ทิศทางการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล หลังปิดดีล คาลวิน แรมซีย์ - OPINION

ลิเวอร์พูล หนึ่งในยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก เพิ่งเปิดตัวนักเตะแบ็คขวาคนใหม่อย่าง คาลวิน แรมซีย์ ไปเมื่อวันก่อนด้วยค่าตัว 6.5 ล้านปอนด์ ถือเป็นแข้งคนที่ 3 ในตลาดซัมเมอร์ของพวกเขา ซึ่งน่าจะถูกใจ เดอะค็อป อยู่ไม่น้อยที่เห็นทีมรักมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องแบบนี้

ตอนปิดซีซันหมาด ๆ พวกเขาก็เพิ่งคว้า ฟาบิโอ คาร์วัลโญ เพลย์เมคเกอร์อายุน้อยจาก ฟูแลม มาเป็นสมบัติของตัวเองได้เรียบร้อย ซึ่งจริง ๆ แล้วนักเตะจะย้ายมาตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสาร ดีลจึงต้องเลื่อนมาเป็นช่วงซัมเมอร์

คล้อยหลังไม่นานข่าวกับ ดาร์วิน นูนเญซ ก็เริ่มเข้าสู่กระแสโซเชียล มีการลือกันไปต่าง ๆ นานา แต่ท้ายที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ทุ่มเงิน 85 ล้านปอนด์หรือ 100 ล้านยูโรให้ เบนฟิก้า พร้อมกับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของดาวยิงอุรุกวัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งในตลาดซื้อขายนักเตะของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน พวกเขาเดินเรื่องอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบเหมือนเดิม ซึ่งกว่าที่แฟนบอลจะรู้ตัวก็เกือบจะปิดดีลกันได้แล้ว

อย่างไรก็ตามเสียงเรียกร้องให้นายใหญ่ชาวเยอรมันหากองกลางฝีเท้าดีเข้ามาเติมเต็มอีกซักคนก็ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในคนที่จุดกระแสเรื่องนี้ก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงท้ายฤดูกาลว่า ถ้า หงส์แดง มีมิดฟิลด์ที่ยิงประตูได้หลัก 10 ประตูซักคน พวกเขาคงกลายเป็นยอดทีมไปแล้ว

เรื่องนี้แฟนหงส์แดงยกมือเห็นด้วยเกือบทั้งโลก เพราะตัวผู้เล่นที่มีอยู่ในแดนกลาง ณ เวลานี้ มีเพียง ฟาบินโญ เท่านั้นที่ยิงได้มากที่สุดคือ 5 ประตู ซึ่งเมื่อเทียบกับ เควิน เดอ บรอยน์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับโดยตรงที่ยิงไป 15 ประตูแล้วมันช่างต่างกันลิบลับ

กระแสข่าวนี้ดังถึงขนาดที่ว่าหลังการคว้า นูนเญซ ได้สำเร็จ สื่อก็ตีข่าวต่อเนื่องเลยว่า ลิเวอร์พูล เตรียมเงินอีกฟ่อนในการซิว จู้ด เบลลิงแฮม ทันที หากแต่อีกไม่กี่วันต่อมา เดอะค็อป ก็ต้องฝันสลายเมื่อมีการยืนยันจากวงในของสโมสรว่า พวกเขาจะไม่มีการช้อปปิ้งในช่วงตลาดหน้าร้อนอีกแล้ว

เมื่อเป็นแบบนี้เล่นเอาแฟนบอลหันหน้ามองกันเลิ่กลั่กพลางตั้งคำถามว่า แน่ใจได้อย่างไรว่าตัวที่มีอยู่นั้นสามารถยืนระยะได้ เพราะเราได้เห็นแล้วว่าในการลุ้น 4 แชมป์ที่ผ่านมานักเตะแสดงอาการกรอบและล้าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงท้ายฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็สร้างเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ให้ได้งวยงงกันเข้าไปอีก เพราะจากรายงานของ ลิเวอร์พูลเอ็คโค ล่าสุดระบุว่า ลิเวอร์พูล ไม่มีแผนที่จะขาย อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ออกจากทีมในซัมเมอร์นี้

จากที่เราทราบกันดีว่า ดิอ็อกซ์ ถือเป็นนักเตะคนแรก ๆ ที่แฟนบอลต่างคิดว่าต้องย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ อย่างแน่นอน เพราะในช่วงท้ายซีซันเจ้าตัวแทบไม่มีบทบาทอะไรเลยในทีม โดยไม่ได้ลงเล่นเลยนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา

มีหลายทีมที่ให้ความสนใจ อ็อกซ์เลด ไม่ว่าจะเป็น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล หรือแม้กระทั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังมีคนเชียร์ และข่าวก็ยังออกมาว่า ลิเวอร์พูล พร้อมปล่อยออกจากทีมแบบยอมขาดทุนเละเทะด้วยราคาแค่ 10 ล้านปอนด์เท่านั้นด้วย

แต่สุดท้ายแข้งวัย 28 ปีก็ยังได้ไปต่อกับทีม โดยรายงานของ เอ็คโค ระบุว่า คล็อปป์ ถึงกับเดินเข้าไปคุยกับบอร์ดว่าเขาไม่อยากให้ขายและจะขอใช้งานต่ออีก 1 ปีจากนั้นค่อยปล่อยฟรีหลังหมดสัญญา

ยังไม่พอ ข่าวล่าสุดยังระบุว่า หงส์แดง สนใจที่จะขอยืม จีนี ไวจ์นัลดุม กลับมาเล่นให้กับทีมอีกครั้งเป็นเวลา 1 ฤดูกาล หลังจากที่ไปประสบความล้มเหลวกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเมื่อเอาทั้ง 2 ข่าวนี้มาประมวลรวมกัน แสดงว่าการเสริมทัพในแดนกลางจะยังไม่เกิดขึ้นในซีซันนี้จริง ๆ และโปรเจ็คใหญ่ในการทุ่มซื้อ จู้ด เบลลิงแฮม จะมาถึงในซัมเมอร์หน้า

การจะลงทุนอีกเกือบ 100 ล้านปอนด์หลังหมดเงินไปเกือบ 100 ล้านปอนด์มันคงไม่ใช่วิสัยของ ลิเวอร์พูล ในยุคของ FSG และ เยอร์เก้น คล็อปป์

หากข่าวที่ออกมาเป็นความจริง จากนี้ไปก็จะเป็นกิจกรรมการลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลนักเตะที่ไม่อยู่ในแผน ซึ่งคนแรกน่าจะเป็น ซาดิโอ มาเน ที่กำลังจะย้ายไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ และที่จะตามมาคือ ทาคุมิ มินามิโนะ ซึ่งมีข่าวกับ โมนาโก ราคาค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 17 ล้านปอนด์ รวมทั้ง เนโก้ วิลเลียมส์ ที่มีการประกาศแล้วว่าจะขายขาดอย่างเดียว ไม่ปล่อยยืมตัว ซึ่งก็น่าจะมีราคาประมาณ 10-15 ล้านปอนด์

เบ็ดเสร็จแล้ว 3 คนรวมกันน่าจะได้เงินกลับมาราว ๆ 60-65 ล้านปอนด์ซึ่งก็น่าจะพอช่วยทดแทนค่าตัวของ ดาร์วิน นูนเญซ ได้บ้าง และไม่ทำให้เสียงบดุลมากเกินไป ตามสไตล์ของ ลิเวอร์พูล ยุคเขี้ยวลากดินในตลาดซื้่อขาย

มองในแง่ดีการปิดดีลเร็วแบบนี้เป็นผลดีต่อการเตรียมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงาน พวกเขาจะได้ทำงานของตัวเองได้อย่างเต็มที่ มีเวลาในการปรับนักเตะใหม่ให้เข้ากับแท็คติกและสไตล์การเล่นของทีมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึง

ส่วนแฟนบอลก็ไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว รอแค่เปิดฤดูกาลและเชียร์กันให้เต็มที่ก็พอ

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด