อยู่เป็นตำนานไร้มงกุฎ หรือ ชิงย้ายเพื่อแชมป์ ทางเลือกที่ต้องตัดสินใจของ แฮร์รี เคน - OPINION
โดย Navapun Munarsa
ตอนนี้ แฮร์รี่ เคน หัวหอกทีมชาติอังกฤษของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีรุ่นพี่ 2 รายอย่าง อลัน เชียร์เรอร์ และ เวย์น รูนี่ย์ เท่านั้น ที่มีสถิติทำประตูในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีได้มากกว่า
เคน ซัดใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 200 ประตู ตามหลัง รูนี่ย์ (208 ประตู) และ เชียร์เรอร์ (260 ประตู) โดย รูนี่ย์ ย้ายออกจาก เอฟเวอร์ตัน ไปประสบความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วน เชียร์เรอร์ เคยคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก่อนจะไปเป็นตำนานของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
อย่างไรก็ตาม เคน ในวัย 29 ปี ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพนักฟุตบอลนั้น ยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยแม้แต่รายการเดียว และนั่นทำให้เจ้าตัวต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่า จะเลือกทางเดินไปทางไหนหลังจากสัญญาฉบับปัจจุบันกับ สเปอร์ส เหลือจนถึงปี 2024 เท่านั้น
เคน เป็นลูกหม้อขนานแท้ของ สเปอร์ส ซึ่งแจ้งเกิดอย่างจริงจังในปี 2014 จนตอนนี้กลายมาเป็นกัปตันทีมคนปัจจุบันของ “ไก่เดือยทอง” และเพิ่งทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ จิมมี่ กริฟส์ ตำนานสโมสรได้สำเร็จด้วยจำนวน 283 ประตู
เชียร์เรอร์ ซึ่งเคยมีข่าวว่าจะย้ายจาก แบล็คเบิร์น ไปยัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนลงเอยกับ นิวคาสเซิ่ลแสดงความคิดเห็นว่า “สำหรับผมไม่มีวันใดที่มองย้อนกลับไปในอาชีพของตัวเอง และบอกว่า ผมอยากไป แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะผมจะคว้าแชมป์ได้มากมาย”
“แฮร์รี่ สร้างสถิติที่ ท็อตแนม แล้ว และจะมีรูปปั้นของเขาแน่นอน เขาจะสร้างสถิติกับทีมชาติอังกฤษด้วย และอาจมีรูปปั้นที่สนาม เวมบลีย์ และมีโอกาสดีที่จะทำลายสถิติ พรีเมียร์ลีก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นคือรางวัลของเขา”
“เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ทำแบบนั้นได้ ถ้าเขาพูดได้ว่า ฉันเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ฉันมีสถิติทั้งหมด ฉันอาจไม่มีถ้วยรางวัล แต่ฉันมีความสุข นั่นก็ไม่มีปัญหาเลย”
เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เคน ประกาศขอย้ายออกจาก สเปอร์ส เนื่องจากอยากคว้าแชมป์ก่อนแขวนสตั๊ด แต่สุดท้ายการเจรจากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่สำเร็จ และทำให้เจ้าตัวต้องค้าแข้งอยู่กับ “ไก่เดือยทอง” ต่อไป
อย่างไรก็ตาม จุดพลิกผันอาจเกิดขึ้นในซัมเมอร์นี้ หาก สเปอร์ส ไม่ได้โควต้าไปเล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปีหน้า และ เคน เหลือสัญญาเพียงปีเดียว ซึ่งทำให้โอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องแยกทางกันนั้น มีค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ข่าวดีสำหรับ สเปอร์ส คือ แมนฯ ซิตี้ มี เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยืนเป็นกองหน้าตัวจริงแล้ว และไม่มีทางที่จะหวนกลับมาหา เคน อีกครั้ง ขณะที่ เชลซี ก็ได้ตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก เรียบร้อยแล้ว
ลิเวอร์พูล ทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสร 85 ล้านปอนด์ในการคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ มาจาก เบนฟิก้า เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และหลังจากนั้นก็ทุ่มเงินอีกราว 40 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญากับ โคดี กัคโป มากจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทางเลือกที่เป็นไปได้สำหรับ เคน พอสมควร และบางทีอาจรวมถึง บาเยิร์น มิวนิค ที่กำลังมองหาศูนย์หน้ารายใหม่เข้ามารับช่วงต่อจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกชาวโปแลนนด์ที่อายุเริ่มมากขึ้น
รูนีย์ เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับ เคน หลังย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยสามารถคว้าแชมป์ร่วมกับ “ปีศาจแดง” ได้มากมายอาทิ แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 4 สมัย, ยูโรป้า ลีก 1 สมัย และสโมสรโลก 1 สมัย ก่อนจะกลับไปยัง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ในฐานะตำนาน
เคน จำเป็นต้องเลือกทางเดินของตัวเองครั้งสำคัญหลังจากจบฤดูกาลนี้ และไม่ว่าเจ้าตัวจะตัดสินใจอย่างไร แฟนบอล สเปอร์ส คงไม่มีใครกล้าตำหนิการตัดสินใจของตำนานคนนี้อย่างนแน่นอน
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด