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ แน่นอนด้วยผลงานดังที่ได้กล่าวมา ทำให้ปัจจุบันเจ้าตัวตกเป็นข่าวพัวพันกับหลายทีมในยุโรปทั้ง เซบีญา แอตเลติโก้ มาดริด หรือแม้แต่แชมป์ยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค เองก็ลือกันว่ากำลังให้ความสนใจจะคว้าตัวไปร่วมทีมด้วยเช่นกัน

ว่ามาจนถึงตอนนี้แล้วแฟน ๆ เชลซี หลายคนอาจไม่นึกเสียดายเท่าใดนัก เพราะคิดว่าถึงอยู่ต่อก็คงเป็นได้แค่อะใหล่ในทีมเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าในอดีต สิงห์บลู มักจะปล่อยดาวรุ่งฝีเท้าดีที่ปัจจุบันสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหัวแถวของวงการหลุดมือไปเสมอ ๆ ในช่วงที่ผ่านมาทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาธาน อาเก้ หรือแม้แต่ แพทริก แบมฟอร์ด และด้วยผลงานขนาดนี้แลกกับค่าตัวอันน้อยนิดเพียง 3 ล้านปอนด์ที่ได้รับมา ก็มีโอกาสสูงที่ แลมพ์ตีย์ อาจเป็นนักเตะคนต่อไปในรายชื่อแข้งซูเปอร์สตาร์ที่ สิงโตน้ำเงินคราม ประเมินความสามารถที่แท้จริงของเขาต่ำเกินไปอีกหนึ่งรายก็เป็นได้...


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด