ทำไม FSG ถึงถูกมองเป็นผู้ร้ายในสายตาแฟน ลิเวอร์พูล ? - OPINION
โดย Navapun Munarsa
“ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีไว้ขาย” ข้อความนี้เป็นข่าวร้ายสำหรับใครก็ตามที่ยอมจ่ายค่าเครื่องบินบินเหนือสนาม แอนฟิลด์ ก่อนเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเริ่มขึ้น ซึ่งป้ายประท้วงเขียนว่า “FSG Out -- Klopp In -- Enough Is Enough”
อย่างไรก็ตาม การที่ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเปิดบ้านถล่มคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ทำให้การประท้วงบนเครื่องบินดูเหมือนเป็นความคิดที่ผิดที่ผิดเวลา
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูล กล่าวกับ “Liverpool Echo” ว่า ความมุ่งมั่นของ เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป (FSG) นั้น แข็งแกร่งกว่าที่เคย แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีการค้นหาผู้ร่วมลงทุนจากภายนอกในสโมสรอย่างต่อเนื่องก็ตาม
แต่สำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล บางคนคิดว่า FSG กำลังรั้ง ลิเวอร์พูล ไว้ และถึงเวลาสำหรับเจ้าของคนใหม่แล้ว ซึ่งมันทำให้เกิดคำถามว่า ใครจะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบอย่าง “หงส์แดง” ในสายตา “เดอะ ค็อป”
FSG เคยทำผิดพลาดนับตั้งแต่เข้ามาคุมบริหารงานใน แอนฟิลด์ เมื่อเดือนตุลาคม 2010 อาทิ การสนับสนุนโปรเจกต์ European Super League และการพยายามขึ้นราคาตั๋วโดยไม่ปรึกษาแฟนบอล ซึ่งถือเป็นข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุด 2 ประการของพวกเขา
ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล กำลังใกล้จะล้มละลาย และอาจถึงขั้นต้องขายสโมสร จนกระทั่ง FSG เข้ามาเทคโอเวอร์ ด้วยเงินจำนวน 300 ล้านปอนด์ จากเจ้าของเดิมอย่าง ทอม ฮิคส์ และ จอร์จ ยิลเล็ต ซึ่งในตอนนั้น “หงส์แดง” ยังคงเดินตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในช่วงแรก FSG เคยทำผิดพลาดไปบ้างเช่น การซื้อ แอนดี้ แคร์โรลล์ หัวหอกชาวอังกฤษ มาจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 35 ล้านปอนด์ แต่หลังจาก คล็อปป์ เข้ามาทำงานร่วมกับ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส อดีต ผอ.กีฬา เมื่อปี 2015 ลิเวอร์พูล ก็กลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง
ลิเวอร์พูล ใช้เงินก้อนใหญ่อย่างชาญฉลาด อาทิ เซ็นสัญญากับ เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ (75 ล้านปอนด์) และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ (66 ล้านปอนด์) ซึ่งเป็นกองหลัง และผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลก เมื่อปี 2018 ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ยังทำงานด้านสถิติประสบความสำเร็จในการคว้าตัวผู้เล่นอย่าง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, จินี ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เข้ามาเสริมทัพ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก
ผลการทำธุรกิจห้วงที่ผ่านมาของ FSG ทำให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี โดยการคว้าแชมป์สำคัญอย่าง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ, สโมสรโลก และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
อย่างไรก็ตาม แฟน ลิเวอร์พูล บางคนต้องการให้กลุ่มทุน หรือมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งอย่างเจ้าของ แมนฯ ซิตี้, นิวคาสเซิล หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เข้ามาครอบครองกิจการ แต่พวกเขาเหล่านั้น มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับด้านเบื้องหลังการเงิน
แม้ว่าท้ายที่สุดแล้ว FSG จะเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน แต่พวกเขาก็สามารถสร้างสมดุลในการลงทุนในสโมสรได้ และในขณะเดียวกันก็เพิ่มมูลค่าด้วยความสำเร็จทั้งในสนาม และนอกสนามของ ลิเวอร์พูล
บางทีนั่นอาจยังไม่เพียงพอสำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล บางคน แต่ถ้า FSG เป็นเจ้าของทีมที่ไม่ดีในสายตาของพวกเขานั้น มันก็ทำให้เกิดคำถามว่า แล้ว “เดอะ ค็อป” ต้องการอะไรจากเจ้าของสโมสรคนใหม่กันแน่ ?