[OPINION] โธมัส ทูเคิล : ว่าที่กุนซือคนใหม่ของ เชลซี?
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
พลันที่มีข่าวว่า โธมัส ทูเคิล โดนไล่ออกจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็มีกระแสตามออกมาทันทีว่าที่หมายต่อไปของกุนซือชาวเยอรมันน่าจะเป็นทีมใดทีมหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก
หลังจากที่ไปสานต่อความยิ่งใหญ่ที่สุดแสนจะธรรมดาใน ลีกเอิง กับ เดอะปารีเซียง ด้วยการพาทีมกวาดแชมป์ในประเทศมาทุกรายการและสามารถพาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนที่จะพ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค ไปแบบเจ็บปวดด้วยสกอร์ 1-0 เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ชะตาของอดีตนายใหญ่ ดอร์ทมุนด์ ก็ต้องมาขาดสะบั้นก่อนจะถึงปีใหม่ในอีกไม่กี่วัน
ผลงานใน ลีกเอิง เมื่อผ่านไป 17 เกมหรือเกือบครึ่งทางของซีซัน ทูเคิล พา เปแอสเช รั้งอันดับ 3 ของตารางด้วยการลงเล่น 17 นัดมี 35 คะแนนตามหลังทีมนำอย่าง โอลิมปิค ลียง และ ลีลล์ ที่มี 36 คะแนนเท่ากัน แถมเกมล่าสุดก่อนโดนไล่ออกก็เพิ่งพาทีมไล่ถล่ม สตราส์บรูก ไปถึง 4-0 ด้วยซ้ำ
หากเป็นลีกอื่นการทำผลงานเช่นนี้แล้วโดนไล่ออกบอร์ดบริหารคงโดนด่าว่าไม่บ้าก็เมา แต่นี่คือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมที่การันตีทุกแชมป์ในฝรั่งเศสตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาล และความฝันอันสูงสุดของพวกเขาก็คือการเป็นแชมป์ยุโรปซักครั้งในประวัติศาสตร์สโมสร
ดังนั้นเมื่อไม่สามารถพาทีมไปถึงเป้าหมายได้ นายใหญ่เมืองเบียร์ก็ต้องจรลีไปหางานทำกับสโมสรใหม่ต่อไป ซึ่งทาง บิลด์ สื่อในบ้านเกิดก็ได้ประโคมข่าวว่าสถานีต่อไปคงหนีไม่พ้นทีมชั้นนำทีมใดทีมหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก
โดยสโมสรที่ทางสื่อเยอรมนีคาดหมายว่าจะเป็นที่มั่นต่อไปของ โธมัส ทูเคิล น่าจะเป็น เชลซี ของ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช นั่นเอง
ทำไมจึงต้องเป็นทีมจากเวสต์ลอนดอน
หากพิจารณาดูจากสถานการณ์ของทีมในตอนนี้และองค์ประกอบที่มีอยู่ คงไม่มีทีมใดจะเหมาะสมมากกว่าไป “สิงโตน้ำเงินคราม” ทีมนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นที่กำลังลุ่ม ๆ ดอน ๆ เก็บได้เพียง 4 คะแนนจาก 5 นัดหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก ทำให้พวกเขาแปรสภาพจากจากทีมที่มีลุ้นแชมป์เมื่อเดือนก่อน กลายเป็นทีมที่ต้องกลับมาลุ้นท็อปโฟร์ตามเดิม ยังความกดดันอย่างสูงมาสู่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้เป็นกุนซือในขณะนี้
นอกจากผลงานที่ดำดิ่งแล้ว องค์ประกอบภายในทีมก็เป็นอีกปัจจัยที่ บิลด์ มองว่า ทูเคิล เหมาะสมกับการเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่ แลมพาร์ด เนื่องด้วยภายในทีมมีดาวเตะทีมชาติเยอรมนีอย่าง ไค ฮาเวิร์ตซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ ซึ่งทั้งคู่กำลังประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนัก โดยเฉพาะอดีตกองหน้า ไลป์ซิก ที่เพิ่งโดนกุนซือหนุ่มของตัวเองวิจารณ์ออกสื่อเรื่องความไม่ทุ่มเทหลังจบเกมที่พ่าย อาร์เซนอล 3-1 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน
และผลเสมอกับ แอสตัน วิลลา ในเกมล่าสุดแม้จะช่วยให้ทีมหยุดความพ่ายแพ้ได้ แต่พวกเขาก็ต้องร่วงลงอยู่อันดับ 6 ของตาราง มี 26 คะแนนจากการลงเล่น 16 นัด ดังนั้นสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่เป็นเรื่องที่ดีนักต่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด และหากว่าเขายังไม่สามารถกอบกู้ทีมให้กลับมาติด 1 ใน 4 ได้ในช่วงปีใหม่ก็คาดว่า ทูเคิล จะได้เข้ามาทำหน้าที่นี้แทนในช่วงครึ่งซีซันหลัง
กุนซือวัย 47 ปีสร้างชื่อจากการคุม ไมน์ซ และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ใน บุนเดสลีกา เรียกว่าก็อปปี้เส้นทางการเป็นเทรนเนอร์มาจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ แบบเป๊ะ ๆ ผิดกันที่เขาไม่สามารถพา เสือเหลือง โค่นบัลลังก์ บาเยิร์น มิวนิค เหมือนอย่างที่นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ทำได้แค่นั้น
แต่สำหรับประสบการณ์ 2 ปีครึ่งที่ ปาร์ก เดอ แปรงส์ กับการพาทีมคว้าแชมป์ ลีกเอิง 2 ปีติดต่อกันและเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก โดยเคยเป็นผู้นำทัพดาวเตะฝีเท้าก้องโลกอย่าง เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เอดิสสัน คาวานี มาแล้ว น่าจะเป็นคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเข้ามาทำงานกับทีมที่เต็มไปด้วยความกดดันอย่าง เชลซี ซึ่งจะว่าไปองค์ประกอบก็แทบไม่ต่างกับ เปแอสช อดีตทีมเก่าซักเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามต้องรอดูว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด จะสามารถกู้สถานการณ์ของ สิงห์บลู ให้กลับมายืนแลกหมัดกับบรรดาท็อปทีมได้หรือไม่ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า “เสี่ยหมี” ไม่ใช่เจ้าของทีมที่รออะไรได้นาน ๆ และเขาพร้อมจะเปลี่ยนผู้จัดการทีมหากว่าทำผลงานไม่ได้ดั่งใจ
ดังนั้นเกมที่จะต้องเปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 3 มกราคมนี้ จึงจะไม่ใช่เกมแย่งชิงพื้นที่ท็อปโฟร์เท่านั้น แต่มันคือเกมที่อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็เป็นได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด