ราฮีม สเตอร์ลิง ในวันที่ไม่ใช่คนโปรดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา - OPINION

Borussia Dortmund v Manchester City  - UEFA Champions League Quarter Final 1: Leg Two
Borussia Dortmund v Manchester City - UEFA Champions League Quarter Final 1: Leg Two / Pool/Getty Images
facebooktwitterreddit

นับตั้งแต่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปค้าแข้งในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวประมาณ 50 ล้านปอนด์ ราฮีม สเตอร์ลิง ก็เติบโตจาก "เจ้าหนูมหัศจรรย์" กลายเป็นปีกจอมถล่มประตูภายใต้สีเสื้อของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนทุกวันนี้

ย่างเข้าปี 2016 ที่ เปีป กวาร์ดิโอลา เข้ามารับงานคุมทีม กองหน้าตัวริมเส้นวัย 26 ปีกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่นายใหญ่ เดอะสกายบลูส์ ไว้เนื้อเชื่อใจ ซึ่งเจ้าตัวมักจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงอย่างต่อเนื่องรวมทั้งเป็นคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างคงเส้นคงวามากที่สุด

อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้ว่านับตั้งแต่เปิดซีซันมา สเตอร์ลิง จะยิงไปแล้ว 13 ประตูและทำได้ 11 แอสซิสต์ในทุกรายการ แต่เขากลับต้องพบตัวเองอยู่บนม้านั่งสำรอง นั่งมอง ฟิล โฟเด้น ดาวเตะรุ่นน้องลงวาดลวดลายในตำแหน่งของตน โดยเขาได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียง 3 เกมจาก 9 นัดหลังสุดในทุกรายการ

กลายเป็นเจ้าหนูวัย 20 ปีที่ยิ่งเล่นยิ่งดีและได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากบรรดากูรูทั่วทุกสารทิศ แม้แต่ตัว เป๊ป เองก็อดหลงไหลได้ปลื้มกับดาวรุ่งที่เขาเฝ้าฟูมฟักรายนี้ไม่ได้ ต่างจากอดีตสตาร์ หงส์แดง ที่หาฟอร์มเก่งไม่เจอเลยไม่ช่วงหลัง

Phil Foden
Manchester City v Chelsea: Emirates FA Cup Semi Final / Chloe Knott - Danehouse/Getty Images

ฟอร์มของอดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล ค่อย ๆ ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ถึงขนาดที่ว่าในเกมที่บุกเอาชนะ ฟูแลม 3-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม เป๊ป ไม่ใส่ชื่อของ สเตอร์ลิง แม้กระทั่งบนม้านั่งสำรองด้วยซ้ำ ทำให้มีข่าวว่าเจ้าตัวถึงกับเดือดและไม่พอใจอย่างมาก จนนักข่าวเอาเปิดประเด็นว่าอาจจะมีปัญหาไม่กินเส้นกันระหว่างกุนซือกับผู้เล่น ร้อนถึง เป๊ป ต้องออกมาสยบข่าวลือและยืนยันว่า ราฮีม ยังคงเป็นนักเตะสำคัญของทีม และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นจะไม่มีความสุขเมื่อไม่ได้ลงสนาม

และอีกครั้งก่อนเกมที่ แมนฯ ซิตี้ จะลงสนามพบกับ เชลซี ในศึก เอฟเอคัพ รอบเซมิไฟนอลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายใหญ่ชาวคาตาลัน ก็ต้องมาตอบคำถามนักข่าวในเรื่องนี้ โดยเขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่า สเตอร์ลิง ยังเป็นผู้เล่นคนสำคัญและเขาต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเองและแย่งตำแหน่งกลับมาให้ได้

"เหตุผลที่เขาได้ลงเล่นน้อยในช่วงหลัง เพราะเรามี กาเบรียล เชซุส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟิล โฟเด้น และ ริยาด มาห์เรซ พวกเขาเหล่านี้คือผู้เล่นระดับท็อปและยิงประตูได้ดีในพื้นที่สุดท้าย ดังนั้นเขา (สเตอร์ลิง) ต้องมีความมั่นใจ พวกเราเชื่อมั่นในตัวเขา เขาจะต้องค้นหามันให้พบ เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพในตัวเองอยู่แล้ว ผมไม่สามารถจะถ่ายทอดเรื่องความมั่นใจให้กับพวกเขาได้"

"ผมพูดมาหลายครั้งว่าการที่เราประสบความสำเร็จในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การได้แชมป์มากมายและทำลายสถิติต่าง ๆ เรามี ราฮีม เป็นกุญแจสำคัญ เขาเคยเป็นผู้เล่นที่สำคัญและยังคงเป้นนักเตะคนสำคัญของเรา แต่ตอนนี้ ฟิล และ ริยาด กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีมาก"

Borussia Dortmund v Manchester City  - UEFA Champions League Quarter Final 1: Leg Two
Borussia Dortmund v Manchester City - UEFA Champions League Quarter Final 1: Leg Two / Mika Volkmann/Getty Images

แม้ เป๊บ จะยืนยันว่านักเตะยังคงสำคัญกับทีมก็ตาม แต่เขาก็ยอมรับกลาย ๆ ว่า สเตอร์ลิง กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นและความมั่นใจจริง ๆ และการไม่ใช้งานเขาในช่วงหลังย่อมเป็นเครื่องการันตีได้ดี

นอกจากนั้นดูเหมือนว่าปัญหาของปีกวัย 26 ปีจะไม่ได้ส่งผลเฉพาะการลงเล่นให้กับสโมสรเท่านั้น ในนามของทีมชาติอังกฤษซึ่งกำลังจะมีทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ในช่วงซัมเมอร์อย่าง ยูโร 2020 อาการฟอร์มหล่นของปีก แมนฯ ซิตี้ ก็อาจกระทบต่อทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เช่นกัน

โทนี คาสคาริโน อดีตกองหน้าของ เชลซี ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้เอาไว้ โดยเขาเชื่อว่าปัญหา สเตอร์ลิง จะทำให้ทีมสิงโตคำรามขาดอาวุธที่สำคัญในแดนหน้า และทำให้ทีมไปไม่ถึงดวงดาวดังที่ตั้งใจไว้

"ราฮีม จะต้องรีบหาจุดเปลี่ยนเพื่อคืนฟอร์มเก่งให้ได้ เขาไม่ได้ออกสตาร์ทในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบควอเตอร์ไฟนอล ดังนั้นในตอนนี้เขาไม่ใช่ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา แล้ว ซึ่งมันไม่ได้ส่งผลดีต่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต เหมือนกัน เพราะเขาต้องการ ราฮีม ที่ฟอร์มดีที่สุดมากกว่าที่ เป๊ป ต้องการ"

Raheem Sterling
England v Poland - FIFA World Cup 2022 Qatar Qualifier / Sebastian Frej/MB Media/Getty Images

"แกเร็ธ ไม่ได้มีนักเตะฝั่งซ้ายที่เก่งกาจขนาดนั้น คุณอาจจะบอกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด สามารถเล่นตรงนั้นได้และ แจ็ค กรีลิช ก็เล่นในตำแหน่งนี้ให้กับ แอสตัน วิลลา อยู่แล้ว แต่เขาคือตัวผ่านบอล เขาไม่มีความเร็วเหมือนกับ สเตอร์ลิง และไม่สามารถสนับสนุนทีมได้ดีพอ"

"นี่คืองานยากสำหรับเขาในฟุตบอล ยูโร ครั้งนี้ เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้ลงเล่นใน ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเซมิไฟนอลหรือไม่ ซึ่งมันจะเป็นเกมใหญ่ที่เขาจะไม่ได้ลงสนามอีกครั้ง"

แม้ว่าในเวลาต่อมา สเตอร์ลิง จะได้รับโอกาสในการออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในศึก เอฟเอคัพ รอบเซมิไฟนอลที่พบกับ เชลซี เมื่อคืนวันเสาร์ แต่เขาก็ไม่สามารถช่วยทีมให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ โดยพ่ายไป 1-0 และยังคงหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจออีกเกม

ท้ายที่สุดแล้วดูเหมือนว่า 9 นัดในทุกรายการที่เหลือจะไม่ใช่แค่โค้งสุดท้ายของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น แต่ยังเป็นโค้งสุดท้ายของ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ได้ก่อนปิดฤดูกาล เพื่อการันตีสถานภาพในทีมชาติและอนาคตกับทีม เรือใบสีฟ้า ในซีซันหน้าต่อไป


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด