โอกาสของ แมนซิตี้ กับการคว้า “ทริปเปิลแชมป์” อีกครั้งในฤดูกาลหน้า - OPINION

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียผู้เล่นคีย์แมนไปหลายราย
  • ได้นักเตะใหม่ยังไม่ครบตามที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการ
  • ทีมคู่แข่งอื่นๆเสริมความแข็งแกร่ง
Atletico Madrid v Manchester City - Preseason Friendly
Atletico Madrid v Manchester City - Preseason Friendly / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages
facebooktwitterreddit

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำให้คู่แข่งหลายทีมมีความหวังในช่วงซัมเมอร์นี้ และมันเป็นเพียงช่วงไม่ถึงสองเดือนหลังจากพวกเขาคว้า “ทริปเปิลแชมป์” อย่างยิ่งใหญ่เมื่อซีซันที่ผ่านมา

แมนฯ ซิตี้ กำลังเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ด้วยทีมที่ดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับปีก่อน โดยพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” มีคิวจะลงเล่นในศึก คอมมูนิตี้ ชิลด์ กับ อาร์เซนอล ของเทรนเนอร์ มิเกล อาร์เตต้า ในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมนี้

Riyad Mahrez, Ilkay Gundogan
RB Leipzig v Manchester City: Round of 16 Leg One - UEFA Champions League / Fantasista/GettyImages

ในช่วงปิดซีซันนี้ แมนฯ ซิตี้ เสียคีย์แมนอย่าง อิลคาย กุนโดกัน กองกลางกัปตันทีมชาวเยอรมัน ให้กับ บาร์เซโลน่า และ ริยาด มาห์เรซ ปีกชาวแอลจีเรีย ที่ซัดไป 15 ประตู และ 13 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก็ย้ายไปยัง อัล อาห์ลี ในซาอุดิอาระเบีย ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์

ทั้ง กุนโดกัน และ มาห์เรซ มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ มาตลอดหลายปี ซึ่งการที่พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อไป นั้น ก็หมายความว่า ทีมของ กวาร์ดิโอล่า ก็มีทางเลือกน้อยลงกว่าเดิม

ขณะที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ ที่เป็นตัวหลักในแนวรับมาตลอดก็มีโอกาสสูงที่จะย้ายไปยัง บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งหาก ดาวเตะวัย 33 ปี โยกไปเล่นกับ “เสือใต้” จริง กวาร์ดิโอล่า ก็จะไม่เหลือแบ็คขวาที่ไว้ใจได้อยู่ในทีมอีกแล้ว โดยไม่ต้องพูดถึง ชูเอา กันเซโล่ ที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีม

เมื่อมองในภาพรวม แมนฯ ซิตี้ กำลังเจอกับฤดูร้อนที่ยากลำบาก และในช่วงปรีซีซันบรรดาสโมสรชั้นนำในอังกฤษ เลือกไปเก็บตัวอุ่นเครื่องที่สหรัฐอเมริกา แต่ “เรือใบสีฟ้า” กลับเลือกจะไปโชว์ฝีเท้าในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งหลายคนมองว่า แทบไม่มีประโยชน์มากนัก

ในซัมเมอร์นี้ แมนฯ ซิตี้ ได้ตัวนักเตะฝีเท้าดีอย่าง มาเตโอ โควาซิช มิดฟิลด์ทีมชาติโครเอเชีย มาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ แต่ดาวเตะวัย 29 ปี เพียงคนเดียว คงไม่สามารถแบกรับภาระได้ทั้งหมด แม้จะคุณภาพมากเพียงใดก็ตาม

Josko Gvardiol
Ipswich Town v RB Leipzig - Pre-Season Friendly / Stefan Matzke - sampics/GettyImages

แมนฯ ซิตี้ พยายามจะคว้าตัว ดีแคลน์ ไรซ์ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ตัดหน้า อาร์เซนอล แต่ก็ไม่สำเร็จ หลังจากไม่ยอมสู้ค่าตัว ขณะที่กองหลังเป้าหมายอย่าง ยอสโก กวาร์ดิโอล ของ แอร์เบ ไลป์ซิก ก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะบรรลุข้อตกลงสำเร็จ

เมื่อปีที่แล้ว แมนฯ ซิตี้ ทำธุรกิจอย่างรวดเร็ว และเฉียบขาดด้วยการเซ็นสัญญากับ เออร์ลิง ฮาลันด์, จูเลียน อัลวาเรซ, มานูเอล อาคันจิ รวมถึง คาลวิน ฟิลลิปส์ และส่วนใหญ่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งหมด

มองไปที่คู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล ก็พัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องด้วยการเซ็นสัญญากับ ไรซ์, ไค ฮาแวร์ตส์ และ จูเรียน ทิมเบอร์ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เซ็นสัญญากับ เมสัน เมาท์, อังเดร โอนาน่า และ ราสมุส ฮอจลันด์ กองหน้าจาก อตาลันต้า

ด้าน เชลซี หลังการแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเชตติโน่ เป็นโค้ชคนใหม่ ก็กระชากนักเตะมาร่วมทีม 5 ราย ประกอบด้วย คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, นิโคลัส แจ็คสัน, อักเซล ดิซาซี, อันเจโล กาเบรียล และ ดิเอโก โมเรรา

สำหรับ ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แม้จะเสียแกนหลักในแดนกลางอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ที่ย้ายไปยัง ซาอุดีอาระเบีย แต่พวกเขาก็คว้าตัว อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ และ โดมินิก โซบอสไล เข้ามาทดแทน

การคว้า “ทริปเปิลแชมป์” ถือเป็นความสำเร็จที่เหลือเชื่อของ แมนฯ ซิตี้ แต่การที่พวกเขาไม่ปรับปรุงขุมกำลังให้แข็งแกร่งเหมือนที่ผ่านมา บางทีมันอาจเป็นการผ่อนคันเร่งให้ทีมอื่นไล่ตามมาก็เป็นได้