[OPINION] จอห์น สโตนส์ : ตัวเลือกที่ตอบโจทย์เกมรับของ เชลซี ?
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
การบ้านสำคัญของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในการลุย พรีเมียร์ลีก ซีซันที่ 2 กับสโมสร เชลซี ก็คือการเสริมแผงหลังให้แกร่งขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่พาทีมคว้าอันดับ 4 ไปเล่น ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
คงไม่ต้องถามกันว่าทำไมต้องเน้นไปที่แผงกองหลัง เพราะเมื่อเหลือบไปมองสถิติบนตารางจะพบว่า เกมรับของพวกเขานั้นเปื่อยยุ่ยยิ่งกว่าทิชชู่เปียกน้ำ โดยเสียไปถึง 54 ประตู มากที่สุดในบรรดาทีมท็อปซิกด้วยกัน และยังเป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดในท็อป 10 ของตารางอีกด้วย
ในฤดูกาลที่ผ่านมาหลายต่อหลายครั้งที่เกมรุกของทีม สิงห์บลู สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับคู่แข่ง แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ต้องมาพังทลายลงเพราะความผิดพลาดของกองหลังจนทำให้ทีมเกือบจะไม่ได้ไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก
'ซุปเปอร์แฟรงค์' นั้นรู้ดีว่าเขาต้องทำอย่างไรเพื่อให้ทีมกลับมามีลุ้นความสำเร็จอีกครั้ง การเสริมเกมรุกอย่าง ฮาคิม ซิเย็ค และ ติโม แวร์เวนอร์ เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็คนี้ แต่ครั้นจะไปพึ่งพา เคิร์ท ซูมา หรือ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ในการดูแลเกมรับก็เกรงว่าผลงานก็จะย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหนซักที
ว่าแล้วจึงมีข่าวปรากฎออกมาว่าพวกเขาพร้อมทุ่มเงินจำนวน 40 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว ลูอิส ดังค์ ปราการหลังของ ไบรท์ตัน ที่เคยติดทีมชาติอังกฤษไปหนเดียวมาประจำการในแดนหลัง หลังจากที่โชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับเจ้านกนางนวลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ยังไม่พอแค่นั้น เดลีเมล สื่อดังเมืองผู้ดียังได้พูดถึงการให้ความสนใจในตัวของ จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์แบ็คผู้ถูกลืมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยระบุว่า นอกจากจะกำลังได้ตัว ดังค์ แล้ว สิงโตน้ำเงินคราม กะจะรวบ 'เจ้าหิน' นี่ไปด้วย
กองหลังทีมชาติอังกฤษชุดฟุตบอลโลก 2018 ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มายัง แมนฯ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 ตอนนั้นถือว่าเป็นกองหลังความหวังใหม่ของชนชาติสิงโตคำรามโดยแท้ จากการทำผลงานเปรี้ยงปร้างในถิ่น กูดิสันปาร์ค ทำเอา เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องสะกิดบอร์ดบริหารให้เอาธนบัตรไปห่อหุ้มมาร่วมทีม
อย่างไรก็ตามหลังจบฟุตบอลโลกก็ดูเหมือนว่า สโตนส์ จะโดน 'ของเข้า' ด้วยการเจอกับอาการบาดเจ็บหนักจนทำให้หมดสิทธิลงสนามไปหลายเดือน และเมื่อกลับมาอีกครั้งฟอร์มการเล่นและผลงานก็ตกต่ำดำดิ่งกลายเป็นอีกคนไปซะอย่างนั้น
โดยเฉพาะในซีซัน 2019-2020 ที่ผ่านมา กองหลังอายุ 26 ปี กลายเป็นตัวเลือกลำดับท้าย ๆ ของนายใหญ่ชาวคาตาลัน และสิ่งที่ตอกย้ำว่า เป๊ป ไม่เอา สโตนส์ แล้วก็คือ เขาไปดึงเอา แฟร์นันดินโญ กองกลางเก๋าประสบการณ์ลงยืนคู่กับ นิโกลาส์ โอตาเมนดี้ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเมื่อครั้งที่ อายเมอริค ลาปอร์ก ได้รับบาดเจ็บหนัก และปล่อยให้อดีตเซ่็นเตอร์ ท็อฟฟีบลูส์ ต้องนั่งรอโอกาสข้างสนาม
ยิ่งเมื่อ พรีเมียร์ลีก กลับมาลงเตะกันอีกครั้งหลังล็อคดาวน์ไปเกือบ 3 เดือน เราก็แทบไม่ได้เห็น สโตนส์ อีกเลย เพราะ เป๊ป หันไปดันเจ้าหนู เอริค การ์เซีย กองหลังดาวรุ่งที่ไปสอยมาจาก ลามาเซีย ของ บาร์เซโลนา ขึ้นมาใช้งานในแผงหลังแทนจนจบฤดูกาล
นั่นจึงทำให้อนาคตของกองหลังทีมชาติอังกฤษดูมืดมน แต่ก็ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเป้าหมายของหลาย ๆ ทีมในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์ รวมถึง เชลซี ด้วยเช่นกัน
การเสียประตูถึง 54 ลูกจากการลงสนาม 38 นัดใน พรีเมียร์ลีก หากเป็นทีมระดับกลางถึงท้ายตารางก็คงไมใช่เรื่องน่าตกใจ แต่นี่คือ เชลซี ทีมที่อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับบิ๊กและลุ้นความสำเร็จทุกปี เรื่องแบบนี้จึงไม่สามารถให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ได้ ว่าแล้วพวกเขาก็ต้องการทั้ง ลูอิส ดังค์ และกำลังสนใจนำ จอห์น สโตนส์ มาชุบตัวที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
แม้ว่าจะต้องตกเป็นตัวสำรองใน แมนฯ ซิตี้ แต่ เดลีเมล ก็มองว่า หากทีม สิงห์บลู ได้ตัว สโตนส์ เข้ามาเสริมเกมรับก็นับว่าเป็นการซื้อที่ชาญฉลาดอย่างมาก และเมื่อรวมกับการได้ตัว ดังค์ มาร่วมทีมก็จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้เกมรับได้มากขึ้น เพราะกองหลัง ไบรท์ตัน นั้นมีตำแหน่งเป็นถึงกัปตันทีมซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมีความเป็นผู้นำสูง รวมไปถึงความสามารถในการจัดระเบียบเกมรับ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ขาดหายไปในแผงหลังของ แลมพาร์ด
ส่วนความโดดเด่นของเซ็นเตอร์ทีม เรือใบสีฟ้า นั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่กองหลังสไตล์ดุดัน ถึงลูกถึงคน แต่คุณลักษณะพิเศษก็คือการสามารถเซ็ตเกมจากแดนหลังด้วยความสามารถในการผ่านบอลชั้นเลิศ ซึ่งสิ่งนี้ก็หาไม่เจอในบรรดากองหลังของ เชลซี เหมือนกัน
ทราบกันดีว่าสไตล์การทำทีมของกุนซือหนุ่มวัย 41 ปีนั้นคล้าย ๆ กับหลายทีมใน พรีเมียร์ลีก นั่นคือการขึ้นเกมจากแดนหลัง ค่อย ๆ เซ็ตเกมด้วยการผ่านบอลเรียด และเน้นการครองบอล ดังนั้นการเล่นบอลกับเท้าได้ดีและการผ่านบอลที่แม่นยำของ สโตนส์ จึงตอบโจทย์แผนนี้อย่างมาก
เป็นไปได้ว่าหาก เชลซี สามารถช่วยให้กองหลังทีมชาติอังกฤษกลับมามีความมั่นใจได้อีกครั้ง อาจจะทำให้พวกเขาสามารถลดช่องว่างกับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงได้ และมีลุ้นเป็นแชมป์ซักรายการในซีซันหน้าด้วย
ด้วยค่าตัวเพียง 20 ล้านปอนด์ ของแบบนี้ถือว่าถูกเหมือนได้ฟรีอีกต่างหาก
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด