[OPINION] ฤดูกาลลุ้นแชมป์ของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และ โชเซ มูรินโญ
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
หากนับผลงานของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ใน พรีเมียร์ลีก ซีซันนี้บางคนอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าพวกเขาก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งท็อปไฟว์เป็นที่เรียบร้อยจากชัยชนะในเกมล่าสุดเหนือ เบิร์นลีย์ 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
จากสถานการณ์ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เมื่อปลายซีซันจนมาถึงเกมแรกนัดเปิดฤดูกาลที่โดน เอฟเวอร์ตัน บุกมาเผาบ้านถึงลอนดอนไป 1-0 ทำให้ใครหลายคนคิดว่า โชเซ มูรินโญ อาจจะกลายเป็น “กุนซือตกยุค” ไปแล้วจริง ๆ
อย่างไรก็ตามในอีก 5 เกมต่อมาพวกเขาก็เริ่มทำผลงานได้ดีตามลำดับ แม้จะไม่ชนะติด ๆ กันแต่ก็ยังไม่แพ้ใครและเก็บได้ 11 คะแนน ขัยบขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง มีแต้มห่างจากจ่าฝูงเพียง 2 คะแนนเท่านั้น
ในขณะที่บรรดาบิ๊กซิกอื่น ๆ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และ อาร์เซนอล กลับทำผลงานกันได้ไม่ดีนัก สงบนิ่งอยู่ในอันดับเลข 2 ตัวกันทั้งหมด มีเพียง ลิเวอร์พูล ที่รักษามาตรฐานเอาไว้ได้ด้วยการรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง
ผลงานที่ดูดีขึ้นแบบนี้ส่วนหนึ่งมาจากการวางแท็คติกของ โชเซ มูรินโญ และส่วนหนึ่งเกิดจากความร้อนแรงของคู่หูจอมถล่มประตูคู่ใหม่ของวงการอย่าง แฮร์รี เคน และ ซน เฮือง-มิน ที่คนแรกทำแอสซิสต์ไปแล้ว 8 ครั้งส่วนคนหลังยิงไป 8 ประตู ยืนหนึ่งทั้งสองสถิติอยู่ในเวลานี้
ในส่วนของกุนซือ “เดอะสเปเชียลวัน” ที่โดนปรามาสเอาไว้เมื่อฤดูกาลก่อนว่ากำลังอยู่ในช่วงขาลงและแท็คติกของเขาไม่น่าจะเข้ากับจิตวิญญาณของความเป็น สเปอร์ส ได้ แต่เมื่อดูจากสถิติในซีซันใหม่จะพบว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในตอนนี้ที่ 16 ลูกและเสียไปเพียง 8 ประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก แอสตัน วิลลา และ อาร์เซนอล เท่านั้น
ด้วยผลงานอันโฉบเฉี่ยวไฉไลเช่นนี้จึงมีคำถามผุดขึ้นมาว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ ไก่เดือยทอง ก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อย่างเต็มตัวได้หรือยัง?
คำตอบจริง ๆ อาจจะต้องไปรอดูกันหลังจบฤดูกาล แต่หากพูดถึงเรื่องทัศนะและความเห็น แกร์รี เนวิลล์ และ เจมี คาร์ราเกอร์ 2 คู่หูแห่ง สกายสปอร์ต มีคำตอบให้
เริ่มที่อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มองว่าเรื่องลุ้นแชมป์นั้นอาจจะดูห่างไกล แต่อย่าลืมว่า ท็อตแนม มีผู้จัดการทีมอย่าง โชเซ มูรินโญ กุมบังเหียนอยู่ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้เหมือนกัน
“ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะได้เป็นแชมป์ลีกหรอกนะ ผมไม่คิดแบบนั้นเลย แต่เพราะ โชเซ มูรินโญ อยู่ที่นั่น มันมีองค์ประกอบที่ทำให้คิดได้ว่าเขาอาจทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงก็ได้”
“ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น ท็อตแนม ลงทุนในตลาดซัมเมอร์แบบนี้ ไม่เคยคิดเลย พวกเขาต้องกู้เงินจากธนาคารหลังจากที่ทุ่มเงินในการสร้างสนามแห่งใหม่ และเมื่อช่วงซัมเมอร์ มูรินโญ เป็นคนที่ไปที่นั่นและเรียกร้องสิ่งนั้น”
“เมื่อก่อนนั้น สเปอร์ส มักโดนวิจารณ์เรื่องการซื้อขายในตลาดนักเตะ แต่พวกเขาทุ่มเงินมากมายในช่วงซัมเมอร์และมีผู้เล่นที่พร้อมจะลุ้นแชมป์แล้ว พวกเขามีผู้เล่นในแนวรุกที่น่ากลัวและมันเป็นฤดูกาลที่แปลกประหลาด แต่ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ได้หรอก เพราะพวกเขาไม่เคยทำได้มาก่อนและเกมกับ เบิร์นลีย์ มันก็พร้อมออกได้ทุกหน้าเหมือนกัน”
“การจบอันดับเหนือ อาร์เซนอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ได้ถือจะเป็นความสำเร็จอันเหลือเชื่อ ตอนเริ่มต้นซีซันผมไม่ได้คิดว่าพวกเขาจะติดท็อปโฟร์ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เราต้องใส่ชื่อพวกเขาเข้าไปด้วยแล้ว ซึ่งมันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา”
ทางด้านของ เจมี คาร์ราเกอร์ เชื่อว่ามีโอกาสที่ สเปอร์ส จะกลับมาผงาดได้ เมื่อดูจากศักยภาพของ โชเซ มูรินโญ และสถานการณ์อันสวิงไปมาของ พีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
“ผมชัดเจนเลยว่าต้องการให้ ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก แต่ถ้าจะมีใครซักคนนอกเหนือจากพวกเขา ผมก็อยากเห็น โชเซ มูรินโญ นี่แหละ”
“ก่อนหน้านี้เขาโดนปรามาสไว้มากว่าเป็นกุนซือตกยุคไปแล้ว ฟุตบอลของเขามันไม่เข้ากับยุคปัจจุบัน แต่ผมก็อยากเห็นเขาประสบความสำเร็จอีกครั้งเพื่อตอกหน้าพวกสื่อและนักวิจารณ์ มันคงเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่ได้เห็น มูรินโญ กลับมาเป็นแชมป์อีก หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จมามากมายตลอดเส้นทางอาชีพเจ้าตัวก็ยังคงได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมากมาย เนื่องจากการปฏิบัติต่อผู้คนที่ไม่เหมาะสมในบางครั้ง แต่มันคงจะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่ได้เห็นเขากลับมาเป็นแชมป์อีกหน”
“ไม่มีใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ได้มากไปกว่าผมแล้วล่ะ แต่สิ่งที่เขาทำให้กับทีมในช่วงที่ผ่านมานั้นมันต้องการการพัฒนาต่อยอดและการเปลี่ยนแปลงบ้าง”
“ซีซันนี้มันมีอะไรแปลก ๆ นะ ลิเวอร์พูล เพิ่งเสีย เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ไป ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่คงเส้นคงวาเพิ่งเก็บได้เพียง 8 คะแนน ซึ่งถ้าจะหาโอกาสในการก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัวก็คงต้องเป็นซีซันนี้เท่านั้น”
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงทัศนะจาก 2 กูรู เส้นทางในฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล แต่หากจะว่าไปก็เป็นดังที่ทั้ง เนลวิลล์ และ คาร์ราเกอร์ กล่าวไว้ว่า นี่คือฤดูกาลที่แปลกประหลาด ดังนั้นในระยะทางที่เหลืออีก 30 กว่านัดมันก็เป็นไปได้ที่ มูรินโญ จะพาทีมทำผลงานได้ยอดเยี่ยมต่อไป หรืออาจจะกลับไปสู่ความเป็นจริงอีกครั้งหนึ่งก็เป็นได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด