[OPINION] โธมัส ทูเคิล : เหยื่อรายต่อไปของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง?
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
เขาคือหนึ่งในกุนซือรุ่นใหม่ไฟแรงที่ได้รับการจับตามองไปทั่วยุโรป หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งให้สานต่อความสำเร็จที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์
เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมของ โธมัส ทูเคิล นั้นแทบจะถอดแบบมาจากกุนซือ หงส์แดง เป๊ะ ๆ ด้วยการสร้างชื่อจาก ไมนซ์ 05 และก้าวขึ้นมาคุมทีมใหญ่อย่าง ดอร์ทมุนด์ ในเวลาต่อมา
แต่ความฝันกับความจริงนั้นไม่ได้สอดคล้องต้องกันเสมอไป ผลงานกับ เสือเหลือง อาจจะไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับที่ คล็อปป์ เคยทำไว้ ผู้จัดการทีมหนุ่มทำได้เพียงการคว้าฟุตบอลถ้วย เดเอฟเบ โพคาล มาครองเมื่อปี 2017 เท่านั้น
เมื่อเจาะลึกลงไปถึงชีวิตโดยรวมในถิ่น เสือเหลือง ก็มิได้สวยหรูอย่างที่หวัง แม้ปีแรกจะทำผลงานได้ดีพาทีมยิงไป 140 ประตูในทุกรายการและเป็นรองแชมป์ บุนเดสลีกา แต่ปีที่สองก็มีเรื่องขัดแย้งกับสตาฟฟ์ แฟนบอลตัวเอง และบอร์ดบริหาร ซึ่งแม้จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้ แต่ด้วยการที่เป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ เจ้าตัวก็ประกาศลาออกแบบสุดช็อคหลังชูถ้วยเพียง 3 วัน
จากนั้นชื่อของ ทูเคิล ก็กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมที่ทั้งยุโรปอยากได้ตัว ก่อนที่ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล-ทานี เจ้าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะยื่นข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธได้ให้เขาย้ายมานั่งเก้าอี้กุนซือต่อจาก อูไน เอเมรี ในปี 2018
เป็นที่ทราบกันดีว่าเป้าหมายของยักษ์ใหญ่ ลีกเอิง รายนี้คือการคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยแรกให้กับสโมสรให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็พร้อมสนับสนุนผู้เป็นกุนซืออย่างเต็มที่ด้วยการมีทั้งทรัพยากรนักเตะระดับเวิลด์คลาสใพร้อมใช้และยังมีเงินทุนที่สามารถซื้อใครก็ได้บนโลกหากต้องการ
แต่ดูเหมือนว่า ทูเคิล จะโดนตั้งคำถามเมื่อจบซีซันแรกที่ ปาร์ค เดอ แปรงส์ เมื่อเขาทำได้เพียงคว้าแชมป์ ลีกเอิง และพ่ายในนัดชิงฟุตบอลถ้วยสองรายการ พร้อมด้วยการตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการพ่ายคาบ้านในเลก 2 ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แม้หลายคนมองว่าชะตาของผู้จัดการทีมเมืองเบียร์น่าจะไม่ต่างกับ อูไน เอเมรี แต่สโมสรก็ยังใจดียื่นสัญญาฉบับใหม่ให้อีก 2 ปีในช่วงซัมเมอร์ ทำให้เขายังได้พิสูจน์ฝีมือกับทีมจนถึงปี 2021
อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ล่าสุดดูเหมือนว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะให้โอกาส โธมัส ทูเคิล อีกแค่ปีเดียวตามที่ระบุในสัญญา แม้ว่าเขาจะพาสโมสรเป็นแชมป์ ลีกเอิง ได้อีกครั้งหลังการประกาศยกเลิกโปรแกรมการแข่งขันที่เหลืเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยคนที่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องนี้ก็คือ เลโอนาร์โด้ อดีตกองกลางชื่อดังของสโมสรในยุค 90 ซึ่งเข้ามารับหน้าที่ผู้อำนวยการด้านกีฬาเป็นหนที่สองตั้งแต่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
อดีตดาวเตะของ เอซี มิลาน และทีมชาติบราซิลมีโปรเจ็คมากมายเต็มหัวซึ่งเป้าหมายก็คือ การพาทีมจากเมืองหลวงก้าวไปถึงฝั่งฝันด้วยการเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกให้ได้ และสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำมากที่สุดก็คือ การสรรหาผู้จัดการทีมที่มีดีกรีและฝีมือมาทำทีม
ทูเคิล นั้นก็รู้ดีในเรื่องนี้และเขาก็รู้อีกว่าเก้าอี้ของตัวเองไม่ได้มั่นคงถาวรอีกต่อไปเพราะ เลโอนาร์โด้ ไม่ได้เป็นคนเลือกเขามาเป็นผู้จัดการทีม
ดังนั้นปัจจัยเดียวที่จะทำให้เก้าอี้ของอดีตกุนซือ ดอร์ทมุนด์ ยังคงแข็งแรงก็คือ เขาต้องพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้
ตอนนี้ ทูเคิล พา เปแอชเช ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นที่เรียบร้อยด้วยการปราบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมเก่าของตนก่อนที่จะหยุดแข่งเพราะโรคระบาด ซึ่งการเข้ารอบครั้งนี้ถือเป็นการได้ผ่านเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีเลยทีเดียว
แชมป์ ลีกเอิง นั้นจัดว่าเป็นทีมที่มีสถิติในการเล่นถ้วยใบใหญ่ของยุโรปที่น่าตกใจ เพราะพวกเขายังไม่เคยผ่านเข้าไปเล่นในรอบเซมิไฟนอลได้เลยในช่วง 8 ปีหลังสุด โดยไปได้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย 5 ครั้งและรอบ 16 ทีมสุดท้าย 3 ครั้งเท่านั้น
การที่ ทูเคิล พาทีมกลับไปเข้าสู่รอบควอเตอร์ได้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ซึ่งปีนี้ก็ดูจะมีสิทธิไม่น้อยที่จะผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการเล่นในลีกแล้ว ทำให้นักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์ในทีมอย่าง เนย์มาร์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เมาโร อิคาร์ดี้ ได้พักกันอย่างเต็มที่
เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่ เลโอนาร์โด้ ทำได้ ก็คือการหนุนหลังผู้จัดการทีมของพวกเขาอย่างเต็มที่เพื่อไปให้สุดขอบฟ้า ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะกลายเป็นการสร้างประวัศาสตร์ให้กับสโมสรก็ได้
แต่หากยังก้าวไม่พ้นรอบควอเตอร์ไฟนอล ผู้อำนวยการชาวบราซิลเลียนก็คงจะได้ลงมือเริ่มโปรเจ็คของเขาอย่างเต็มที่เสียที
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด