[OPINION] อาร์เซนอล ในอุดมคติ : ความเด็ดขาดของ มิเคล อาร์เตต้า กรณี มัตเตโอ เกนดูซี
โดย โตมร นวลประเสริฐ
กลายเป็นประเด็นที่ลุกลามใหญ่โตจากการเผลอหลุดปากเพียงไม่กี่คำของ มัตเตโอ เกนดูซี เจ้าหนูมิดฟิลด์วัย 21 ปีชาว ฝรั่งเศส ของ สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล เมื่อมันทำให้เขาแทบจะหมดอนาคตในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
รายงานจากแหล่งข่าวผู้เป็นนักเตะของ ไบรท์ตัน ไม่เปิดเผยชื่อให้สัมภาษณ์กับ เดลีเมล ไว้ว่าแข้งวัยกระเตาะกล่าวว่านักเตะของทัพนกนางนวลนั้นห่วยแตก พร้อมทั้งนำเอาเรื่องค่าเหนื่อยที่รับกับต้นสังกัดมาข่มในการฟาดปากกันเกมที่ทั้ง 2 ทีมดวลกันในศึก ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เมื่อสัปดาห์ก่อน แถมด้วยการบีบคอ นีล โมเปย์ อย่างที่เราเห็นในการถ่ายทอดสด
แม้จะพาลให้เรานึกถึงบทบาทของ ปาทริค วิเอรา ตำนานแข้ง ไอ้ปืนใหญ่ ของพวกเขาในขณะแรกที่มักทำหน้าที่เป็นลูกพี่ใหญ่ยามที่ทีมเจอกับคู่แข่งกวนประสาท แต่หากทบทวนให้ดีแล้วหากความก้าวร้าวในสนามจะมีส่วนช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จหากใช้มันให้อยู่ในขอบเขตของเกม ซึ่งการตบะแตกหลังจบเกมอย่างที่ เกนดูซี ทำนั้นไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น ที่เห็นได้ชัดไปกว่านั้นคือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้แต่อย่างใดเมื่อ ไบรท์ตัน เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1
เกนดูซี รอดพ้นจากการลงโทษของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ แต่การเปิดเผยข่าววงในโดย เดวิด ออร์นสตีน ผู้สื่อข่าวชาว อังกฤษ กับ ดิแอธเลติก ระบุว่า มิเคล อาร์เตต้า ได้เรียกให้เจ้าตัวเข้าชี้แจงหลังจบเกมกับฝ่ายบริหารอย่าง เอดู เหตุการณ์ควรจะคลี่คลายไปในทางที่ดีอยู่บ้างหากเจ้าหนูชาว ฝรั่งเศส ยอมรับสำนึกผิดแต่เห็นได้ชัดว่ามันกลับกลายเป็นตรงกันข้ามเมื่อรายงานฉบับเดียวกันเผยว่า อาร์เตต้า ได้จับ เกนดูซี แยกซ้อมเดี่ยวนับตั้งแต่เกิดเหตุดังกล่าว ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า เดอะกันเนอร์ส พร้อมจะปล่อยเจ้าตัวออกจากทีมใน ตลาดซื้อขายนักเตะ รอบที่จะถึงนี้ทั้งในเงื่อนไขขายโดยตรงและเป็นส่วนหนึ่งของออปชันสลับขั้ว
คำถามอยู่ที่ว่ากุนซือลูกศิษย์ เป๊บ กวาร์ดิโอลา รายนี้ตัดสินใจทำเกินเหตุไปหรือไม่?
อาร์เตต้า พยายามเปลี่ยนแปลง อาร์เซนอล ให้กลายเป็นทีมในอุดมคติของตัวเขาโดยมีพิ้นฐานจากระเบียบวินัยของนักเตะ ซึ่งนั่นคือปัญหาของบรรดาแข้ง เดอะกันเนอร์ส ในช่วงหลังมานี้
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ตกเป็นประเด็นใหญ่ที่ย้อนกลับไปไม่นานนี้คือการแสดงอาการตบะแตกของ กรานิท ชาก้า ถอดเสื้อลงกับพื้นเมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกหลังได้รับเสียงโห่จากสาวก เดอะกันเนอร์ส ในสมัย อูไน เอเมรี หรือเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ อย่างไม่ให้ เอนสลีย์ เมตแลนด์-ไนลส์ ร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่หลังมาสายหลายครั้งโดย อาร์เตต้า และการส่งข้อความเสียงผ่าน วอทส์แอพ ตักเตือนแข้งในทีมชุดใหญ่ที่พลาดการประชุมทีมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในช่วง โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นต้น
ประเด็นระเบียบวินัยอาจสามารถอาจหลับตาข้างหนึ่งทำเป็นมองไม่เห็นไปได้อยู่บ้างหากคุณมีฝีเท้าฟ้าประทานในระดับ ดิเอโก้ มาราโดนา, โรนัลดินโญ หรือ ลิโอเนล เมสซี แต่กับคลาสอย่าง เกนดูซี ที่แม้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางวันเดอร์คิดที่ดีที่สุดของ ยุโรป ในปัจจุบันแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ไอ้ปืนใหญ่ จะหาตัวแทนเขาได้ยากเย็นนัก
ยิ่งเมื่อพิจารณาจากการให้โอกาสสำนึกผิดกับการประชุมภายในร่วมกับ เอดู แล้วเจ้าตัวยังแสดงอาการต่อต้านก็ยิ่งทำให้ อาร์เตต้า ต้องออกโรงใช้ไม้แข็งเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับนักเตะรายอื่นๆ ของทีมต่อไป ซึ่งแม้การเลือกแนวทางการบริหารทีมของ อาร์เตต้า อาจไม่สามารถทำให้เราเห็นภาพความสำเร็จของ เดอะกันเนอร์ส ได้ในเร็ววันนี้ แต่สิ่งที่เขาทำคือการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับ อาร์เซนอล ทำให้บรรดานักเตะอยู่ในโอวาท แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครในทีมมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น
ที่เหลือก็แค่รอให้เวลาทำหน้าที่ตัดสินเท่านั้น
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น ! * ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมายที่ระบุไว้สูงสุด