เบื้องหลังความล้มเหลวของ เซาแธมป์ตัน กับการตกชั้นครั้งแรกในรอบ 11 ปีของสโมสร - OPINION

Southampton FC v Fulham FC - Premier League
Southampton FC v Fulham FC - Premier League / Charlie Crowhurst/GettyImages
facebooktwitterreddit

หลังจากที่ เซาแธมป์ตัน เปิดสนาม เซนต์ แมร์รี่ พ่ายให้กับ ฟูแล่ม 0-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้พลพรรค “นักบุญ” กลายเป็นทีมแรกที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการในฤดูกาลนี้ และมันเป็นการจบเส้นทางในลีกสูงสุดที่ยาวนานกว่า 11 ปี ของพวกเขาอีกด้วย 

เจมส์ วอร์ด-พราวส์ กัปตันทีมที่เติบโตมาจากอคาเดมี่ของ เซาแธมป์ตัน เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่สามารถช่วยให้ต้นสังกัดอยู่รอดได้สำเร็จ แต่ก็ยอมรับด้วยว่า มันเป็นเพราะความไม่สม่ำเสมอของ “นักบุญ” ที่เป็นเหตุผลสำคัญทำให้ต้องหล่นไปเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ซีซันหน้า

James Ward-Prowse
Southampton FC v Fulham FC - Premier League / Charlie Crowhurst/GettyImages

กองกลางวัย 28 ปี กล่าวว่า “ตั้งแต่วันแรกของปรีซีซั่นจนถึงตอนนี้ คุณสามารถบอกได้เลยว่ามาตรฐานของสโมสรตกต่ำลง เราต้องไปวิเคราะห์กันทั้งในฐานะบุคคล และในฐานะสโมสร และประเมินว่า เราได้ทำทุกอย่างที่ทำได้หรือยัง ผมไม่คิดว่าเราทำได้ และนั่นเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย”

เซาแธมป์ตัน ตัดสินใจปลด ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิล ออกจากตำแหน่งกุนซือเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา และแต่งตั้ง นาธาน โจนส์ ให้เข้ามาทำงานแทน แต่ก็อยู่ได้เพียง 3 เดือน จากนั้น รูเบน เซเลส ก็เข้ามารับช่วงต่อ

วอร์ด-พราวส์ กล่าวต่อว่า “ผมคิดว่าในฐานะทีม และสโมสรโดยรวม เราจะนึกถึงฤดูกาลที่ผ่านไปว่า เราตัดสินใจถูกต้องแล้วหรือยัง? เราทำทุกอย่างที่ทำได้ในสนามแล้วหรือยัง? ผมคิดว่าเราควรทำผลงานในระดับที่ดีกว่าที่เราเคยทำมา”

“ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ผมได้เห็นการเดินทางของสโมสรทั้งขาขึ้นและชาลง ช่วงเวลาที่ดี และไม่ดี และนี่คือช่วงเวลาที่เลวร้าย แต่ผมมั่นใจว่า สโมสรจะกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก ได้ในไม่ช้า มันจะเป็นช่วงเวลาทดสอบสำหรับทุกคน แต่สโมสรเคยผ่านมันมาได้เแล้ว และผมมั่นใจว่าเราจะทำมันอีกครั้ง”

ขณะเดียวกัน มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง อาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันรับบทกูรูแสดงความคิดเห็นว่า  เซาแธมป์ตัน อาจต้องใช้เวลานานพอสมควรในการเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง แม้ “นักบุญ” จะเป็นทีมที่ดีเพียงใดก็ตาม

 คีโอว์น กล่าวว่า “มันเป็นสถิติที่น่าภาคภูมิใจสำหรับ เซาแธมป์ตัน ที่นำนักเตะพรสวรรค์เข้าสู่อคาเดมีได้อยู่เสมอ แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ พวกเขาอาจต้องเคลียร์ทีมครั้งใหญ่ คุณดูทีมที่กลับมาจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พวกเขามีแกนหลัก และอะไรคือแกนหลักของ เซาแธมป์ตัน ชุดนี้”

“เจมส์ วอร์ด-พราวส์ จะอยู่ต่อกับทีมต่อหรือไม่? มันจะเป็นเรื่องยากจริงๆ มีเกมมากมายใน แชมเปี้ยนชิพ และมันจะเป็นฤดูกาลที่ยากที่สุดของ เซาแธมป์ตัน พวกเขาจะต้องเรียกสมาธิกลับมาโดยเร็วที่สุดหลังการตกขั้นครั้งนี้” 

James Ward-Prowse, Rubén Sellés
Southampton v Sheffield Wednesday - Carabao Cup Third Round / Robin Jones/GettyImages

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามหาคนรับผิดชอบในการที่ทำให้ เซาแธมป์ตัน ต้องตกชั้น เซเลส ก็ออกมายอมรับว่า เขาเป็นส่วนหนึ่งในความล้มเหลวของ “นักบุญ” เช่นกัน หลังถูกดันขึ้นมาจากตำแหน่งมือขวาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เซาแธมป์ตัน ชนะได้ 2 จาก 3 เกมแรกที่ เซเลส คุมทีม แต่แล้วพวกเขาก็พ่ายไปถึง 8 จาก 11 เกมหลังสุด และก็ต้องตกชั้น โดยโค้ชชาวสเปน วัย 39 ปี ยืนยันว่า จะไม่แก้ตัวกับผลงานอันย่ำแย่ของทีมแต่อย่างใด

 เซเลส กล่าวว่า "ผมจะไม่แก้ตัวใดๆทั้งมิ้น ตอนที่ผมเข้ามาคุมทีม ผมมั่นใจว่าจะทำให้ทีมนี้รอดตกชั้นได้ และผมทำไม่ได้ และผมเป็นคนแรกที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ตั้งแต่เริ่มต้น ผมคิดว่าเราทำได้ ดังนั้น ถ้าใครต้องรับผิดชอบในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ก็ต้องเป็นผม”

“มันไม่ได้มีเพียงเหตุผลเดียว สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถทำได้ระหว่างฤดูกาลคือ ความสามัคคีที่มากพอ และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ความล้มเหลวครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ผู้เล่นคนเดียวหรือโค้ชคนเดียว แต่มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งทีม สโมสรนี้มีคุณภาพเพียงพอที่จะกลับมาทันทีไม่ว่าจะมีหรือไม่มีผมก็ตาม”

สำหรับแฟนบอล เซาแธมป์ตัน มันเป็นปีที่น่าเศร้าใจที่ทีมรักต้องตกชั้น แต่บางทีการถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าวเพื่อกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมนั้น ก็อาจทำให้พวกเขาอยู่ในลีกสูงสุดยาวนานกว่า 11 ปีที่ผ่านมาก็ได้