"แฟรงค์ แลมพาร์ด รีเทิร์น" จะรุ่งหรือร่วงกับการรับเผือกร้อนที่ เชลซี - OPINION
โดย Navapun Munarsa
เชื่อได้ว่า ในเวลานี้แฟนบอล เชลซี สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คงเสียงแตกเป็นสองฝ่ายหลังจากมีการแต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตมิดฟิลด์ระดับตำนาน และกุนซือหวนกลับเข้ามากุมบังเหียน ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ระยะสั้นไปจนจบฤดูกาลนี้
แลมพาร์ด สร้างเซอร์ไพรส์เข้ามารับงานที่ เชลซี เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ต่อจาก เกรแฮม พ็อตเตอร์ อดีตโค้ชชาวอังกฤษ ที่โดนไล่ออกไป ซึ่งเจ้าตัวจะต้องนำพลพรรค “สิงโตน้ำเงินคราม” ลงเล่นในรายการ พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงที่เหลือของซีซัน
ก่อนหน้านี้ แลมพาร์ด เคยเป็นกุนซือ เชลซี ในระหว่างปี 2019-2021 หลังจากนั้น ก็โยกไปคุม เอฟเวอร์ตัน ได้ 1 ปี และโดนไล่ออกไปเมื่อต้นปี 2023 จากนั้น เจ้าตัวก็ว่างงาน ก่อนจะหวนกลับมารับตำแหน่งกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” อีกครั้ง
อดีตจอมทัพ เชลซี อธิบายว่า “ผมต้องการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และหลังจากนั้นเราค่อยมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวเองเพียงคนเดียว”
เกมแรกของ แลมพาร์ด คือการพา เชลซี ออกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในวันที่ 8 เมษายนนี้ จากนั้น 3 วันถัดไปต้องเจอศึกหนักด้วยการพาทีมไปเยือน เรอัล มาดริด ที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรก
ขณะเดียวกัน แลมพาร์ด เคยเป็นผู้เล่น เชลซี ในยุคที่ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ โค้ชขัดตาทัพพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จในฤดูกาล 2011-12 ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมถาวร ซึ่งหลายคนตั้งคำถามว่า เขาจะสามารถประสบความสำเร็จเหมือน ดิ มัตเตโอ ได้หรือไม่
แลมพาร์ด กล่าวว่า “มันไม่ใช่การตัดสินใจของผม ดังนั้น ผมไม่ต้องคิดข้ามขั้นไปมากนัก ผมเข้าใจว่าผมจะถูกถามคำถามนั้นบ่อยๆ แต่สำคัญสำหรับผมคือ การหยุดคำถามนั้น และโฟกัสไปที่งานที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอ”
ปัจจุบัน เชลซี รั้งอันดับ 11 ในตารางคะแนน โดยมีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ถึง 14 แต้ม แม้จะทุ่มเงินซื้อนักเตะใหม่ไปแล้วกว่า 550 ล้านปอนด์ในฤดูกาลนี้ ซึ่ง ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของสโมสรก็หวังว่า การเข้ามาของ แลมพาร์ด จะสร้างความมั่นใจให้กับแฟๆในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
โบห์ลีย์ กล่าวว่า “เราต้องการให้สโมสรแห่งนี้ และแฟนๆ มีแผนที่ชัดเจน และมั่นคงสำหรับช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล เราต้องการมอบโอกาสแห่งความสำเร็จให้ตัวเอง และ แฟรงค์ ก็มีความเหมาะสม และคุณภาพทั้งหมดที่เราต้องการเพื่อผลักดันเราไปสู่เส้นชัย”
แลมพาร์ด ซึ่งยิงได้ 211 ประตู จาก 648 เกมกับ เชลซี ยอมรับว่า มันเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมากในการกลับมาทำงานที่สโมสอีกครั้ง โดยระบุว่า “นี่คือสโมสรของผม ผมมีความรู้สึกทางอารมณ์มากมายต่อสโมสรแห่งนี้”
แลมพาร์ด เข้ามาเป็นกุนซือ เชลซี ปีแรกแรกในช่วงที่สโมสรโดนแบนห้ามซื้อนักเตะ แต่ก็สามารถพาทีมจบอันดับ 4 และเข้าชิง เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ โดยหลังจากนั้น เขาได้เงินเสริมทัพมากมายด้วยการคว้านักเตะใหม่ 7 ราย แต่ผลงานไม่เป็นไปตามเป้าก่อนจะโดน โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีมไล่ออก
แลมพาร์ด ซึ่งเข้าไปชมเกมที่ เชลซี เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กล่าวว่า “ผมรู้ว่ามีนักเตะพรสวรรค์มากมายในทีมนี้ ผมตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับพวกเขา และช่วยเหลือพวกเขา นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่”
ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ผลงานของ แลมพาร์ด กับ เชลซี ในรอบที่ 2 นี้ จะออกมาเป็นอย่างไร แต่สำหรับแฟนบอล “สิงโตน้ำเงินคราม” หลายคนคงคิดว่า สโมสรเดินมาถึงจุดที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว