เส้นทางรถไฟเหาะกับ 18 เดือนของชายชื่อ “ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง” - OPINION

Arsenal FC v Chelsea FC - Premier League
Arsenal FC v Chelsea FC - Premier League / Alex Pantling/GettyImages
facebooktwitterreddit

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง (33 ปี สัญญาถึงกลางปี 2024) อยู่ในช่วงขาลงของเส้นทางอาชีพอย่างชัดเจน แม้ว่าเส้นทางอาชีพของเขาจะยังคงอยู่ในสโมสรระดับชั้นนำของยุโรปอย่าง เชลซี ก็ตาม แต่ทั้งผลงานของสโมสร และส่วนตัวแล้ว “โอบา” ล้มเหลวอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้

“เสือดำแห่งกาบอง” ออกจากอาร์เซนอลในเดือนมกราคม 2022 หลังจากมีปัญหาเกี่ยวกับวินัยรุนแรง ที่ว่ากันตามจริงฟอร์มที่ตกหล่นหลังการต่อสัญญาราคาแพงของเขา ทำให้ทุกอย่างมันแย่หนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อสโมสรจ่ายโคตรแพง แต่ผลงานสวนทางแบบดิ่งเหว และยังมาทำตัวผิดวินัยแบบไม่ใช่ครั้งแรกเช่นนั้น ท้ายที่สุดแล้ว “ฟางเส้นสุดท้าย” ขาดลง เมื่อเขาออกจากทีมไปแบบไม่บอกกล่าวไปที่ บาร์เซโลน่า เพื่อเตรียมย้ายไปเล่นกับทัพบาร์ซ่า ในแบบที่สโมสรไม่รู้เรื่อง นำมาซึ่งมหากาพย์วันสุดท้ายของการซื้อขายในมกราคม 2022 และอาร์เซนอลเลือกปล่อยฟรีแบบไม่มีค่าตัวสู่บาร์ซ่า

โอบาเมยอง เป็นนักเตะที่ผู้เขียนมองว่าเป็น “ศิลปิน” คนหนึ่ง เขามีความสามารถ มีอาวุธร้ายอย่างความเร็ว และสกิลในการหาจังหวะเข้าทำ แต่ทั้งหมดจะเกิดขึ้นตาม “อารมณ์ และความมุ่งมั่น” ของเขาเป็นสำคัญ ถ้าเขาอยากเล่น มุ่งมั่นแบบเต็มที่ เขาก็จะอันตรายอย่างยิ่ง แต่ถ้าไม่เขาก็พร้อมจะหายไปจากสนามทั้งที่อยู่ในทีม

Pierre Emerick Aubameyang
FC Barcelona v Manchester City - Friendly Match / Quality Sport Images/GettyImages

ช่วงเวลาประมาณ 5 เดือนกับบาร์เซโลน่า เขากระหายไปกับความท้าทายใหม่ที่สเปน 24 เกม 13 ประตู 1 แอตซิสต์ แม้จะถูกข่อนคอดว่าบางประตูก็ยิงแบบง่าย ๆ แต่ก็เถียงไม่ได้ว่า ต่อให้เอาหัวเข่ากระแทกเข้าประตู กองหน้าก็ต้องทำเพื่อให้ได้ประตู และสถิติมันไม่ได้โกหกใคร

อย่างไรก็ตามการเข้ามาของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และปัญหาการเงินที่วิบัติกันไปทั้งบาร์เซโลน่า บวกกับการเข้ามาของเชลซี ที่บรรลัยไปกับการสูญเงินเปล่าไปกับคนไม่มีใจอย่าง โรเมลู ลูกากู ไหนจะเจ้าของใหม่ที่พร้อมเพย์แบบไม่แคร์อะไรทั้งสิ้นอย่าง ท๊อดด์ โบห์ลี่ ส่งผลให้โอบาเมยอง มาสวมหมายเลข 9 ของเชลซี ในช่วงโค้งสุดท้ายของการซื้อขายสิงหาคม 2022 เขากลับมาอังกฤษอีกครั้งในรอบ 7 เดือน

การกลับมาของเขาถูกมองว่าเป็นทางเลือกแบบ “แก้ขัด” ของเชลซี เพราะทั้ง ลูกากู ก็ไม่มีใจ งอแงเป็นเด็กน้อยจนต้องย้ายออกจากทีม ส่วน ติโม แวร์เนอร์ ก็ถูกขายไปในแบบขาดทุนครึ่งต่อครึ่ง สุดท้ายวนไปวนมา กองหน้าหมดทีม แถมซื้อคนอื่นก็ไม่ได้ตัว การจ่ายค่าตัว 10 ล้านปอนด์ แลกกับนักเตะวัย 33 ปี จึงเลี่ยงไม่ได้ “ดีกว่าไม่มี”  

Pierre-Emerick Aubameyang
Fulham FC v Chelsea FC - Premier League / Ryan Pierse/GettyImages

ช่วงแรกกับเสื้อสีน้ำเงิน เขาพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าเขายังเล่นได้ในลีกอังกฤษ และก็มีประตูแรกในพรีเมียร์ ลีก รอบสองของตัวเองในเกมชนะ คริสตัล พาเลซ แต่นั่นคือประตูเดียวจนถึงวันนี้ ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ ลีก เขาทำสองประตู รวมทั้งหมด 3 ประตู เกิดขึ้นในวันที่ 1-11 ตุลาคม 2022 เท่ากับ 11 วันเขาทำสามประตู และก็ไม่มีประตูอีกเลย

การเข้ามาของ เกรแฮม พอตเตอร์ ช่วงแรกก็ยังมีชื่ออยู่ในทีม แต่นานวันไปนับวันยิ่งหาย เมื่อระบบการเล่นที่โค้ชต้องการ ไม่มีเขาอยู่ในแผนงาน นานวันเข้าตัวสำรองก็ไม่มีชื่อ ยืนยันได้ชัดเจนเมื่อเขาโดนตัดออกจากโควตาลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อคเอ้าท์

แต่สิ่งที่ต่างจากเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนหน้านั้นคือ เขาไม่บ่นอะไรเลย ไม่โวยวาย และยังคงใช้ชีวิตไปตามปกติ เราจะได้เห็นภาพในสังคมออนไลน์กับการใช้ชีวิตของเขา แม้สถานะของเขาจะไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่องอีกแล้ว ก่อนที่สุดท้าย พอตเตอร์ จะกลายเป็นอดีตกับเชลซี เพราะผลงานกู่ไม่กลับ ส่วน โอบาเมยอง ก็ไม่ได้รับโอกาส

การเข้ามาของ แฟรงค์ แลมพาร์ด แม้เขาจะเลือกให้โอกาสกับเขา แต่สุดท้ายผลงานของทีมก็เละเทะเกินต้าน และ โอบาเมยอง ก็ไม่ได้ไม่มีใจเล่นอีกเช่นกัน

สถิติการสัมผัสบอล 9 ครั้ง ตลอดเวลาในสนาม 45 นาที ก่อนโดนเปลี่ยนออก และ 4 จาก 9 ครั้ง คือการสัมผัสบอล ตอนเขี่ยลูกเริ่มเกม มันตอกย้ำถึงความเละเทะ เมื่อผลงานทีมมันไปไม่รอด เมื่อนักเตะก็ไม่ได้คิดจะมีใจลงเล่น ทุกอย่างก็พังทลาย และแน่นอนที่สุด โอบาเมยอง จะได้ลงเล่นกับเชลซีเพียงแค่ถึงจบฤดูกาลนี้เท่านั้น เช่นเดียวกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่กลายเป็นเอาชื่อมาทิ้งอีกรอบในฐานะของผู้จัดการทีม

ในทางกลับกันช่วงเวลาประมาณหนึ่งปีครึ่ง “นอกสนาม” ของโอบาเมยองก็มีเรื่องมากมาย เขาเสียคุณแม่อันเป็นที่รัก, ป่วยหนักเป็นไข้มาลาเรีย, ถูกโจรขึ้นบ้าน และสุดท้ายย้ายมาเชลซีแบบที่ต้องบอกว่าเขาไม่ได้เต็มใจเท่าไรนัก เมื่อบาร์ซ่าได้คนใหม่เข้ามาแทนเขา แต่เรื่องเหล่านั้นจะเป็นข้อแก้ตัวก็คงไม่ได้ทั้งหมด เมื่อชีวิตหลายเรื่องของเขา เขาเป็นคนเลือกเอง ทำเอง และต้องรับผิดชอบกับการตัดสินใจเหล่านั้น ปัญหานอกสนามคือสิ่งที่ต้องจัดการอย่างไรไม่ให้กระทบถึงงานหลักอย่างเรื่องในสนาม เพราะนี่คือสังเวียนของ “มืออาชีพ” เมื่อได้รับการจ้าง ผลงานคือตัวชี้วัดคุณค่าในตัวคุณ

จากหมายเลข 14 ที่อยากสืบทอดความเป็นราชาที่อาร์เซนอล มาวันนี้ที่กลายเป็นถูกระบุว่าเข้าข่ายหมายเลข 9 ต้องสาปอีกหนึ่งคนที่เชลซี ชีวิตของ โอบาเมยอง เรียกได้ว่า “ขึ้นสุด ลงสุด” ในเวลาเพียงแค่ 18 เดือนเท่านั้น

มองชีวิตนี้ให้เป็น “ตัวอย่าง” และย้อนมองตัวเองในชีวิตจริงที่ว่า “อนาคต” คือสิ่งที่ไม่แน่นอน ปัจจุบันคือ “ความจริง” ทำให้ดีที่สุด เพราะเราไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้ มันจะดีหรือร้ายกว่าวันนี้ที่เป็นอยู่กันแน่…โปรดเตรียมใจรับมือกับมันให้ดี