[OPINION] โอกาสสุดท้ายของเพลย์เมคเกอร์ที่ชื่อ เมซุต เออซิล
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
เมื่อเดือนที่แล้วหนึ่งในข่าวใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก ที่กลายเป็นที่สนใจของบรรดาแฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะกับแฟนบอลของ อาร์เซนอล นั่นคือการที่ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจตัดชื่อของ เมซุต เออซิล เพลย์เมคเกอร์จอมเก๋าค่าเหนื่อยแพงออกจากทีมชุุดลุย ยูฟา ยูโรป้าลีก รวมทั้งการแข่งขันภายในประเทศในซีซันนี้
นั่นหมายความว่าอนาคตของอดีตนักเตะชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นั้นจบลงอย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว
จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์ซักเท่าไหร่เพราะกองกลางสัญชาติเยอรมันไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ เดอะกันเนอร์ส มาตั้งแต่ปลายซีซันที่ฟุตบอลกลับมาลงสนามันอีกครั้งภายใต้โปรเจ็ค “รีสตาร์ท”
แม้ว่าตอนที่ อาร์เตต้า ตกลงรับงานคุมทีม ปืนโต เมื่อช่วงปลายปีก่อนเขาจะให้โอกาส เออซิล ได้กลับมาสู่ทีมอีกครั้งและพยายามช่วยให้ปรับตัวเข้ากับระบบใหม่และปรัชญาใหม่ แต่สิ่งเหล่านั้นมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย จนกระทั่งนายใหญ่ชาวสแปนิชรู้แล้วว่าเขาต้องขับเคลื่อนทีมต่อไปโดยไร้ชื่อของมิดฟิลด์วัย 32 ปี
นี่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับ เออซิล ทั้ง ๆ ที่เมื่อตอนเริ่มต้นค้าแข้งกับ อาร์เซนอล เจ้าตัวถือเป็นนักเตะที่เป็นหัวใจหลักในเกมรุกด้วยดีกรีที่ไม่ธรรมดาเพราะผ่านงานระดับแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด และเป็นแชมป์โลกกับทีมชาติเยอรมนีมาแล้ว
แต่อดีตมันก็คืออดีต
อย่างไรก็ตามด้วยสภาพและฟอร์มการเล่นของ เดอะกันเนอร์ส ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายของชายที่ชื่อ เมซุต เออซิล ก็เป็นได้
จากผลงานที่ผ่านมา 8 เกมแรกดูเหมือนว่า อาร์เซนอล จะยังไม่ลงตัวกันซักเท่าไหร่ อาการ 3 วันดี 4 วันไข้ยังแสดงออกมาให้เห็นเป็นระยะ ด้วยการชนะ 4 และแพ้ 4 เรื่องนี้พิสูจน์ได้จากเกมล่าสุดที่กล้าเปิดบ้านพ่ายให้กับ แอสตัน วิลลา ด้วยสกอร์ 3-0 ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเพิ่งจะบุกไปถลกหนัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง โอล์ แทรฟฟอร์ด ด้วยซ้ำ
ภาพรวมของทีมหลังการเข้ามาปรับแต่งของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วยระบบ 3-4-3 ถือว่ายกระดับขึ้นมาได้ขั้นหนึ่ง แต่มันยังไม่ดีพอที่จะรักษาความเสมอต้นเสมอปลายหรือมีทีเด็ดเมื่อยามที่พวกเขาไร้ซึ่งจินตนาการในการที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้
สถิติใน 2 เกมล่าสุดใน พรีเมียร์ลีก ที่ชนะทีม ปีศาจแดง และพ่ายคาบ้านต่อ วิลลา นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ทีมของ อาร์เตต้า เปิดเกมรุกเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของฝ่ายตรงข้ามได้น้อยกว่าคู่แข่ง รวมทั้งสถิติการยิงประตูก็ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทีมที่ครองเกมได้มาก โธมัส ปาเตย์ และ โมฮาเหม็ด เอลเนนี 2 มิดฟิลด์จะได้รับคำชมอย่างมาก แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดคือการเก็บกวาดตรงกลางสนามและเชื่อมเกมไปสู่แนวรุก ซึ่งยังขาดการสร้างสรรค์เกมที่ยังไมเพียงพอต่อการทำประตู
ยกตัวอย่างจากเกมล่าสุดที่เปิดบ้านพ่ายให้กับ แอสตัน วิลลา แบบสุดช็อค เว็บไซต์ Whoscored วิเคราะห์จุดแข็งของทีมเยือนที่ทำให้บุกมาเก็บ 3 แต้มเอาไว้ 4 ประเด็นคือ
สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้หลายครั้งจากการครองบอล สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพจากบอลยาว สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพจากเกมโต้กลับ และการจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด
นั่นเพราะพวกเขามีนักเตะอย่าง แจ็ค กรีลิช และ รอสส์ บาร์คลีย์ ในแดนกลาง ซึ่งทราบกันดีว่ารายแรกคือหัวใจสำคัญในแนวรุกของ สิงห์ผยอง ส่วนรายหลังเข้ามาเติมความแข็งแกร่งให้กับทีมได้อย่างลงตัว
คุณสมบัติเหล่านี้เราไม่ได้เห็นจากแผงมิดฟิลด์ของ อาร์เซนอล เลย รวมทั้งในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย
นั่นหมายความว่าจุดบอดของทัพ กันเนอร์ส คือพวกเขาไม่มีตัวทำเกมหรือเพลย์เมคเกอร์ที่สามารถสร้างสรรค์เกมเพื่อนำไปสู่การทำประตู รวมทั้งการเปลี่ยนสถานการณ์จากการผ่านบอลเพียงครั้งเดียว ซึ่งคุณสมบัติเหล่านั้นอยู่ในตัวของ เมซุต เออซิล ที่กำลังถูกหมางเมิน
มิดฟิลด์วัย 32 ปีอาจไม่ใช่ผู้เล่นที่วิ่งมากที่สุดหรือช่วยทีมในการเพรสซิ่ง แต่การที่มี ปาเตย์ และ เอลเนนี ที่คอยทำหน้าที่เก็บกวาดและเชื่อเกมคอยช่วยสสนับสนุนอยู่ข้างหลังจะช่วยให้การสร้างสรรค์เกมของอดีตนักเตะ เรอัล มาดริด มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รู้กันอยู่ว่าจุดเด่นของ เออซิล คือการอ่านเกมที่เฉียบขาด คิลเลอร์พาสที่นำไปสู้การเป็นเประตู การผ่านบอลที่ช่วยเปลี่ยนเกมเพียงเสี้ยววินาที และการเล่นลูกนิ่งที่ไว้ใจได้
ลองนึกภาพในเกมล่าสุดที่มีเพลยเมคเกอร์เลือดอินทรีเล็กอยู่ในสนาม ผลการแข่งขันอาจจะออกมาคนละแบบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มิเกล อาร์เตต้า ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำให้เราเห็นด้วยการลงดาบแบน เมซุต เออซิล ออกจากทีมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่เมื่อออปชันในแผงกองกลางยังจำกัดอยู่แบบนี้ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อผลงานของทีมในระยะยาว การให้โอกาสมิฟิลด์เยอรมันกลับมาช่วยทีมอีกครั้งก็น่าจะช่วยยกระดับทีมได้ไม่น้อย
บางทีนี่อาจะเป็นโอกาสสุดท้ายในการพิสูจน์ตัวเองของชายที่ชื่อ เมซุต เออซิล ก็เป็นได้
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด