พูดถึงสิ่งที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จะมอบให้กับ ลิเวอร์พูล - OPINION
โดย Navapun Munarsa
ปัญหาในแผงกองกลางของ ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกพูดถึงมานานแล้ว ซึ่งถูกมองว่า เป็นสาเหตุหลักในความล้มเหลวเมื่อฤดูกาลล่าสุด และตอนนี้การมาของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แท้จริงของ “หงส์แดง”
ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 24 ปี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 มาแล้ว และแสดงให้เห็นว่า เป็นหนึ่งในนักเตะระดับท็อปของ ไบรท์ตัน และศึก พรีเมียร์ลีก ซึ่งหลายคนมองว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ เป็นจิ๊กซอว์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ ลิเวอร์พูล
แม็ค อัลลิสเตอร์ ถูกมองว่า จะเข้ามาแก้ปัญหาในแผงมิดฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ได้ และทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน มีทางเลือกที่หลากหลายในการจัดทีมมากขึ้น เนื่องจากเขาสามารถเล่นได้ทุกบทบาทในแดนกลาง
อดีตจอมทัพ ไบรท์ตัน เคยกล่าวว่า “ผมพูดเสมอว่าผมชอบสัมผัสกับบอล เพราะยิ่งผมอยู่ใกล้บอลมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกดีเท่านั้น ผมชอบเล่นเป็นมิดฟิลด์ มันไม่สำคัญว่าจะเป็น 6, 8 หรือ 10 ผมโตมากับการเป็น 10 แต่แล้วผมก็เข้าใจว่าผมสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งมากขึ้น”
“ผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับนักเตะสมัยใหม่ที่จะสามารถเล่นในตำแหน่งต่างๆ เพื่อให้ทีม และผู้จัดการทีมมีตัวเลือกที่แตกต่างกัน ถ้าคุณถามผม ผมจะบอกว่าวันนี้ผมรู้สึกสบายใจเมื่อเล่นในบทบาทเบอร์ 8 แต่ผมรู้ว่าผมสามารถเล่นเป็นเบอร์ 6 หรือเบอร์ 10 ก็ได้”
ไม่มีสิ่งใดที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้ดีเท่ากับการที่เขาเขาถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 10 นักเตะของ พรีเมียร์ลีก ที่มีสถิติการจ่ายบอล และการครองบอลประสบความสำเร็จมากที่สุดในพื้นที่คู่แข่ง
นอกจากจะเล่นเกมรุกได้อย่างโดเด่นแล้ว แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังเป็นนักเตะที่เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งหากเทียบกับเพลย์เมคเกอร์ด้วยกันแล้ว เจ้าตัวมีสถิติแย่งบอลที่ดีกว่า เควิน เดอ บรอยน์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ บรูโน แฟร์นันด์ส ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กองกลาง “ฟ้าขาว” กล่าวต่อว่า “การเล่นเกมรับบมันก็เหมือนกับการตัดสินใจที่จะเล่นเกมรุก คุณต้องใช้การเพรสซิ่ง แท็คติก และแย่งบอลกลับมาให้ได้ มันเป็นเรื่องของการตัดสินใจมากกว่าตำแหน่ง มันเป็นเรื่องของความต้องการที่จะแย่งบอลกลับคืนมา มันเป็นสิ่งที่ผมพัฒนาขึ้นมาก”
ในฤดูกาลที่ผ่านมา ตัวตนของ ลิเวอร์พูล ที่เคยดุดันได้หายไปในหลายๆเกม โดย เจมี คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง “หงส์แดง” แสดงความคิดเห็นว่า “พวกเขาวิ่งไปทั่วสนามแบบไร้จุดหมาย มันไม่ใช่ทีมของ เยยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ผมรู้จักมาก่อน”
ขณะเดียวกัน คล็อปป์ รู้ดีว่า ทีมกำลังมีปัญหา และช่วงท้ายซีซันเขาก็ตัดสินใจเปลี่นแปลงครั้งสำคัญด้วยการให้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขึ้นไปเล่นในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เลยตลอด 11 เกมหลังสุด
มันไม่ใช่ทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับ ลิเวอร์พูล แต่มันเป็นความสำเร็จที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า มันทำให้พวกเขามีผลงานที่ดีขึ้นทั้งในเรื่องเกมรับที่มั่นคง การสวนกลับที่หวังผลได้ และความคิดสร้างสรรค์จาก อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ในปีหน้า ระบบ 3-2-2-3 น่าจะยังถูกใช้เป็นหลัก โดยตำแหน่งมิดฟิลด์ฝั่งซ้ายที่ เคอร์คิส โจนส์ ยึดตัวจริงมาตลอดนั้น อาจต้องหลีกทางให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่สร้างสรรค์เกม ขับเคลื่อนเกม และปิดช่องว่างในแดนกลาง
แม็ค อัลลิสเตอร์ คนเดียวอาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาให้กับ ลิเวอร์พูล ทั้งหมด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่กองกลางทีมชาติอาร์เจนติน่ารายนี้ตัดสินใจเดินเข้ามาที่ แอนฟิลด์ นั้น มันสร้างผลกระทบต่อ “หงส์แดง” ได้ไม่มากก็น้อย