[OPINION] ดีน เฮนเดอร์สัน : ได้เวลามือหนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ?
โดย ชยพล ธานีวัฒน์
ประเด็นเรื่อง ‘ใครจะเป็นมือหนึ่ง’ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าในเกม พรีเมียร์ลีก 2 นัดที่ผ่านมา โอเล กุนนาร์ โซลชา จะยังคงมอบความไว้วางใจให้กับ ดาบิด เด เคอา ก็ตาม
ซีซันก่อนถือเป็นปีที่ประตูวัย 29 ปีโดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วง เพราะเจ้าตัวเล่นโชว์ลูกเหวอหรือแสดงความผิดพลาดออกมาให้เห็นแทบจะไม่ขาดตอน
ในขณะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน มือกาวดาวรุ่งที่ถูกยืมตัวไปเฝ้าเสาในฐานะตัวจริงของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กลับได้รับคำชมอย่างล้นหลาม จนนำมาสู่ประเด็นที่ว่าใครควรจะเป็นมือหนึ่ง ปีศาจแดง ในดูกาลนี้
สำหรับ 2 เกมที่ผ่านมานายประตูกระทิงดุไม่ได้ทำอะไรเสียหาย กลับกลายเป็นบรรดากองหลังที่สร้างความระทมกบาลให้กับแฟนบอลเสียมากกว่า โดย 2 เกมเสียไปแล้ว 5 ประตู เฉลี่ยนัดละ 2.5 ประตู ซึ่งดูแล้วมันน่ากังวลอยู่ไม่น้อย
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับผลงานของผู้ท้าชิงที่นั่งอยู่ข้างสนามอย่าง เฮนเดอร์สัน แล้วมันอาจทำให้หลายคนต้องมานั่งพิจารณากันใหม่อีกครั้ง
นายทวารสัญชาติอังกฤษได้ลงเฝ้าเสาในศึก คาราบาวคัพ จำนวน 2 เกมเท่ากันแต่สามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้ง 2 นัดแถมแต่ละเกมยังโชว์สิ่งที่เรียกว่า ‘ซุปเปอร์เซฟ’ ให้คนดูทางบ้านต้องลุกขึ้นโค้งคารวะหลายรอบ
ใครหลายคนอาจเถียงว่า ก็นั่นมันเจอกับทีมอย่าง ลูตัน ทาวน์ และทีมสำรองของ ไบรท์ตัน มันวัดอะไรไม่ได้หรอก แต่เมื่อหันไปดูทีมที่ เด เคอา ต้องเผชิญ คริสตัล พาเลซ และ ไบรท์ตัน ชุดตัวจริงก็ไม่ใช่ทีมที่มีเกมรุกเฉียบขาดหรือยิงกระจายแต่อย่างใด
จริงอยู่ 5 ลูกที่เสียไปอาจจะเป็นความผิดพลาดจากกองหลังและการวางแท็คติก แต่ถ้ามองถึงเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงหน้าปากประตู มันจึงอดไม่ได้ที่จะมีคนเอาผลงานของทั้งคู่มาเปรียบเทียบกัน
ความกดดันและคำถามจึงถาโถมใส่ เด เคอา และ โอเล กุนนาร์ โซลชาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
อย่าลืมว่าในเกม พรีเมียร์ลีก ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมีปัญหาที่เกมรับอย่างหนัก โดยพวกเขาพยายามจะแก้ไขมันด้วยการตามหาเซ็นเตอร์แบ็คคนที่ 2 เพื่อมายืนคู่กับ แฮร์รี แม็คไกวร์ ซึ่งตอนนี้ยังมีแต่สายลมและแสงแดด เพราะแม้ว่าจะตกเป็นข่าวกับยอดกองหลังหลายคนก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม
แถม โซลชา ยังออกมาให้สัมภาษณ์สวนกระแสว่า ตัวที่มีอยู่ก็แข็งแกร่งแล้ว จะซื้ออีกทำไม ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคำพูดที่ออกมาเป็นเพราะรู้ว่าต่อให้พยายามแค่ไหนก็คงจะไม่มีทางซื้อตัวใหม่ทันเวลาแน่ ๆ หรือมั่นใจตามที่พูดออกไปจริง ๆ
หากเป็นเช่นนั้นลองมาคิดเล่น ๆ กันดูว่า ถ้าโจทย์คือเกมรับ ทำไมนายใหญ่ไวกิ้งจึงไม่ลองหันมาใช้บริการนักเตะที่มีอยู่ตามที่พูดดูบ้าง
เกมกับ ไบรท์ตัน ใน ลีกคัพ คือสิ่งที่ โซลชา จะต้องนำมานั่งขบคิดเพราะผลงานเกมรับนั้นเข้าตาใครหลายคนอย่างมาก โดยเฉพาะ เอริค ไบญี ที่โชว์ฟอร์มดีซะจนแฟน ๆ เรียกร้องให้ดันขึ้นมายืนคู่กับ แม็คไกวร์ แทนที่ ‘ดิไอซ์แมน’ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ซักทีเถอะ
ส่วนตำแหน่งนายทวารก็เป็นอีกครั้งที่ ดีน เฮนเดอร์สัน โชว์ปฏิกิริยาการเซฟแบบสุดสวยอยู่หลายช็อตช่วยทีมไม่ให้เสียประตูและเป็นฝ่ายกำชัยชนะได้ในที่สุด
ถ้าคิดว่าหลักฐานยังน้อยไป งั้นย้อนกลับไปเกมที่พบกับ ลูตัน ทาวน์ ซึ่งก็เป็น ‘เฮนโด้ปีศาจแดง’ นี่แหละที่โชว์เซฟมุมแคบช่วยทีมไม่ให้โดนตีเสมอก่อนที่พวกเขาจะมายิงประตูฝังเจ้าบ้านผ่านเข้ารอบไปได้
2 เกม 2 คลีนชีต พร้อมช็อตเซฟสุดสวย ยังมีคำถามอะไรอีกมั้ย?
ดังนั้นการตัดสินใจครั้งนี้อาจจะเป็นการแก้ปัญหาทุกอย่างแบบที่ไม่ต้องเสียเงินซักปอนด์เดียว ซึ่งในมุมของเรื่องผู้รักษาประตูให้เดาใจ โซลชา เจ้าตัวก็คงจะอยากจะลองใช้ เฮนเดอร์สัน ใน พรีเมียร์ลีก ซักทีเหมือนกัน แต่ในเมื่อ ดาบิด เด เคอา ยังไม่ได้ก่อความผิดพลาดให้เห็นแบบชัดเจน การจะไปเปลี่ยนม้ากลางศึกแบบไร้เหตุผลก็อาจจะสั่นสะเทือนถึงสปิริตในทีมและส่งผลต่ออะไรหลาย ๆ ได้
ดังนั้นจึงเชื่อว่า ‘น้าโอเล’ จะยังคงให้โอกาสมือกาวกระทิงดุต่อไปอย่างน้อยอีกซักเกมหรือสองเกม หากยังรักษาฟอร์มการเล่นเอาไว้ได้ การลงสนามเกมแรกในลีกสูงสุดในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด ของนายทวารวัย 23 ปีก็อาจจะต้องลากยาวต่อไป
แต่ถ้าเกมกับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ในวันอาทิตย์เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมา ก็เป็นไปได้ว่าเวลาของ ดีน เฮนเดอร์สัน คงจะมาถึงซักที
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด